Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  PortalliPortalli  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย

Go down 
3 posters
เน„เธ›เธ—เธตเนˆเธซเธ™เน‰เธฒ : Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6  Next
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyThu May 31, 2007 3:36 pm

บุญก่อขับรถพาหมิงมาถึงบ้านคุณนายแจ่ม ถึงหน้าบ้านแล้วก็ดับเครื่อง พากันลงมามองเข้าไปในตัวบ้านที่ดูเงียบเชียบ บุญก่อกดกริ่งที่รั้วบ้าน ส่วนหมิงมองไปรอบๆ แล้วพูดเปรยออกมาว่า


"บ้านดูเงียบๆ นะพี่ก่อ"


บุยก่อหันมาพยักหน้าให้ แล้วผิวปากแบบอิมโพรไวส์เสียงเล่น หมิงก็แอบมอง บุญก่อจึงหยุด หันมามองหน้า


"มีอะไรหรอ"


"คือว่า.."หมิงพูดแล้วหยุดไปนิดคล้ายไม่แน่ใจว่าจะพูดดีไหม ก่อนจะตัดสินใจกับตัวเอง "หมิงอยากถามอะไรพี่ก่อหน่อย"


"จะถามอะไรก็ว่ามาสิ"


"คือว่า..."หมิงตะกุกตะกักเล็กน้อยก่อนจะว่า "พี่ก่อมีอะไรผิดใจกับป๊าหรือเปล่า ทำไมพี่กับป๊าต้อง...ทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้าเลย"


บุญก่อฟังแล้วนิ่งอึ้งไปทันที ทำท่าเหมือนไม่อยากจะตอบคำถามนั้น


"มีอะไรบอกหมิงได้ไหม"


"ก็...มันก็ไม่มีอะไรมาก" บุญก่อตอบเรื่อยๆ เหมือนไม่สำคัญ มีแต่แววตาเท่านั้นที่แอบแฝงอะไรบางอย่าง


"ไม่มีอะไรมากแล้วทำไมต้องทะเลาะกันด้วยคะ" หมิงยังไม่เข้าใจ บุญก่อหันมามองหน้าหมิง หัวเราะ หึหึ "หัดเป็นคนช่างสงสัยเมื่อไหร่กันเนี่ย บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ หมิงน่ะยังเด็ก..." ประโยคหลังบุญก่อเหมือนจะพูดอะไรก็ไม่พูด


"ทำไมคะ เด็กแล้วเป็นยังไง เด็กไม่มีสิทธิรับรู้อะไรเลยหรอ"


"มีสิ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้" บุญก่อว่า มองหน้าหมิง สายตาเขาอ่อนโยนลง "เชื่อพี่นะ ตอนนี้หมิงอาจจะยังไม่เข้าใจพี่ แต่ต่อไป หมิงจะรู้และเข้าใจทุกอย่างเอง"


บุญก่อพูดเรียบๆ ก่อนจะหันไปมองบริทนีย์ที่เดินอย่างหงอยๆ เข้ามาเปิดประตูให้


หมิงจึงเลิกสนใจเรื่องเมื่อครู่นี้ชั่วคราว รีบถามบริทนีย์ทันที


"บริทนีย์ เซร่าอยู่กับบริทนีย์หรือเปล่า"


บริทนีย์สะดุ้งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เซร่าไปค้างบ้านหมอต่ายโดยที่ไม่บอกใครเลย ถึงกับหมิงต้องมาตามหาเลยหรอเนี่ย แล้วเราจะบอกหมิงว่าอะไร


"ก็ เอ่อ เซร่าไม่ได้อยู่กับชั้นหรอก หมิง"


"อ้าว แล้วเซร่าจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ" หมิงท่าทางร้อนรนขึ้นมาทันที "แล้วหมิงจะไปตามหาเซร่าได้ที่ไหน"

"หมิง อย่าเพิ่งกังวลไปเลย บาทีเซร่าอาจจะมี..เอ่อ..ที่ไปที่ดีก็ได้ ไม่แน่นะ ป่านนี้อาจจะนั่งรออยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ได้"

หมิงมองบริทนีย์อย่างสังเกต นอกจากวันนี้บริทนีย์จะดูซึมๆ ไม่สดใสร่าเริงเหมือนเคยแล้ว ยังดูทีท่าไม่เป็นห่วงเซร่าสักนิด ทั้งๆที่เพื่อนหายไปทั้งคน

"เธอว่าเซร่าจะกลับร้านก๋วยเตี๋ยวหรอ" หมิงถาม บริทนีย์พยักหน้า

"เชื่อชั้นเถอะ ว่าเซร่าไม่ได้เป็นอะไรไปจริงๆ"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyThu May 31, 2007 3:36 pm

คืนนี้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวอาโกวิด


เซเรน่าอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังจะนอน แต่ตาเหลือบไปเห็นถุงกระดาษที่วางแอบไว้ข้างเตียง


ถุงกระดาษใบนั้นมีชุดนอนของตรัยที่ตัวเองใส่เมื่อคืนพับอยู่ข้างใน เซเรน่าเอามาด้วยเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าใส่เสื้อผ้าเขาแล้วทิ้งขว้าง


เดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบซักแล้วรีดให้อย่างดี ไม่ให้จอมเนี๊ยบอย่างเขามาว่าเอาได้เชียวแหละ


คิดถึงเมื่อคืนแล้วออกจะรู้สึกแปลกชอบกล ไม่น่าเชื่อว่าเราจะไปนอนค้างบ้านผู้ชายแปลกหน้าสองต่อสองได้ ผู้ชายแปลกหน้าหรอ อืม


ถึงเขาจะเป็นผู้ชายแปลกหน้า ถึงเราจะรู้ว่าเขานอนอยู่หน้าห้องนี่เอง ถ้าเขาจะทำอะไร เขาก็คงทำได้ แต่เรากลับไม่รู้สึกกลัวเลย ตรงกันข้าม เมื่อมีเขานอนเฝ้าอยู่หน้าห้อง เรากลับรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัย


เฮ้อ เซเรน่าสะบัดหน้า คิดอะไรเพ้อเจ้ออีกแล้วเรา


บ่นกับตัวเองแล้วเปิดห้องนอนที่นอนกับหมิง ก็เห็นหมิงนั่งอยู่ที่เตียง กำลังมองมาที่ตัวเองพอดี


"มาแล้วหรอ เซร่า"


"อืม หมิงมีอะไรหรอ" เซเรน่าถามแล้วนั่งลงอีกฟากหนึ่งของเตียง


"หมิงมีอะไรจะถามเซร่าหน่อย" หมิงจับตาดูพฤติกรรมเพื่อนด้วยความสังเกตสังกา "เมื่อคืนนี้เซร่าไปนอนที่ไหนมา"


เซเรน่าชะงัก อึ้งไปทันที ก่อนจะรีบหาวแล้วล้มตัวลงนอน ทำท่าง่วงขึ้นมาทันที "ก็..เอ่อ...ไปนอนบ้านเพื่อนคนรู้จักแหละ เฮ้อ ง่วงจังเลยหมิง ขอชั้นนอนก่อนนะ"


"เดี๋ยว ยังนอนไม่ได้" หมิงรีบดึงมือเซเรน่าขึ้นมาทันที แต่เจ้าตัวอิดออด ทำท่าง่วงซะเต็มประดา "เซร่ามีเพื่อนทื่ไหนนอกจากบริทนีย์หรอ แล้วเพื่อนคนนั้นหมิงรู้จักหรือเปล่า"


"เอาไว้คุยกันวันหลังได้ไหมอ่ะ ชั้นง่วงมากเลย" เซเรน่าพยายามกลบเกลื่อนเต็มที่


"ไม่ได้นะเซร่า เธอปิดบังอะไรอยู่น่ะ ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงบอกหมิงไม่ได้"


"ไม่ใช่บอกไม่ได้..." เซเรน่าว่าอย่างอ่อนใจ ไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ "แต่ว่า...ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่รับรองนะ ว่าชั้นไม่ได้อะไรเสียหาย เพียงแต่..."


เซเรน่าหันมามองหมิง ก็เห็นสายตาไม่เข้าใจมองตอบ "เพียงแต่หมิงอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลยนะ แล้วต่อไป ชั้นจะเล่าให้ฟังเอง นะ.."


หมิงนิ่งไป เห็นแววตาลำบากใจของเพื่อนแล้วก็พยักหน้า "ถ้ายังไม่อยากบอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่เซร่าต้องจำเอาไว้ ว่ามีอะไร หมิงพร้อมจะรับฟังเสมอนะ"


เซเรน่ายิ้มให้ "ขอบคุณมากนะ หมิง ขอบคุณมากจริงๆ" ว่าแล้วหาวอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาลงไปด้วยความเพลีย หมิงมองเพื่อนเห็นนอนหลับลงไปแล้ว สายตาก็เปลี่ยนเป็นครุ่นคิด


เซร่ามีอะไรปิดบังเราอยู่แน่ๆ แต่ไม่รู้เป็นเรื่องอะไรสิน่า หมิงคิดอย่างสับสน คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จึงลุกจากเตียงจะเดินไปอาบน้ำบ้าง


แต่พอเดินพ้นเตียง สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ที่ซอกเตียง หมิงมองซ้ายขวา (จะมองทำไม -*-) ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไป ดึงของสิ่งนั้นออกมาจากซอกเตียง


เซร่าเอาอะไรมาซ่อนไว้ที่ซอกเตียงนะ เอ นี่มันก็ถุงกระดาษธรรมดานี่นา หมิงคิดพลางเปิดดูสิ่งของข้างใน


เอ๊ะ นี่มัน เสื้อผ้าชุดนอน ตัวหลวมโคร่งอย่างนี้ นี่มันของผู้ชายนี่ แล้วเซร่าเอามาได้ยังไง หรือว่า...หมิงคิดโยงเหตุการณ์ไปถึงเมื่อคืนวาน ที่เซร่าบอกว่าไปนอนค้างกับเพื่อน เพื่อนอะไรทำไมให้ใส่ชุดนอนผู้ชาย นอกเสียจากว่า...เพื่อนคนนั้นจะเป็นผู้ชาย...หมิงเบิกตาโต


เซร่าไปรู้จักผู้ชายบ้านทุ่งคนไหนกัน แล้วสนิทกันยังไงถึงได้ไปนอนบ้านเขา เอาเสื้อผ้าเขามาใส่ได้ หมิงคิดแล้วชะงัก เมื่อตอนที่กลับมาร้านก๋วยเตี๋ยว ป๊าบอกว่า พี่ตุ่น ชุมพล เป็นคนมาส่งเซร่า หรือว่า...พี่ตุ่น ชุมพล....
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyThu May 31, 2007 3:37 pm

ในเวลาหัวค่ำ ที่คฤหาสถ์ของคุณนายแจ่ม ลมพัดโชยชายเย็นสบาย


พัชรานอนอยู่บนเตียง อาการดีขึ้นมากตั้งแต่หมอน้ำมนต์มาตรวจเมื่อกลางวัน ตอนนี้เหลือเพียงปวดหัวมึนๆ เท่านั้น


นอนเงียบๆ เหงาๆ อยู่บนเตียง นึกถึงบริทนีย์แล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ ปกติบริทนีย์จะต้องมาคุยเล่นด้วยจนดึกดื่นถึงจะกลับเข้าห้องตัวเอง แต่วันนี้เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว บริทนีย์กลับขอตัวไปนอนทันที โดยอ้างว่าเพลีย


คนร่าเริงสดใสอย่างบริทนีย์ไม่เคยมีอาการอย่างนี้มาก่อน เฮ้อ อย่าว่าแต่บริทนีย์เลยที่แปลกไป เราเองก็ต้องยอมรับว่าก็ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นักเหมือนกัน


คิดแล้วถอนหายใจ ก่อนที่สายตาจะอดเหลือบไปมองระเบียงที่ปิดม่านเอาไว้มิดชิดไม่ได้ ในใจคิดไปถึงคนๆ หนึ่ง


ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องไปคิดถึงเขาด้วยก็ไม่รู้ เลิกคิดถึงเขาซะเถอะ คิดแล้วก็หันหน้าหนี


แต่ก่อนจะหันหน้าหนีนั้นเอง พัชราก็รู้สึกเหมือนม่านไหวขยับวูบวาบ นั่นทำให้พัชราต้องหันกลับมาอีกครั้ง เพื่อได้เห็นว่า ม่านนั้นขยับไหวเกินกว่าแรงลมธรรมดา


ในใจไพล่ไปคิดถึงเขา ก่อนจะรีบเตือนตัวเองว่า เขาคงไม่มาอีกแล้ว ดูสายตาของเขาวันนี้เราก็รู้ได้ว่า เขาคงไม่มาอีกแล้ว


แล้วถ้าไม่ใช่เป็นเขา แล้วจะเป็นใครล่ะ พัชราคิดอย่างเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา จะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้นนี่ ใครๆ ก็รู้ว่าคุณแม่รวยที่สุดในตำบล ถ้าจะมีใครสักคนคิดอย่างแบ่งเงินไปใช้บ้าง มันก็คงจะไม่แปลก


คิดได้ดังนั้นพัชราก็ใจหายวาบทันที ท่าทางคนๆนั้นพยายามจะเปิดประตูกระจกของระเบียงเข้ามาในห้อง พัชราหันรีหันขวาง อารามตกใจตอนนั้นลืมที่วิ่งหนี เพราะด้วยวิสัยนักสู้ที่ติดมาจากมารดา ทำให้พัชราคิดจะจับเจ้าคนร้ายให้ได้


หันไปเจอไม้เบสบอลวางอยู่ จึงรีบไปหยิบมาถือไว้ แล้วย่างสามขุมเข้าไปที่ระเบียงทันที เข้ามาสิ ถ้าเข้ามาก็เจอไม้เบสบอลสลบเมือดแน่ คราวนี้ละ ชั้นจะจับตัวแกส่งตำรวจด้วยมือของชั้นเองเลย พัชราคิดก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูกระจก


กระชากประตูกระจกออก พร้อมๆ กับที่คนๆนั้นพรวดเข้ามา พัชราเงื้อมือกะจะฟาดไม้เบสบอลเข้าหัวคนๆนั้นอย่างจังๆ


แต่คนนั้นไหวตัวทัน รีบจับมือพัชราทั้งสองข้าง แล้วออกแรงขืนไว้ พัชราก็ไม่ยอม ถึงตรงนั้นจะเป็นที่มืด แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าคนนั้นเป็นผู้ชายท่าทางแข็งแรง


ทั้งสองชุลมุนชุลเกจนพัชราเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ไม้เบสบอลหลุดจากมือ หล่นกลิ้งอยู่ข้างๆ เท้า พอดีกับที่คนนั้นรวบตัวพัชราเข้ามาชิด


เขารีบพูดขึ้นมาทันที "นี่คุณเกลียดผมถึงกับจะฆ่ากันให้ตายเลยหรอ"


พัชราได้ยินเสียงนั้นก็จำได้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร แม้ที่นั้นจะมืดก็ตาม ในใจเต้นแรงขึ้นมาจนแทบจะโลดออกมานอกอก มือไม้แทบจะอ่อนลงไปทันที แต่ก็แข็งใจตอบไป


"แล้วนายมาทำบ้าอะไรที่นี่ ตอนนี้"


"ทำบ้าหรอ ใช่ ผมมันบ้า" เสียงนั้นตอบ ก่อนจะพูดเสียงขื่น "ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องมาที่นี่"


ทุยพูดแล้วมองคนที่รวบเข้ามาชิด อกใจสั่นไหวไปหมดเมื่อสัมผัสถึงเลือดเนื้อ และความนุ่มนวล แม้ในแสงสลัวรางนั้นจะไม่เห็นใบหน้าของพัชราได้ชัด แต่เขาก็จินตนาการได้ทันที ว่าใบหน้าของพัชราจะเป็นเช่นไร เขาจินตนาการจากความรู้สึก จากสัมผัสและจากเสียงเต้นของหัวใจ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:27 pm

เสียงเต้นหัวใจที่แรงจนหัวใจเขาสัมผัสได้


"ผมรู้ว่าคุณคงไม่อยากให้ผมมาที่นี่อีก คุณอาจไม่อยากเห็นหน้าผมด้วยซ้ำ และผมเอง ก็เคยคิดว่าจะไม่มาที่นี่เช่นกัน" ทุยพูดเสียงเบา น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้า


พัชราเหลือบมองหน้าทุย ความตื่นเต้นนั้นยังไม่หายไป ฟังคำพูดของเขาแล้วขยับจะพูดอะไรออกมา แล้วก็ไม่พูด กลับพูดไปอีกอย่าง


"แล้วมาทำไม"


"ไม่รู้สิ.." ทุยหัวเราะหึหึ มองคนตรงหน้าในความสลัว ก่อนจะพูดต่อ "ก็คงแค่อยากรู้มั้ง ว่าไม่สบายหายหรือยัง" ในคำพูดนั้นแฝงความห่วงใยจนพัชราสัมผัสได้ จึงอึ้งไปก่อนจะตอบ


"ก็..ค่อยยังชั่วแล้ว..."


"งั้นหรอ...ตัวก็อุ่นๆ นะไม่ร้อนเหมือนตอนเช้า" คำพูดของทุยทำให้พัชราใจเต้นโครมคราม เมื่อนึกได้ว่ายังอยู่ในอ้อมแขนของเขา รีบสะบัดหนี


"ปล่อยชั้นได้แล้ว...." แต่ทุยไม่ยอมปล่อย มือเหนียวยังกับทากาวเอาไว้


"ถ้าผมไม่ปล่อยจะมีอะไรไหม" ทุยว่าแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแตะหน้าผากพัชราเบาๆ เมื่อเห็นว่าหายร้อนไปมากแล้วก็ยิ้มนิดๆ พัชรายืนนิ่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกกับสัมผัสที่แผ่วเบานั่น


"ถ้านายไม่ปล่อยชั้นจะร้องนะ ที่นี่บ้านของชั้น ไม่ใช่บ้านของนาย ถ้าชั้นร้องขึ้นมา นายไม่รอดแน่" พัชรารวบรวมกำลังใจพูดขู่ แต่ทุยหัวเราะหึหึ


"ก็ลองดูสิ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าจะเป็นยังไง แต่ผมว่าคุณไม่กล้าหรอก"


"นี่นายท้าชั้นหรอ" พัชรายังแข็งใจพูด ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าตัวเองร้องเสียงดังออกไป แล้วใครต่อใครเข้ามาเจอในสภาพนี้ แล้วเราจะทำหน้ายังไง


"ไม่ได้ท้าครับ แต่ผมสงสัยว่าคุณจะเงียบอยู่ทำไมล่ะ ร้องสิครับ" ประโยคหลังเขาแกล้งพูดนุ่มนวล พัชรานึกฉุนขึ้นมา ตัดสินใจจะตะโกนให้ได้ยินกันไปสามบ้านแปดบ้านเลยคราวนี้


แต่ระหว่างที่กำลังจะตะโกนอยู่นี่เอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ประตู (ดังอีกแล้วหรอ)


"เพชรชี่ หลับหรือยัง แม่ขอเข้าไปหน่อยนะ ประตูไม่ได้ล็อกใช่ไหมลูก" เสียงคุณนายแจ่มนั่นเองที่ดังขึ้นมา ทุยกับพัชราหันมามองหน้ากัน พัชรารีบบอก


"ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่คุณแม่จะเข้ามาเห็น ประตูไม่ได้ล็อกนะ"


ทุยนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยตัวพัชรา เขาพูดเบาๆ "ความจริงไม่อยากจะปล่อยหรอกนะ แต่ไม่อยากให้แม่คุณมองคุณไม่ดี" พูดจบก็รีบเดินออกไปนอกระเบียง พัชราอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะจัดการรูดม่านปิด พอดีกับที่คุณนายแจ่มเปิดประตูเดินเข้าห้องมา


"เพชรชี่..."คุณนายเรียกตามองไปที่เตียง แต่ไม่เห็น


"หนูอยู่นี่ค่ะ" พัชรารีบร้องบอก คุณนายมองแล้วขมวดคิ้วทันที


"อ้าว แล้วไปยืนทำอะไรตรงนั้นล่ะลูก" คุณนายทำหน้าสงสัย เดินเข้ามาหาพัชราที่ระเบียง พัชราสะดุ้งทันที พยายามจะเดินกลับ แต่คุณนายแจ่มเดินเข้ามาถึงตัวแล้วจับมือไว้ซะก่อน


"แม่ถามไม่ได้ยินหรอ ลูกมายืนทำอะไรตรงนี้"


"คือ หนูมายืนรีบลมน่ะค่ะ" พัชราตอบตะกุกตะกัก แอบมองลอดม่านว่าคนที่อยู่นอกระเบียงจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็มองไม่เห็น


"เพิ่งจะหายไข้มายืนรับลมได้ยังไง เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีกหรอก ลูกคนนี้นี่จริงๆ เลย ชอบทำอะไรที่แม่ไม่ปลื้มอยู่เรื่อย" คุณนายบ่น พัชราจึงทำหน้างอน


"หนูจะไปดีเหมือนคนที่แม่ปลื้มได้ยังไงคะ" แกล้งพูดเสียงดังให้ใครคนหนึ่งได้ยิน


"อย่าพูดอย่างนั้นสิเพชรชี่ พ่อทุยเขาเป็นคนดีมากนะ นี่แม่ก็วานให้เขามาช่วยดูเจ้าโง้งกับฝูงควายหน่อย สภาพจิตใจมันไม่ค่อยดี ถ้าพ่อทุยมาดูแล รับรองว่ามันต้องดีขึ้นแน่ๆ" คุณนายพูดแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่ปลื้ม


"ให้เขามาดูแลน้องโง้ง แล้วเขายอมมาหรอคะ"


"ยอมสิจ๊ะ ทำไมจะไม่ยอมล่ะ" คุณนายพูดยิ้มๆ พัชรามองแล้วสังเกตว่าแม่จะมีความสุขมากเมื่อพูดถึงคนๆนั้น ป่านนี้เขาคงได้ยินหมดแล้วว่าคุณแม่ปลื้มเขาแค่ไหน


"เขาคงยอมมาเพื่อเอาใจแม่มั้งคะ"


"เพชรชี่.." คุณนายเรียกเบาๆ "อย่าไปพูดแบบนั้นให้เขาได้ยินเชียวนะ อย่าทำให้เขาเสียใจเลย...ถือซะว่า แม่ขอร้องแล้วกันนะ"


"คุณแม่ถึงกับขอร้องเชียวหรอคะ เขาสำคัญกับคุณแม่มากขนาดนั้นเลยหรอคะ" พัชรามองหน้าแม่ด้วยความแปลกใจ สีหน้าคุณนายแจ่มดูจริงจัง


"ตอนนี้ลูกยังไม่เข้าใจหรอก แต่ต่อไปน่ะ ลูกจะต้องเข้าใจแน่ ว่าทำไมแม่ถึงต้องขอร้องแบบนี้" คุณนายแจ่มพูดแล้วมองหน้าลูกสาว เห็นยังงุนงงอยู่ ก็เปลี่ยนเรื่อง


"ว่าไป รับลมซะหน่อยก็ดีเหมือนกันนะ ที่ระเบียงนี่ท่าจะลมเย็นดีนะลูก ไป เราไปรับลมกันดีกว่า" คุณนายแจ่มว่าแล้วทำท่าจะเปิดประตูกระจกที่กั้นระเบียง พัชราขยับจะห้ามก็ห้ามไม่ทัน


คุณนายรูดม่านออกแล้วเปิดประตูกระจกทันที พัชราใจหายวาบ รีบกวาดตามองไปทั่วระเบียงทันที ก่อนจะหันมาหาคุณนายแจ่ม ก็ได้ยินคุณนายว่า


"อืม ลมเย็นอย่างที่คิดจริงๆ นะเพชรชี่ ว่าไหม" คุณนายหันมาถาม พัชราพยักหน้าตอบ ตามองไปทั่วระเบียงก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ชายคนนั้น เห็นดังนั้นแล้วพัชราก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:28 pm

บริทนีย์นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือข้างหน้าต่าง ท่าทางหงอยๆ


ในมือนั้นถือจดหมายฉบับหนึ่ง จดหมายที่ได้รับจากแดนไกล จดหมายที่จะต้องเอามาอ่านซ้ำอีกครั้งหนึ่ง อ่านเสร็จแล้วก็ต้องครุ่นคิดด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง เมื่อตอนได้รับนั้นดีใจเสียนักหนา แต่ตอนนี้ ทำไมกลับรู้สึกเฉยๆ ก็ไม่รู้


นั่งเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วก็สังเกตุเห็นมดหลายตัวกำลังเดินเรียงกันอยู่ที่ขอบหน้าต่าง บริทนีย์หยุดมอง ค่อยยื่นหน้าเข้าไปดูมันใกล้ๆ


เห็นมดเดินเรียงกันเป็นแถวแล้วก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่โดนมดกัดบนต้นมะม่วง
ไม่ได้ เฮ้อ คิดแล้วถอนหายใจ ยิ้มอย่างเศร้า


ไม่รู้จะไปคิดถึงคนที่เขาไม่คิดถึงเราทำไม ก็พัชราบอกแล้วไม่ใช่หรอ ว่าความรักคือการเสียสละ


เราควรเสียสละเพื่อให้คนที่รักมีความสุข หลักง่ายๆ แค่นี้ เราจะพยายามทำให้ได้ บริทนีย์คิดกับตัวเอง


ในขณะเดียวกันที่บ้านของแมน แมนกำลังนั่งดูรูปใบหนึ่งอยู่ในห้องนอน


ได้ยินเสียงคนอยู่หน้าห้อง แมนจึงเหลือบไปดู


"แมน ยังไม่หลับใช่ไหม" คนนั้นพูดเสร็จแล้วก็ไม่รอคำตอบ เดินเข้ามาในห้องทันที แมนร้องทัก


"อ้าว อารัก ผมยังไม่นอนครับ"


"ทำไมไม่นอนล่ะ อ้อ รอดูบอลศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล - แมนยูใช่ไหมล่ะ" อารักเดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ


"อ้าว มีวันนี้หรอครับ ทำไมผมไม่รู้เลย" แมนว่าทำหน้างง เล่นเอาอารักต้องมองด้วยสายตาครุ่นคิด "แมนเป็นอะไรไปหรือเปล่า ปกติไม่เคยพลาดแมตต์สำคัญขนาดนี้นี่"


"ผม เอ่อ...ผมคงงานยุ่งน่ะครับ" แมนตอบตะกุกตะกัก แต่อารักยังเคลือบแคลงสงสัย ตาเหลือบไปมองรูปที่แมนถืออยู่ "อ้อ อาพอจะรู้แล้ว อาเคยบอกแมนแล้วไง เคยเตือนแมนก็ตั้งหลายครั้ง ทำไมไม่เชื่ออาบ้าง"


"ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ ก็แค่...มองอยู่ห่างๆ" แมนรีบพูด แต่อารักยังส่ายหน้า "อาเข้าใจแมนนะ แต่ว่าสิ่งที่แมนหวังน่ะ มันไม่มีทางเป็นจริงไปได้หรอก เขาห่างกับเราเกินไป"


แมนฟังอารักพูดแล้ว สะท้อนใจตัวเอง ได้แต่พูดเสียงขื่น "ผมรู้ดีครับ ผมรู้ดีว่าเรากับเขามันคนละชั้นกัน แต่ผมก็.." พูดแล้วเงียบไป คล้ายความอัดอั้นที่ฝังแน่นอยู่ในใจนั้นกดอัดคำพูดของแมนเอาไว้ มีแต่สายตาขมขื่นเท่านั้น ที่ฉายแววออกมาอย่างแรงกล้า


"อารู้ ว่าแมนรู้สึกยังไง แต่ที่อาพยายามเตือนให้แมนห่างออกมา เพราะว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะรับรู้ เขาคงไม่สนใจคนอย่างเราหรอก"


"ครับ เขาไม่เคยสนใจ หรืออย่างน้อยเขาก็สนใจผมแค่ตามมารยาทเท่านั้น" แมนพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย อารักมองท่าทางนั้นแล้วถอนหายใจ


"อาไม่น่าทำให้แมนต้องเป็นแบบนี้เลย"


"ถึงอาไม่ทำผมก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่ดี ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทนได้ ผมพร้อมที่จะเฝ้าดูอย่างนี้เรื่อยไป ผมคงไม่ตายหรอกครับอา"


"อืม ถ้าแมนคิดอย่างนี้ อาก็ไม่รู้จะว่ายังไง แต่อาอยากจะบอกอะไรแมนสักหน่อยนะ..."อารักหยุดแล้วจ้องตาหลานชาย "คิดถึงคนที่เรารักแล้ว อย่าลืมคิดถึงคนที่รักเราบ้างล่ะ"


คราวนี้แมนหัวเราะ ส่ายหน้าทันที "อาพูดอะไรน่ะ มีด้วยหรอครับ คนที่รักผม ผมยังไม่เห็นจะเจอเลย"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:28 pm

เช้าวันนี้ เซเรน่ารีบตื่นแต่เช้า เหลือบตามองหมิงที่นอนอยู่ข้างๆ เห็นกำลังหลับสนิทก็ค่อยๆ ลุกออกมา คว้าถุงที่ซ่อนไว้ซอกเตียงเดินออกมาจากห้องทันที


คล้อยหลังเซเรน่า หมิงก็ลืมตาตื่นขึ้น อุตส่าห์แกล้งหลับตั้งนานเพราะอยากจะรู้ว่า เซเรน่าจะทำอะไรกับเสื้อผ้าชุดนั้น


คิดได้ดังนั้นก็รีบย่องลงไปดูหลังบ้าน เห็นเซเรน่ากำลังซักผ้าเหยงๆ ท่าทางตั้งใจน่าดู ดูสิ ซักมืออย่างพิถีพิถันเชียวแหละ


ซักไปก็ร้องเพลงไป ท่าทางมีความสุขน่าดูเลยนะเนี่ย ได้ยินเสียงเพลงดังแว่วๆ มาว่า


"เพียง..เธอมาใกล้กัน...ใจมันสั่นๆๆ และค่อนข้างเหงา....เกิดอาการวิงๆ เธอจะรักกันจริงหรือเปล่า วาว วาว วาว วาว...."


หมิงมองอย่างแปลกใจแล้วค่อยๆ ถอยออกมา เราจะต้องรู้ให้ได้ ว่าผู้ชายเจ้าของชุดนอนคนนั้นใช่พี่ตุ่น ชุมพลหรือเปล่า...


เช้านี้ตรัยแต่งตัวเรียบร้อย เดินลงมาจากบ้านพัก ในมือถือโทรศัพท์


"ถ้าพี่อยากได้รถสักคัน จะไปซื้อที่ไหนดีล่ะพัด"


เสียงปลายสายตอบมาว่า "พี่ตรัยอยากได้รถแบบไหนล่ะคะ สงสัยต้องไปดูในเมืองแล้วล่ะ เดี๋ยวพัดจะไปเป็นเพื่อนดีไหม"


"ขอบใจพัดมากเลย แต่พี่ไม่ได้อยากได้รถใหญ่อะไรมาก ที่ตลาดโคกสารินพอจะมีขายหรือเปล่า"


"ที่ตลาดโคกสารินหรอคะ มันก็พอจะมีอยู่ แต่พี่ตรัยแน่ใจนะว่าจะเอารถที่ตลาดเนี่ย"


"อืมๆ อยู่บ้านทุ่งจะใช้รถหรูอะไรมากมาย เอาแค่ไปไหนมาไหนได้ก็พอ เอารถที่เหมาะกับที่นี่แหละ" ตรัยตอบ เสียงปลายสายตอบกลับมาว่า


"งั้นเอาเป็นว่าพี่ตรัยนั่งรถมาที่ตลาดโคกสารินก็แล้วกัน พัดจะรออยู่นะคะ พี่ตรัยออกจากบ้านหรือยัง"


"กำลังจะออกจ้ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ สวัสดีครับ" ตรัยพูดโทรศัพท์จบก็เดินมาถึงหน้าสถานีอนามัยพอดี มองเห็นรถสองแถวสีเขียวกำลังวิ่งมาแต่ไกล เขาก็โบกแล้วขึ้นไปนั่ง


บุญก่อกระเป๋ารถมองเหล่ๆ แล้วถาม "หมอต่ายจะไปไหนหรอครับ"


"อ้อ ผมจะไปตลาดโคกสารินน่ะครับ" ตรัยตอบพร้อมกับยิ้มให้ บุญก่อยิ้มให้นิดๆ ก่อนจะบอกว่า


"ไปตลาดโคกสารินก็ซื้อของขึ้นชื่อเขามาด้วยสิครับ คุ๊กกี้แม่เนิกนั่นไง ของเค้าดีจริงๆครับ เผื่อหมอต่ายอยากจะซื้อไปฝากใคร ผมก็ขอแนะนำ"


"งั้นหรอครับ ขอบคุณคุณก่อมากที่แนะนำ" ตรัยยิ้มตอบ แต่บุญก่อไม่ได้ตอบว่าอะไร หันไปอิมโพรไวส์เสียงเล่นเหมือนเคย
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:29 pm

วันนี้แดดแรงมากเป็นพิเศษ เสื้อผ้าชุดนอนบางๆ จึงแห้งได้ง่ายๆ เพียงเวลาครึ่งวันเท่านั้น


เซเรน่าตากชุดนอนแอบๆ ไว้ ไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็น แต่ก็คอยมาแอบดูอยู่บ่อยๆ ว่าเสื้อผ้าแห้งหรือยัง เมื่อเห็นแห้งแล้วก็รีบหยิบออกไปจากราวทันที


มองซ้ายมองขวาแล้วคว้าเตารีดเข้าห้อง รีดผ้าอย่างพิถีพิถัน เดี๋ยวเขาจะว่าเอาได้ ต้องรีดกลีบให้โง้งไม่ให้แพ้เขาเชียวแหละ


ขณะที่เซเรน่ากำลังตั้งใจกับงานตรงหน้า หมิงเองก็กำลังแอบดูอย่างตั้งใจเช่นกัน


จนเซเรน่ารีดผ้าเสร็จเรียบร้อย พับใส่ถุง ทำท่าจะย่องออกจากร้านไป หมิงก็เตรียมตัวจะย่องตาม


แต่กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน


"อาร่า อาหมิง อาบริทนีย์มาหาแน่ะ พวกลื้ออยู่ที่ไหนกัน" เสียงอาโกวิดดังมาจากหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ทำให้เซเรน่าหันรีหันขวาง แอบถุงกระดาษไว้ที่ซอกเตียงเหมือนเดิม ในขณะที่หมิงนั้นรีบออกไปก่อนหน้านี้แล้ว


เดินลงมาก็เห็นบริทนีย์นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าร้าน ข้างหน้ามีชามก๋วยเตี๋ยวที่ยังมีอยู่เต็มชาม


"ว่าไง บริทนีย์ สบายดีหรือเปล่า" เซเรน่าเดินเข้ามาหา มานั่งข้างๆ หมิงเองก็ทำเนียนเดินมานั่งด้วย


บริทนีย์ฝืนยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง ก่อนจะทำร่าเริง "สบายดีบ้านพัชราใหญ่โตกว้างขวางมาก ชั้นเดินเล่นซะจนเหนื่อยเลย แล้วร่าล่ะ เป็นไงบ้าง"


"ก็สนุกดี ช่วยหมิงขายก๋วยเตี๋ยวสนุกมากเลย แล้วนี่แกทำไมไม่กินก๋วยเตี๋ยว" เซเรน่ามองเพื่อนอย่างสงสัยนิดๆ


"พอดีชั้นไม่ค่อยหิวน่ะ คิดถึงแก คิดถึงหมิงก็เลยมาหา" บริทนีย์ว่า หมิงจึงยิ้มแล้วอาสา


"งั้นบริทนีย์อยากกินอะไรล่ะ ในตลาดของกินอร่อยๆ เยอะแยะเลย เดี๋ยวหมิงไปซื้อให้กินเอาไหม"


"ไม่เป็นไรหรอกหมิง อย่าลำบากเลย"


"ไม่ลำบาก พอดีหมิงก็อยากกินลูกชิ้นปิ้ง เอ้ย ไม่ใช่ พอดีหมิงอยากจะให้บริทนีย์ลองชิมลูกชิ้นปิ้งเจ้าอร่อยของตลาดน่ะ นะ เดี๋ยวไปซื้อมาให้" หมิงว่า ไม่รอให้เพื่อนคัดค้าน รีบเดินออกไปทันที


เซเรน่ามองตามหมิงไป แล้วหันกลับมามองเพื่อนอีกครั้ง "ถามจริงๆ เถอะ แกเป็นอะไรหรือเปล่า"


"เปล๊า ไม่ได้เป็นอะไร แกจะบ้าหรอ ชั้นจะเป็นอะไรได้ล่ะ" บริทนีย์ปฏิเสธทันที


"อืม ไม่รู้สินะ รู้สึกเหมือนแกกำลังซึมเศร้า เหงาเพราะรักยังไงไม่รู้ หรือว่าชั้นดูผิดไป" เซเรน่ามองเพื่อนอย่างสังเกตสังกา แต่บริทนีย์รีบยิ้มกลบเกลื่อน


"จะบ้าหรอ ชั้นไม่เป็นอะไรจริงๆ" แต่พอขาดคำพูดของบริทนีย์ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น


"จดหมายมาส่งคร้าบบบ" แมนนั่งเองที่ส่งเสียงร้องออกมา เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วเดินถือจดหมายเข้ามาในร้าน
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:29 pm

เดินมาถึงโต๊ะที่สองสาวนั่งอยู่ บริทนีย์ทำเมินไม่มอง


"นี่จดหมายของคุณเซร่าจากเยอรมันครับ" แมนส่งจดหมายให้เซเรน่า ตาเหล่มองบริทนีย์ เห็นว่าทำเมินไปก็สงสัยในใจ บริทนีย์โกรธเราเรื่องอะไร


เซเรน่ามองจดหมายแล้วยิ้มอย่างดีใจ "ขอบคุณค่ะคุณแมน" พูดแล้วหันไปหาบริทนีย์ "นี่แก พ่อแม่ส่งจดหมายมาหาชั้น คิดถึงจังเลย"


"อืมๆ ดีใจด้วยนะ" บริทนีย์หันมายิ้มให้เพื่อน


"แล้วแกล่ะ มีจดหมายมาจากอิตาลีหรือยัง" เซเรน่าถาม บริทนีย์ขยับจะตอบ แต่แมนกลับพูดแซงขึ้นมาซะก่อน


"จดหมายจากอิตาลีน่ะ แทบจะบินตามกันมาเลยครับ เพิ่งมาวันสองวันก็ส่งมาแล้ว" น้ำเสียงท้ายๆ คล้ายหมั่นไส้ยังไงไม่รู้ บริทนีย์หันมามองหน้า อดไม่ได้ที่จะพูด


"ยุ่งน่า ใครเขาถามนาย"


"อ่ะแน่ะ นึกว่าจะไม่พูดซะแล้ว" แมนพูดยิ้มๆ แต่บริทนีย์ถลึงตาใส่ เซเรน่ามองสองคนสลับไปมา


"นี่มีอะไรกันหรือเปล่าน่ะ"


ทั้งสองคนได้ฟังก็สะดุ้งพร้อมกัน แล้วตอบพร้อมกันทันทีโดยไม่ได้นัดหมาย อะไรจะขนาดนั้น "เฮ้ย เปล่า ไม่มีอะไร"


"งั้นหรอ" เซเรน่ามองอย่างสงสัยเล็กน้อย แต่พยายามไม่คิดอะไร มองจดหมายในมือด้วยความดีใจ แล้วบอกว่า "งั้นชั้นขอไปอ่านจดหมายแป๊บนึงนะ เดี๋ยวมา" แล้วเซเรน่าก็เดินเข้าไปข้างในเพื่อไปอ่านจดหมาย


แมนหันมามองบริทนีย์ เห็นทำเมินอยู่ก็เอามือเขี่ยๆ แล้วถาม "เป็นอะไรหรอ"


บริทนีย์ชักแขนหนี "ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่"


"ไม่ได้เป็นอะไรหรอ" แมนว่า แล้วมองคล้ายจะหมั่นไส้ "แล้วทำไมหน้าบูดเป็นตูดลิงขนาดนี้ล่ะ ทำหน้าบึ้งตึง มู่ทู่เป็นปลาบู่ชนเขื่อนไปได้"


บริทนีย์หันมามองทันที "หนอยยยย เออ ไอ้หน้าหล่อ ไอ้คนหน้าซื่อๆ ชั้นมันหน้าบูด ก็บูดอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ จะทำไมล่ะ ใครจะไปหน้าสวย น่ารักเท่าพัชราเขาล่ะ"


แมนหยุดกึกทันทีเมื่อพูดถึงพัชรา แววตาขี้เล่นเมื่อครู่นี้หายไป เหลือแต่แววตาที่บริทนีย์อ่านไม่ออก "ทำไมต้องเอาพัชรามาเกี่ยวด้วยล่ะ"


"อ้าว ก็นายเป็นห่วงเขาอยู่ไม่ใช่หรอ ทำไม แค่พูดถึงก็ไม่ได้หรอ" บริทนีย์สวนทันควัน


"จะพูดถึงเขาทำไม เดี๋ยวก็เสียหายกันพอดี" แมนว่า บริทนีย์จึงแอบค้อนให้ "ชั้นรู้แล้วน่า ไม่ทำให้พัชราเขาเสียหายหรอก แล้วตอนนี้นะ ชั้นยังคิดอะไรได้อีกอย่างนึงด้วย"


"อะไรหรอ"


"ก็นายเป็นห่วงพัชราไม่ใช่หรอ เดี๋ยววันนี้ชั้นจะพานายเข้าไปเยี่ยมพัชรา ดีไหม" บริทนีย์ว่าแล้วยิ้ม รู้สึกตัวเองว่ามันเป็นยิ้มที่แห้งแล้งชอบกล


แมนมีท่าทีอึกอัก เขาถามคล้ายไม่แน่ใจ "มันจะดีหรอ เขาอาจไม่อยากต้อนรับ..."


"ทำไมจะไม่ต้อนรับล่ะ นายออกจะดีกับเขาขนาดนั้นน่ะ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ไปกับชั้นจะกลัวอะไร หรือว่านายไม่อยากไปเยี่ยมพัชรา.."


"อยากสิ.."แมนรีบพูดขึ้นมาทันที บริทนีย์ฟังแล้ว ใจแห้งมากขึ้น คำๆหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจทันที..เสียสละ...


"ถ้าอยากก็ไปกันเลย.." บริทนีย์ว่าแล้วลุกขึ้น ตะโกนเรียกเซเรน่า "เซร่า ชั้นไปก่อนนะ พอดีมีธุระสำคัญ" ว่าแล้วก็เดินอย่างเร็วไปที่รถของแมน ก่อนที่แมนจะขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:30 pm

เซเรน่าวิ่งออกมาจากในร้านแต่ไม่ทัน มือถือจดหมายค้าง


"อ้าว นั่นบริทนีย์จะรีบไปไหนนะ แล้วยังไม่ทันเปิดจดหมายเลย ไปกันซะแล้ว" พูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะมองไปรอบๆ ไม่มีคนนี่นา งั้นเราอาศัยจังหวะนี้ เอาเสื้อไปคืนเจ้าของดีไหมนะ


คิดได้ดังนั้นก็รีบขึ้นไปเก็บจดหมายในห้อง แล้วเอาถุงกระดาษที่ซ่อนเอาไว้ ลงมาข้างล่าง เห็นอาโกวิดง่วนอยู่กับการเตรียมลูกชิ้นที่หลังร้าน จึงย่องออกมา แล้ววิ่งออกไปทันที


แต่วิ่งออกไปไม่ทันเท่าไหร่ รถสปอร์ตสีแดงก็เข้ามาจอดเทียบอีกครั้ง


เซเรน่าหันไปมองคนขับ ก็เห็นพี่ตุ่น ชุมพลยิ้มให้อย่างหวานหยาดเยิ้ม


"น้องเซร่า จะไปไหนครับ พี่จะไปส่ง"


"เอ่อ..."เซเรน่าพูดตะกุกตะกัก


"ทำไมครับ ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนหรอ งั้นเดินเข้ามาสู่กลางใจพี่ก่อนไหม" -*- ฮิ้ววววววว


"รู้แล้วค่ะว่าจะไปไหน.."เซเรน่ารีบพูดทันที ราวกับกลัวว่าช้าไปกว่านี้พี่ตุ่นชุมพลจะปล่อยมุขมาอีก


"ไปไหนล่ะครับ พี่พร้อมสำหรับน้องเสมอ" พี่ตุ่น ชุมพลยิ้มหวาน เดินออกมาเปิดประตูให้ "เชิญเลยครับคุณน้อง"


เซเรน่าจำใจต้องเดินมาขึ้นรถที่พี่ตุ่นเปิดประตูให้ นั่งลงเสร็จเรียบร้อยก็คิดอะไรออก หันมาบอกพี่ตุ่นว่า "พี่ตุ่นช่วยพาไปส่งวัดให้หน่อยได้ไหมคะ"


"หา ไปวัดหรอครับ น้องเซร่าจะไปทำอะไรที่วัดครับ"


"ก็...คงจะไปไหว้พระน่ะค่ะ" แต่ใจจริงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราจะไปอนามัย จึงเลี่ยงบอกว่าไปวัดเพราะวัดอยู่ใกล้อนามัย ที่ตรัยพาเดินกลับวันนั้นยังจำได้


"ไหว้พระ โอ้ ช่างเป็นคนใจบุญสุนทานอะไรอย่างนี้ เหมาะสม เหมาะสมเหลือเกิน" พี่ตุ่นพร่ำเพ้อ ก่อนจะทำหน้าเสียดาย


"เสียดาย ที่พี่ต้องไปเอาชุดลิเกที่สั่งตัดไว้ที่ตลาดโคกสาริน ไม่งั้นคงได้ไปตักบาตรร่วมขัน เก็บดอกไม้ร่วมต้นกับน้องเซร่าแล้วล่ะ น่าเสียดายจริงนะจ๊ะ"


เซเรน่าหันมามอง พลางคิด พี่ตุ่นนี่ท่าจะเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว ใครเขาจะมาตักบาตรเอาตอนเที่ยงอย่างนี้ล่ะ เฮ้อ


พี่ตุ่นเห็นเซเรน่านิ่งเงียบก็นึกว่าเคลิ้ม จึงสตาร์ทรถแล่นออกไปด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบ


หมิงเดินถือถุงลูกชิ้นปิ้งมาเกือบถึงร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว สายตาเหลือบไปเห็นเซเรน่าเดินถือถุงกระดาษทำลับๆล่อๆ ออกมาจากร้าน ขยับจะตามจนเกือบทัน แต่เซเรน่าดันขึ้นรถพี่ตุ่นหนีไปได้ซะก่อน


พี่ตุ่นอีกแล้วหรอ...หรือว่า เซร่าจะเอาเสื้อมาคืนพี่ตุ่น งั้นที่เราสันนิษฐานไว้ก็เป็นจริงน่ะสิ ดูท่าทางเขาสนิทสนมกันดีด้วย คนอย่างพี่ตุ่นถ้าใครไม่หลงเสน่ห์ก็นับว่าใจแข็งเอาการทีเดียว


แล้วเราจะทำยังไง อยากรู้ว่าเซร่ากับพี่ตุ่นจะไปไหนกันนะ คิดได้ดังนั้นก็คว้าจักรยานขึ้นมาขี่ตามรถพี่ตุ่น ชุมพลไป (จักรยานกับรถสปอร์ตเนี่ยนะ -*- คงจะตามกันทันหรอกนะ)
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:30 pm

เมื่อมาถึงวัด พี่ตุ่น ชุมพลก็หยุดรถแล้วหันไปมองคนข้างๆ


"ถึงแล้วครับ วัด น้องเซร่าแน่ใจนะครับ ว่าจะมาวัดจริงๆ"


"แน่ใจสิคะ" เซเรน่ารีบตอบ แล้วลงจากรถ "ขอบคุณพี่ตุ่นมากนะคะที่ช่วยมาส่งให้ ตั้งสองครั้งแล้ว"


"แหม อย่าถือเป็นบุญคุณกันเลยจ้ะ พี่เต็มใจซะยิ่งกว่าเต็มใจอีก" พี่ตุ่นปากหวาน แต่เซเรน่าไม่ได้สนใจ รีบยกมือไหว้แล้วว่า "ขอบคุณอีกครั้งค่ะ นี่พี่ตุ่นจะรีบไปเอาชุดไม่ใช่หรอคะ เดี๋ยวไม่ทันนะ"


"อ้อ จริงด้วย น่าเสียดายจัง งั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะ" โปรยยิ้มเสน่ห์ให้อีกครั้งแล้วขับรถออกไปทันที เซเรน่ามองตามแล้วถอนหายใจนิด รีบเบนเส้นทางมุ่งหน้าไปสถานีอนามัยทันที


เมื่อมาถึงก็เดินเลียบเคียงเข้าไปที่บ้านพักของตรัย เอ วันนี้หมอน้ำมนต์อยู่ไหมนะ ทำไมเงียบจัง แล้วตาหมอต่ายหายไปไหน


แต่ว่าไปก็ดีเหมือนกัน แอบเอามาคืนดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็เดินเข้าไปที่บ้านพักของตรัย เห็นปิดบ้านเงียบ กระตูก็ล็อก อ้าว หมอต่ายไม่อยู่จริงๆ แล้วปิดบ้านอย่างนี้แล้วเราจะเข้าไปเก็บเสื้อให้เขายังไง


คิดอยู่นานก่อนจะเดินไปที่หลังบ้านมองเห็นระเบียงชั้นนอนของตรัยแล้วก็นึกอะไรออก


จัดการปืนขึ้นไปที่ระเบียงห้องนอนของตรัยทันที ระเบียงนั้นไม่สูงมากนัก เซเรน่าสามารถปืนขึ้นไปได้สบายๆ เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว ลองเปิดประตูระเบียงดู ประตูก็เปิดออกโดยง่าย


เซเรน่ายิ้มกับตัวเอง เดินเข้าไปในห้องนอนทันที มองไปรอบๆ แล้วก็อดชื่นชมเจ้าของห้องไม่ได้ เนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วจริงๆ เลยนะเนี่ย


เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า กำลังจะหยิบไม้แขวนเสื้อ ก็ได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้านพัก เซเรน่าชะงักกึก เดินไปแอบดูที่ระเบียง


แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นว่า....หมอต่ายกำลังมา....กำลังจะเดินเข้ามาในบ้านแล้ว...
.


เซเรน่าหันรีหันขวางลุกลี้ลุกลน รีบเอาชุดนอนมาใส่ไม้แขวนเสื้อ กำลังจะเปิดตู้เสื้อผ้าเอาเสื้อมาแขวน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบานั้นกำลังจะเปิดประตูห้องนอน


เฮ้ยยยยย เซเรน่าตาเหลือก ทำอะไรไม่ถูก ได้ยินเสียงบิดลูกบิดประตูดังกริ๊ก แล้วประตูก็เปิดออก...


พร้อมๆ กับที่เซเรน่ากระโจนเข้าไปในตู้เสื้อผ้าพร้อมๆ กับชุดนอนชุดนั้นแล้วปิดประตูตู้ทันที....
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:31 pm

หมิงพยายามปั่นจักรยานตามรถสปอร์ตของพี่ตุ่น ชุมพล แต่สุดท้ายก็ตามไม่ทัน (แน่ละสิ ตามทันก็บ้าแล้ว -*-)


สุดท้ายเลยยืนเคว้งอยู่ที่ข้างทางนั่นเอง


ระหว่างนั้นรถสองแถวจากโคกสารินก็แล่นเข้ามา ได้ยินเสียงบุญก่อตะโกนสั่งลูกพี่เสียงดังลั่น


"อ้าว ลูกพี่ จอดดดด"


หมิงหันมามองก็เห็นรถสองแถวเบรคดังเอี๊ยดดดดดด คนบนรถไหลไปรวมกันทางตอนหน้าเป็นกองเลยทีเดียว


บุญอั้นยื่นหน้ามาที่ข้างหลังรถ ถามว่า


"อ้าว เอ็งให้จอดทำไมวะ ไม่เห็นมีใครจะลงเลย"


"ทำไมจะไม่มี..."บุญก่อยิ้มตีสแตก "ก็ผมนี่ไง จะลง" ว่าแล้วก็กระโดดลงอย่างคล่องแคล่ว


"อ้าว ลูกพี่ไม่ต้องมาทำยืนงง ไปต่อได้แล้ว" เสียงบุญก่อตะโกนเตือน บุญอั้นจึงเริ่มสตาร์ตรถและขับต่อไป


เมื่อรถสองแถวคันนั้นไปแล้ว บุญก่อก็เดินมาหาหมิง "มายืนทำงงอะไรตรงนี้ หือ"


"เอ่อ คือ ว่า" หมิงตะกุกตะกัก ยิ้มแหยๆ "คือว่าหมิงตาม เอ้ย หมิงมาขี่จักรยานเล่น"


"ขี่จักรยานเล่นหรอ อืม" บุยก่อเงยหน้ามองท้องฟ้า แดดยามเที่ยงนี่ช่างแผดร้อนทุกรูขุมขนทีเดียว บรรยากาศอย่างนี้เนี่ยนะ ที่จะมาขี่จักรยานเล่น


"ขี่จักรยานทั้งแดดร้อนเปรี้ยงอย่างนี้น่ะหรอ"


"ก็ แหะๆ.." หมิงไม่รู้จะพูดอะไร บุญก่อมองแล้วส่ายหน้า ยิ้มนิดๆ "ทีหลังอย่าไปโกหกใครเขานะ โกหกไม่เนียนเลยรู้ตัวหรือเปล่า"


"หมิง เอ่อ ไม่ได้.." หมิงเองพูดไม่ออก เมื่อเห็นแววตาบุญก่อจ้องเขม็งมา "หมิงขอโทษนะพี่ก่อ"


"อืม ไม่เป็นไร ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แล้วนี่ จะกลับหรือยัง"


"ก็ จะกลับแล้วล่ะพี่ก่อ แล้วพี่ก่อล่ะ ทำไมมาลงตรงนี้"


"พี่ไปทำธุระที่โคกสารินมาตั้งแต่เช้าเพิ่งจะเสร็จ...แล้วก็เลย" บุญก่อหยุดพูด สีหน้าเขามีแววเก้อเขินเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตีสแตกอย่างเขานั้นเขินเป็นด้วย


เขายื่นของอย่างหนึ่งมาตรงหน้าหมิง "อ๊ะ เอาคุ้กกี้แม่เนิก ของขึ้นชื่อโคกสารินมาฝาก เห็นว่าชอบกินไม่ใช่หรอ"


บุญก่อพูดเมินๆ ทำให้หมิงมองอย่างไม่แน่ใจนัก จึงไม่กล้ารับ บุญก่อเห็นดังนั้นก็ดุเล็กน้อย


"พี่ซื้อมาฝาก ก็รับไปสิ"


นั่นแหละหมิงถึงยื่นมือออกไปรับ ในใจนั้นแอบปลื้มใจแต่ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ได้แต่ยกมือไหว้ "ขอบคุณพี่ก่อมากเลยนะคะ"


"ไม่เป็นไรหรอก เห็นของอร่อย ก็เลยนึกถึง แค่นั้นเองแหละ" บุญก่อว่าทำท่าไม่สนใจ แต่ในแววตานั้นมีความนุ่มนวลแฝงอยู่ แม้ว่าจะดูยากหน่อยก็ตาม


"แล้วนี่จะไปไหนล่ะ จะกลับตลาดหรือจะไปไหน" บุญก่อถาม


"อืม สงสัยคงกลับตลาดค่ะ ไม่รู้จะไปไหน" หมิงตอบ บุญก่อพยักหน้า คว้าจักรยานมาจากมือหมิงแล้วว่า


"งั้นก็กลับกัน ไป" เข้านั่งที่แฮนด์เรียบร้อยแล้ว หันมาสั่ง "มา หมิง มาซ้อนท้ายพี่"


หมิงพยักหน้า แล้วเข้ามานั่งซ้อนท้ายจักรยาน ให้บุญก่อเป็นคนปั่นไปเรื่อยๆ บนถนนที่เวิ้งว้าง...กว้างขวาง....และทอดยาว...
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:31 pm

ตรัยเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง แวบแรกนั้นรู้สึกแปลกๆ จึงมองไปรอบๆ ห้อง เอ ก็ไม่มีอะไรนี่นา


เดินสำรวจรอบห้องก็แล้ว ยังไม่มีอะไร นอกจาก...ถุงกระดาษใบหนึ่ง ตกอยู่หน้าตู้ ตรัยมองแล้วหยิบขึ้นมาดู ไม่รู้เลยว่า คนที่แอบดูอยู่ในช่องตู้นั้นใจเต้นระทึกแค่ไหน


เอ ถุงกระดาษนี่มาได้ยังไงกันนะ อาจจะปลิวมาจากที่ไหนสักแห่งละมั้ง ตรัยคิดแล้วหยิบไปวางบนโต๊ะเขียนหนังสือ


กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำดีกว่า คิดแล้วทำท่าจะเดินไปเปิดตู้...


เซเรน่ามองแล้วใจเต้นแรง เฮ้ย หมอต่ายจะเปิดตู้แล้วววว ลุกลี้ลุกลนอยู่ในที่แคบๆ แต่ก็ไม่รู้จะหนีไปไหนได้


ตรัยเอื้อมมือไปเปิดประตู เซเรน่าเตรียมเอาผ้ามาบังๆ คลุมตัวไว้


แต่ยังไม่ทันที่ตรัยจะเปิดประตู ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน


"พี่ตรัยคะ อยู่ไหนคะ ลืมของแน่ะค่ะ" เสียงของผู้หญิงหวานๆ ดังอยู่นอกห้อง ตรัยหันไปมองแล้วตอบไปว่า "พี่อยู่ในห้อง เข้ามาสิ มาเอาหนังสือที่จะขอยืมพี่ไปด้วย"


เซเรน่าโงหัวขึ้นมาจากกองเสื้อผ้า หูผึ่งทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิง แอบมองไปตามช่องตู้ ก็เห็นผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องของตรัย


.....หมอต่ายพาผู้หญิงเข้าห้องนอนนนนน....เซเรน่าตะโกนอยู่ในใจ


ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาในห้อง มองไปรอบๆห้องแล้วว่า "ห้องพี่ตรัยเนี๊ยบเหมือนเดิม ยังจำได้ สมัยก่อนชอบมานอนห้องพี่ตรัย" สาวสวยพูดแล้วยิ้ม


อะไรนะ นี่ถึงกับมานอนค้างอ้างแรมด้วยกัน ตั้งแต่สมัยไหนเนี่ย เฮ้อ บ้าจริงๆ ทำไมเราต้องมารับรู้เรื่องรักๆ ของนายคนนี้ด้วยนะ เซเรน่าคิด หัวใจเหี่ยวแห้ง
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:32 pm

"ก็เวลาพวกเรามีงานที่ชมรม พวกรุ่นน้องชอบมาขอทำงานที่ห้องพี่ตรัย มันสะอาดน่านอนดี" หญิงสาวสวยคนนั้นคือ พัดชานั่นเอง


"แน่ล่ะสิ สะอาดน่านอน มาถึงก็เลยนอนกันซะเลย งานไม่ทำ" ตรัยพูดยิ้มๆ พัดชาหัวเราะ


"แหม มีพี่ตรัย พี่น้ำมนต์พวกเราก็สบายกันแล้ว" พูดพลางยื่นถุงคุ้กกี้ให้ "พี่ตรัยลืมคุ้กกี้ พัดเลยตามเอามาให้ คุ้กกี้แม่เนิกอันนี้พี่ลืมไม่ได้นะคะ ของเขาดีจริงๆ"


ตรัยยิ้ม รับถุงคุ้กกี้ไปพิจารณาดู "อืม ท่าจะอร่อยจริงๆ เห็นใครๆ ก็ว่าอย่างนั้น"


"อร่อยจริงๆ ค่ะ พัดรับรอง เพราะพัดเองยังกินทุกวันเลย" พัดชาพูดแล้วยิ้ม เมื่อถึงใครบางคน รอยยิ้มนั้นก็เศร้า "มันเหมาะที่จะเอาไปให้ใครบางคนที่พิเศษสำหรับเรา"


ตรัยหันมามองรุ่นน้อง เห็นแววตานั้นแล้วก็พอจะรู้ จึงเดินเข้ามาตบไหล่เบาๆ "แล้วพัดก็เอาคุ้กกี้นี้ไปให้คนพิเศษของพัดด้วยใช่ไหม"


พัดชาหันมามองหน้าตรัย "เขาเป็นคนพิเศษสำหรับพัด แต่พัดไม่รู้ว่า พัดเป็นคนพิเศษสำหรับเขาหรือเปล่า"


"เอาน่า อย่าเพิ่งเศร้าไปเลย พี่ว่าถ้าคนเรามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ความรู้สึกนั้นมันส่งผ่านกันได้" พัดชาหันมายิ้มกับตรัย เอื้อมมือมาจับมือตรัยไว้


"ขอบคุณพี่ตรัยมากนะคะ พัดมีปัญหาอะไร ก็ได้พี่ตรัยคอยปลอบทุกที"


เซเรน่ามองเหตุการณ์จากในตู้ ไม่ได้ยินที่เขาพูดกัน แต่ภาพนั้นเห็นชัดเจนเลยทีเดียว


ผู้หญิงสวยคนนั้นเข้ามาในห้องของหมอต่าย พูดอะไรกันก็ไม่รู้ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทำท่าจะร้องไห้ หมอต่ายก็เข้าไปปลอบ


แล้วดูสิ ปลอบกันถึงเนื้อถึงตัว มีจับไหล่ จับมือกันด้วย เชอะ หมอต่ายนี่ เห็นนิ่งๆ เก๊กๆ อย่างนี้ ก็แอบมือไวเหมือนกันนะเนี่ย


เซเรน่าคิดแล้วเผลอค้อนให้ ก่อนจะถอนหายใจออกมา เฮ้อ รู้สึกยังไงไม่รู้


ดูท่าทางเขารักกันดีนะ มีปลอบกันด้วย เขาคงจะรักกันมากละมั้ง เซเรน่าคิดแล้วหันหน้าหนีคล้ายไม่อยากจะมอง


ตรัยมองพัดชาแล้วยิ้มอย่างให้กำลังใจ "เอ้า หนังสือที่พัดจะใช้"


เดินไปหยิบหนังสือจากโต๊ะ ทำท่าจะเอามาโขกหัวพัดชา แต่พัดชาเสหลบได้ทัน "พี่ตรัยแกล้งอีกแล้วอ่ะ เดี๋ยวเผื่อโดนหน้าพัดขึ้นมาทำไงอ่ะ ยิ่งหน้าอูมๆ อยู่"


ตรัยหัวเราะ "เออ รู้ตัวด้วย" พัดชาฟังแล้วทำหน้าบึ้ง มองไปที่ถุงคุ้กกี้ในมือตรัยแล้วยิ้มอย่างรู้ทัน


"ว่าแต่ พี่ตรัยจะซื้อคุ้กกี้มาทำไมอ่ะ พี่ไม่ชอบกินคุ้กกี้ไม่ใช่หรอ เอ๊ะ หรือว่า จะซื้อมาให้...."


"เฮ้ย หยุดเลยพัด หยุดพูดเลย" ตรัยรีบขัดขึ้นทันที


"อย่าร้อนตัวดิพี่ตรัย พัดยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ยิ่งพี่ตรัยทำแบบนี้ มันทำให้พัดคิดว่า พี่ตรัยมี...คนพิเศษอยู่ที่นี่ คนที่จะได้รับคุ้กกี้อันนี้"


"เปล่าๆ..." ตรัยรีบปฏิเสธทันที "พี่จะเอาไปให้....เอ่อ...จะเอาไปให้เด็กน่ะ เด็กๆ คงจะชอบกินคุ้กกี้" พูดแล้วนึกไปถึงคนๆ หนึ่ง นิสัยแบบนั้นก็เรียกว่าเด็กแหละน่า


"อ๋อๆ อย่างนี้นี่เอง สงสัยพัดจะเข้าใจผิดไป" พัดชาหัวเราะ มองตรัยอย่างรู้ทัน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป หันมาบอกรุ่นพี่ว่า


"งั้นพัดไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทันรถโดยสาร"


ตรัยพยักหน้า "งั้นให้พี่ไปส่งนะ" ว่าแล้วก็เดินตามพัดชาออกจากห้องไป

เซเรน่าค่อยๆ เหลือบมามองที่ช่องประตูตู้อีกครั้ง เมื่อกี้เขาพูดอะไรกัน เราไม่อยากจะสนใจฟัง เชอะ รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ทำไมจะต้องมาพรอดรักกันให้เราดูด้วย (อ้าว มาแอบดูเขาไม่ใช่หรอ)
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:32 pm

หลังจากอารมณ์หมั่นไส้ผ่านไป จิตใจก็แห้งเหี่ยวลงอย่างประหลาด มันแห้งราวกับพื้นดินในหน้าแล้ง น้ำสักกี่หยดก็คงไม่ทำให้จิตใจชุ่มชื้นขึ้นได้ นี่เราเป็นอะไรไปนะ เซเรน่าคิดแล้วสงสัยตัวเอง


เฮ้อ จะมามัวคิดอะไรตอนนี้ รีบออกจากตู้นี้ก่อนดีกว่า ก่อนที่หมอต่ายจะเข้ามาอีกรอบ เซเรน่าคิดก่อนจะขยับตัวออกจากตู้ แต่.....ไม่ทันเสียแล้ว


เพราะตรัยเข้าห้องมาอีกครั้งหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขาวางถุงคุ้กกี้ที่ถือติดมือมาด้วยไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะเดินมาที่หน้าตู้เสื้อผ้า แต่แล้วอะไรไม่รู้ทำให้เขาเปลี่ยนใจ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ราวตากผ้า


เซเรน่าได้ยินเสียงฮัมเพลงเบาๆ นี่หมอต่ายร้องเพลงหรือนี่ เซเรน่าตาโต เงี่ยหูฟัง


"บุษบาเกิดมากับความสดใส
โลกของเธอนั้นมีดอกไม้ในหัวใจ
วันทั้งวันชื่นชมชอบร้อยมาลัย
โลกสดใสไปด้วยมาลัยของเธอ"


อะโห หมอต่ายร้องเพลงบุษบา ไม่อยากจะเชื่อ เซเรน่ามองไปที่ช่องประตูตู้ แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง


หมอต่าย...เอ่อ...หมอต่ายกำลังจะถอดเสื้อ...เอ่อ...ถอดแล้ววววว เซเรน่าตะโกนอยู่ในใจ รีบหันหน้าหนีทันที


เสียงเพลงบุษบานั้นดังเข้ามาเรื่อยๆ เหมือนกำลังใกล้เข้ามาที่ตู้ เซเรน่าเหล่มองที่ช่องตู้อีกครั้ง ก็เห็นมือของตรัยกำลังเอื้อมมาเปิดตู้....เปิดตู้แล้ววววว


อารามตกใจเซเรน่ารีบดึงประตูไว้ทันที ส่งผลให้ตรัยที่กำลังเปิดตู้ชะงัก ทำไมเปิดไม่ออก...


ตรัยชะงัก รู้สึกแปลกใจ เอ ทำไมเปิดตู้ไม่ออก ฝืดๆ ชอบกล หรือว่ามันติดผ้าข้างในเลยเปิดไม่ออก คิดแล้วออกแรงดึงอีกครั้ง ดึงเต็มที่


แล้วกำลังเซเรน่าหรือจะสู้กำลังของตรัยได้ ประตูที่ยื้อยุดฉุดกันระหว่างข้างในกับข้างนอก จึงเปิดผลั๊วะออกมา....


เซเรน่าเสียหลักล้มลงบนกองผ้า....ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของตู้ ก็เห็นตรัยกำลังยืนตะลึงมองอยู่....


ตรัยถอดเสื้อเพราะกำลังจะไปอาบน้ำ แต่จะแวะมาเอาผ้าเช็ดตัวในตู้เสียก่อน เพราะจะไปเอาที่ราวตากผ้าแล้วมันยังไม่แห้ง


เซเรน่ามองแล้วเบิกตาโต ก่อนจะตั้งสติได้ ร้องออกมาเสียงดัง "เฮ้ยยยยยยย...."


ร้องแล้วรีบเอามือมาปิดตาไว้ ปากก็ร้องว่า "นายจะบ้าหรอ มายืนถอดเสื้ออยู่ได้ ไปเลยนะ ออกไปเลยนะ"


ตรัยยืนงง อะไรกันเนี่ย นี่เขาเป็นคนผิดหรอ เขาถอดเสื้อในห้องของตัวเองเพื่อจะอาบน้ำ เขาผิดหรอเนี่ย มองเซเรน่าที่นั่งอยู่บนกองผ้า เอามือปิดตาแล้วอดขำไม่ได้


"อ้าว นี่มันห้องผม คุณจะให้ผมออกไปไหน"


"จะไปไหนก็ไปเลย ชั้นไม่อยากดู" เซเรน่าร้องขัดขึ้นมาทันที ตรัยฟังแล้วยิ้มนิดๆ "ผมก็ไม่ได้ถอดให้คุณดูนี่ ว่าแต่ เมื่อกี้ไม่ได้ดูจริงหรอ"


เซเรน่าฟังแล้วหน้าร้อนผ่าว หนอย มาหาว่าชั้นแอบดูงั้นหรอ หมอต่ายนี่ เดี๋ยวนี้ไม่ขี้เก๊กแล้ว ปากคอเราะร้ายจริงเชียว


"ชั้นไม่ได้ดูนายสักหน่อย บ้าหรอ ใครเขาจะไปอยากดู.."เซเรน่าปฎิเสธเสียงแข็ง "ไปเลยนะ ไปใส่เสื้อมาเลยนะ ตัวเองเป็นหมอก็ต้องทำตัวให้เหมาะสมหน่อยสิ เรื่องแค่นี้ต้องให้บอกด้วยหรอ"


ตรัยฟังแล้วส่ายหน้า กลายเป็นเขาผิดไปซะอีกแน่ะ เอาๆ ผิดก็ผิด คิดแล้วเดินไปหยิบเสื้อตัวเดิมขึ้นมาสวม ก่อนจะหันมามองคนที่นั่งอยู่ในตู้


"เอ้า ใส่เสื้อเรียบร้อยแล้ว ออกมาได้แล้ว" เซเรน่าได้ฟังก็เอามือที่ปิดตาออก เห็นตรัยใส่เสื้อเรียบร้อยก็ทำถอนหายใจ พูดเมินๆ


"ก็แค่นี้แหละ" พูดแล้วค่อยๆ ลุกลงจากตู้เสื้อผ้า ตรัยมองแล้วถามขึ้นมาขรึมๆ


"เอาละ ทีนี้คุณบอกผมได้หรือยัง ว่ามาทำอะไรในตู้เสื้อผ้าของผม.."
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:33 pm

ลมเย็นชายทุ่งพัดมาชายโชย บรรยากาศช่างน่ารื่นรมณ์ ดวงอาทิตย์ยามบ่ายอ่อนแสงลงเรื่อยๆแดดจึงไม่ร้อนแผดกล้าเช่นตอนเที่ยงวัน


พัชรายืนชมวิวอยู่บนระเบียง เห็นทุ่งนาที่มีต้นข้าวปลิวไสวนั่นแล้ว รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที


มองเห็นฝูงควายกำลังเดินกันมาเป็นฝูงตรงมายังคอกที่ปลูกไกลตัวบ้านออกไปเล็กน้อย ตรงนั้นเป็นบริเวณคอกสัตว์ที่เป็นที่อยู่ของน้องโง้งควายตัวโปรด


พูดถึงน้องโง้งก็อดถึงใครคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของไม่ได้ เพียงแค่คิดหัวใจก็เกิดเต้นผิดจังหวะขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไปนักหนา


นั่นไง มองลงไปก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินต้อนฝูงควายมาเข้าคอกพอดี พัชราเห็นเขากอดน้องโง้งไว้ด้วยความรัก ก่อนจะจัดการปิดคอกเรียบร้อย และเดินตรงมาที่คฤหาสถ์


เขาเดินมาเรื่อยๆ ตามองขึ้นมายังระเบียงที่พัชราเองก็กำลังมองเขาเช่นกัน...แล้วสายตาทั้งคู่ก็มาพบกัน
....


ก่อนที่พัชราจะสะบัดหน้าหนี เดินออกจากระเบียงเข้าห้องไป


แต่ขนาดเดินห่างมาแล้ว ก็ยังรู้สึกเหมือนว่าสายตาของคนๆนั้นยังตามเข้ามารบกวนถึงในหัวใจ...


มีเสียงกุกกักเบาๆ ที่ระเบียง พัชราหันไปมอง ก็เห็นคนที่กำลังคิดถึงพอดี กำลังมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก


"ได้ข่าวว่าเมื่อกลางวัน แมนมาเยี่ยมหรอ" เขาเอ่ยถามเสียงขรึมๆ พัชราเองก็ทำสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะตอบ


"ใช่ แมนเขามาเยี่ยม ความจริง เขาก็มาเยี่ยมทุกวัน"


"อืม ๆ ท่าทางเขาเป็นห่วงคุณมาก เขาดีกับคุณมากนะ" ทุยว่าแล้วยิ้มหยัน


"ชั้นรู้ดี รู้ได้ด้วยสายตาตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอกหรอก" ทุยฟังแล้วหัวเราะ หึหึ ก่อนจะว่าเสียงเรียบ


"เรื่องบางอย่างกับคนบางคนน่ะนะ ใช้แค่สายตามองอาจจะมองไม่เห็น มันต้องใช้หัวใจมอง" ทุยว่าแล้วสบตาพัชรา ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาหาในห้อง พัชราถอยหนี


"นายจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ"


"นี่คุณกลัวผมขนาดนี้เลยหรอ ผมดูร้ายมากในสายตาคุณหรอ" ทุยว่าน้ำเสียงคล้ายตัดพ้อ "ผมไม่มีอะไรดีเหมือนแมนเลยใช่ไหม"


"นี่นายพูดเรื่องอะไร เอาแมนมาเกี่ยวทำไม" พัชราแข็งใจว่าออกไป


"ทำไม พูดถึงเขาไม่ได้เลยหรอ ท่าทางเขาจะสำคัญมากนะ" ทุยพูดแล้วเดินมาเรื่อยๆ จนพัชราซึ่งถอยหนีนั้นหมดหนทาง เพราะถอยไปจนชิดฝาผนังแล้ว


ทุยเดินเข้ามาใกล้ ไม่ได้ทำอะไร ได้แต่มองนิ่งๆ สายตาของคนสองคนสบกันด้วยความรู้สึกบางอย่าง...มันเร่งเร้า ต่อต้าน บางครั้งมันอ่อนหวานและรุนแรง และบางครั้งมันก็มีทั้งน้อยใจ ตัดพ้อปะปนอยู่กับสายตาแห่งความรักที่แอบซ่อนเอาไว้


"แล้วผมล่ะ มีความสำคัญอะไรกับคุณบ้างไหม มีบ้างไหม" ทุยถามเบาๆ


สายตาอันแรงกล้าของทุยนั้น ทำให้พัชราพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองสบตาเขานิ่งอยู่...


ทุยมองดวงตาคู่นั้นที่สบอยู่ แล้วอดใจไม่ไหว ยกมือขึ้นมาลูบผมของพัชราอย่างแผ่วเบา ขยับจะพูดอะไรก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นซะก่อน



"นั่นทำอะไรกันน่ะ.."


ทั้งสองหันไปดูทันที แล้วก็เห็น คุณนายแจ่มยืนมองอยู่ที่ประตู สีหน้าเครียดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:33 pm

คุณนายเดินเข้าห้องมาช้าๆ ดวงตาจับอยู่ที่คนทั้งคู่ และถ้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของคุณนายมันแฝงแววประหลาด มีทั้งหวาดหวั่นพรั่นพรึงและความเจ็บปวดซ่อนอยู่


คุณนายเดินมาหยุดอยู่หน้าทั้งสองคน แต่ทั้งทุยและพัชราก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้


"ว่ายังไง พัชรา แม่ถามว่าทำอะไรกันอยู่"


"เอ่อ..คุณแม่" พัชราพูดไม่ออก คุณนายจึงหันไปหาทุย "แล้วพ่อทุยล่ะ ไหนลองอธิบายเรื่องนี้ให้ชั้นฟังหน่อยสิ"


ทุยมองหน้าคุณนายแจ่ม แววตาของคุณนายนั้นช่างลึกล้ำจนอ่านไม่ออก


"ผมปืนระเบียงขึ้นมาหาพัชราเองครับ พัชราไม่เกี่ยวอะไรด้วย เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย" ทุยพูดทันที หันไปมองคนที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง


คุณนายอึ้งไป ก่อนจะถามเหมือนไม่แน่ใจว่า "เธอทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ใช่ไหม"


"เอ่อ ไม่ใช่ครับ" ทุยตอบ คำตอบนั้นทำให้ดวงตาของคุณนายแจ่มวาวโรจน์ขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าจะพยายามสะกดเอาไว้เพียงใดก็ตาม


"ว่าไงนะ...นี่พัชรา..นี่ลูก..." หันมามองพัชรา สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง


"งามหน้านักนะลูกสาวชั้น ปล่อยให้ผู้ชายขึ้นมาหา ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทำอะไรเห็นหัวแม่บ้างไหม เห็นแก่หน้าแม่บ้างไหม" คุณนายแจ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยด้วยโทสะ และสาเหตุที่ซับซ้อนอยู่ในจิตใจ ไม่สามารถบอกใครได้


"ผมบอกแล้วไงครับ ว่าผมขึ้นมาหาพัชราเอง พัชราเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย คุณนายจะว่าเขาไม่ได้นะครับ ถ้าจะว่าหรือจะทำยังไงก็ทำที่ผม" ทุยรีบขึ้นขึ้นมาทันทีด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นพัชราหน้าซีดฟังถ้อยคำของแม่ด้วยความน้อยใจ


"พ่อทุยก็เหมือนกัน" คุณนายแจ่มหันมามองทุย ดวงตาคล้ายจะตัดพ้อ แต่มันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น "ชั้นอุตส่าห์ไว้วางใจ และคิดว่าพ่อทุยเป็นคนดีที่สุด เป็นคนดีสมกับ..." คุณนายขึ้นเสียงดัง แต่ประโยคท้ายเหมือนหลุดปากอะไรไปก็หยุด


"แต่พ่อทุยกลับทำอย่างนี้ ทำอย่างนี้มันหยามน้ำหน้าชั้น พ่อทุยทำได้ยังไง ทำอะไรเคยเห็นแก่ชั้นบ้างหรือเปล่า" คุณนายจ้องทุยเขม็ง ทุยจึงจ้องตาตอบ


"ถ้าผมทำอะไรผิดไป ผมก็ต้องขอโทษคุณนายด้วย แต่ขอผมอธิบายหน่อยได้ไหมครับ ที่ผมปืนระเบียงขึ้นมาหาพัชรา ผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดจะหยามน้ำใจคุณนายหรือไม่เคารพคุณนายเลย ผมปืนระเบียงขึ้นมาจริงๆ ผมผิดเอง แต่ที่ผมทำทั้งหมด ก็เพราะว่า...ผม"



พูดเสร็จแล้วหันไปสบตากับพัชรา "ผม....ระ...."


"อย่าพูดนะพ่อทุย อย่าได้พูดอะไรออกมานะ" คุณนายแจ่มรีบห้ามเสียทันควัน เพราะเดาได้ว่าจะได้ยินคำว่าอะไร ในใจของคุณนายนั้น ร้าวรานและเจ็บปวดราวกับเข็มร้อยเล่มมาทิ่มแทงเสียพร้อมๆ กัน ความเจ็บปวดนั้น มันเกิดจากอะไร


"ชั้นยังเห็นว่าพ่อทุยเป็นคนดี แต่ชั้นขอเตือน ถ้าจะคิดยุ่งกับลูกสาวชั้น ชั้นคงยอมไม่ได้ และคงจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด พ่อทุยอย่าทำให้ชั้นต้องใจร้ายกับพ่อทุยมากไปกว่านี้เลย" คุณนายแจ่มว่า เสียงเข้มๆ นั่นสั่นไหวไปด้วยความรู้สึก ดวงตาแข็งขึ้น


"ขอให้พ่อทุยกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองเถอะ เพราะลูกสาวคนเดียวของชั้นจะต้องไม่ข้องเกี่ยวอะไรกับพ่อทุย ถ้าเกิดว่าชั้นเตือนแล้วไม่เชื่อ ก็อย่าหาว่าชั้นใจร้ายเลยนะ ชั้นจะสั่งสอนทั้งแม่เธอและตัวเธอให้สาสมทีเดียว"


พัชราได้ยินแม่พูดแล้วเสียวสันหลัง แม่ไม่เคยโกรธ ไม่เคยเสียงแข็งกับใครอย่างนี้มาก่อน


"แม่คะ แต่ว่าเรื่องนี้"


"หยุดนะเพชรชี่" คุณนายหันมาถลึงตาใส่ลูกสาว "ลูกกับแม่ยังมีเรื่องต้องพูดกันอีก ตอนนี้แม่กำลังพูดกับพ่อทุยอยู่ ว่าไง พ่อทุย เข้าใจที่ชั้นบอกใช่ไหม"


ทุยมองคุณนาย "ผมเข้าใจครับ ผมรู้ ว่าผมกับพัชราต่างกันแค่ไหน มันไม่มีวันเป็นไปได้ผมก็รู้ แต่ทำไมคุณนายต้องมาขู่ผม ขู่เรื่องแม่ผม ทำอย่างกับผมอยู่ในอาณัติของคุณนาย ผมไม่ใช่ข้าทาสบริวารของคุณนาย ที่คุณนายสั่งอะไรแล้วจะต้องทำตาม ผมจะทำ..ตามที่ใจผมต้องการเท่านั้น และคุณนายไม่ต้องยกเรื่องแม่ผมมาขู่หรอก ผมมีปัญญาดูแลแม่ผมได้...ผมขอโทษที่บุกรุกบ้านคุณนายขึ้นมาทีระเบียงบ้านพัชรา ผมผิดจริง ผมขอโทษ แต่เรื่องอื่นโดยเฉพาะความรู้สึกของผมที่มีต่อพัชรา ผมไม่ขอโทษ เพราะผมไม่ผิด และคุณนายก็ไม่มีสิทธิห้ามผม"


พูดแล้วมองหน้าคุณนายนิ่งๆ ก่อนจะหันไปหาพัชรา สบตาด้วยความห่วงใย แต่พัชรานั้นร้อนรน มองแม่ตัวเองแล้วหันไปบอกทุย


"นายหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ไม่รู้หรือไงว่าพูดอะไรออกไป รีบไปซะ รีบไปเดี๋ยวนี้เลย" ในน้ำเสียงนั้นแสดงความห่วงใยฉายชัดอย่างที่พัชราไม่เคยแสดงออกให้ทุยเห็นเลยสักครั้
ง นั่นทำให้ทุยต้องมองหน้านิ่งด้วยความลืมตัว


"ไปสิ เชื่อชั้นนะ..." พัชราย้ำอีกครั้ง ในแววตาคู่นั้นยังมีความห่วงใยที่สัมผัสได้อีกด้วย นั่นทำให้ทุยยิ้มออกมานิดๆ พยักหน้า แล้วเดินไปที่ระเบียงกระโดดลงไปข้างล่างทันที


คุณนายเห็นความห่วงใยของลูกสาวกับทุยเต็มสองตา ความโกรธทำให้มือไม้สั่น ตะโกนออกไปว่า "กลับไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ รู้เอาไว้ด้วย ว่าชั้นน่ะมีสิทธิในตัวเธอทุกอย่าง แล้วเธอจะต้องเสียใจ พ่อทุย เธอจะต้องเสียใจแน่ๆ คอยดูสิ" แล้วคุณนายก็ทรุดตัวลงนั่งที่บนเตียง สีหน้าเศร้า ในใจนั้นพยายามสะกดความรู้สึกอันซ่อนเร้นไว้
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:34 pm

"บอกผมได้หรือยัง ว่ามาทำอะไรในตู้เสื้อผ้าของผม" ตรัยถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเซเรน่าออกมาจากตู้เสื้อผ้าเรียบร้อย เซเรน่าทำหน้าเจื่อน


"ก็...คือ ชั้น..."เซเรน่าตะกุกตะกัก ก็แค่จะเอาเสื้อมาคืนแค่นี้ ทำไมต้องพูดยากพูดเย็นด้วยนะ


"คืออะไรครับ ตู้เสื้อผ้าผมไม่ใช่สถานที่วิ่งเล่นซ่อนหาของเด็กนะครับ" ตรัยเสียงเข้มทันที เซเรน่าฟังแล้วหน้าบูดมากขึ้น


"เด็กอีกแล้วหรอ ทำไมชอบว่าเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย"


"เอ้า ก็กิริยาที่ทำมันเหมือนนี่ เข้าห้องคนอื่นเขาโดยไม่ได้รับอนุญาติก็พอทนแล้ว แต่นี่ยังเข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้าเขาอีก คุณจะให้ผมคิดว่าการกระทำนี้เป็นการกระทำของผู้ใหญ่หรือไง"


"แล้วยังไงล่ะ" เซเรน่าลุกขึ้นยืน หน้าบึ้ง "ไม่เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่เป็นสิ ก็แค่จะเอาชุดนอนที่ยืมไปวันนั้นมาคืนให้ ก็แค่นี้เอง ไม่เห็นต้องมาว่าเลย" พูดจบก็สะบัดหน้าพรืด จะเดินเชิดออกไป แต่ตรัยฟังแล้วอึ้งไปก่อนจะรีบคว้าข้อมือไว้


"เดี๋ยว..เซร่า.อย่าเพิ่งไป" เขาเรียกออกไปด้วยความลืมตัว เซเรน่าชะงักหันมามอง


สีหน้าของตรัยเก้อเขินเล็กน้อย เขาไม่เคยเรียกเซเรน่าด้วยชื่อเล่นอันแสดงความสนิทสนมอย่างนี้เลยสักครั้ง มันก็แค่ชื่อที่ใครก็เรียกได้ทั่วไปแหละนะ แต่ทำไมเวลาเขาเรียก ความรู้สึกเวลาฟัง มันถึงไม่เหมือนคนอื่นเรียกก็ไม่รู้ เซเรน่าแอบคิดในใจ


"มีอะไร.." พูดเมินๆ ทำเป็นไม่สนใจแต่ใจจริงแล้วเต้นตึกตักเมื่อรู้ว่าเขาจับมืออยู่ยังไม่ปล่อย


"เอาชุดมาคืนผมหรอ ไหนล่ะ" ตรัยถามยิ้มๆ


"ก็นี่ไง.."เซเรน่าเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนตัวหนึ่งขึ้นมาจากราวแขวน ชุดนอนที่เซเรน่าบรรจงพิถีพิถันซักรีดอย่างดี แต่บัดนี้ จากเหตุการณ์เมื่อกี้ ทำให้มันกลายสภาพเป็นชุดนอนที่ยับยู่ยี่ พอๆ กับเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งในตู้เสื้อผ้าของตรัยที่เซเรน่าล้มทับ


"โธ่ ชุดนอนที่ชั้นอุตส่าห์รีดอย่างดี" เซเรน่าว่าทำท่าจะร้องไห้ เห็นเสื้อผ้าอีกจำนวนหนึ่งยับด้วยแล้ว ปวดหัวกลุ้มใจ หันมามองตรัยหน้าม่อย


"มันยับหมดแล้วอ่ะ แล้วที่ชั้นลบทับไปก็ยับหมดเลย"


ตรัยมองแล้วส่ายหน้า "อืมๆ ของมันยับได้มันก็เรียบได้ เหมือนใจคน เกลียดได้ก็ชอบได้เหมือนกัน" พูดแล้วก็ยิ้ม เอ ประโยคหลังฟังแปลกๆ นะ


"หมายความว่าไง พูดอะไรของนาย" เซเรน่ามองตาเขาแล้วเขินหน่อยๆ จึงเสโวยกลบเกลื่อน "เสื้อมันเรียบได้อีกครั้งก็จริง แต่ที่ชั้นอุตส่าห์ลงแรงไปล่ะ อุตส่าห์ตื่นตั้งแต่..." ประโยคท้ายๆ เมื่อรู้ว่าเผลอพูดอะไรออกไป เซเรน่าก็รีบหยุดพูดทันที


"หือ ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่เธอทุ่มเทขนาดนี้เชียวหรอ" ตรัยถามอย่างแปลกใจ ในใจสดชื่นขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล


"เปล๊า ทุ่มเทอะไร ไม่ได้ทุ่มเทเลย ก็ทำไปงั้นๆ เองแหละ นายไม่ต้องเข้าใจผิดนะ" เซเรน่ารีบปฏิเสธทันที แต่สายตานั้นละห้อยเชียวเมื่อยาวมองชุดนอนที่ยับนั่น


ยกชุดนอนขึ้นมาดูอีกครั้ง ถอนหายใจออกมาอย่างลืมตัว ตรัยมองแล้วยิ้มๆ พูดปลอบ


"เอาน่า บอกแล้วว่าของมันเปลี่ยนได้ ถ้าเราเริ่มทำใหม่"


"หมายความว่าไง เริ่มทำใหม่ เราหรอ" เซเรน่าเงยหน้าขึ้นมอง ตรัยพยักหน้าให้


"ใช่ เรา เราต้องช่วยกันรีดเสื้อผ้าที่ยับนี่ อ๊ะ อย่าบอกว่าจะไม่รับผิดชอบเสื้อผ้าที่ยับของผมนะ ที่คุณล้มไปทับนั่นน่ะ" ตรัยดักคอ แต่เซเรน่าค้อนให้


"ชั้นไม่ได้ปฏิเสธสักหน่อย ชั้นทำอะไรไปก็ยอมรับได้อยู่แล้วน่า แต่ว่า ชั้นทำคนเดียว นายไม่ต้องช่วยหรอก นายไม่เกี่ยวนี่"


ตรัยมองเซเรน่า เห็นแววตาจริงใจนั้นก็รู้สึกหัวใจพองโตอย่างประหลาด มันสดชื่นสดใสราวกับได้พบโอเอซีสกลางทะเลทรายเลยทีเดียว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนมีน้ำใจ ถึงจะมีนิสัยเป็นเด็ก แต่ก็มีน้ำใจ เขาจึงพูดด้วยเสียงอ่อนโยนขึ้น


"ไม่เป็นไร ให้ผมช่วยเถอะนะ ผมเต็มใจช่วย นะครับ"


น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นทำให้เซเรน่าชะงัก หันมามองหน้า เขาใช้น้ำเสียงแบบนี้เหมือนเมื่อตอนที่หนีผีลงตุ่มด้วยกันอีกแล้ว ปกติเห็นมีแต่ดุ ไม่ก็เข้มงวด แต่ถึงยังงั้นเซเรน่าก็ไม่เคยคิดเกลียดเขาเลยสักครั้ง ก็แค่หมั่นใส้ในบางครั้ง แต่นี่ แววตาแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ มันทำให้เซเรน่าต้องรีบหลบสายตาเสียโดยพลัน


"อยากช่วยก็ช่วยสิ เอ้า เตารีดอยู่ไหนล่ะ จะได้รีดให้เสร็จๆ ไป" รีบเสียงดังกลบเกลื่อนใบหน้าร้อนผ่าวกับหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง ทำเป็นยุ่งวุ่นวายขึ้นมาทันที ตรัยยิ้มเดินไปหยิบเตารีด ส่วนเซเรน่าทยอยเอาชุดที่ยับออกมาจนหมดเพื่อรีดใหม่อีกครั้ง


ทั้งสองทำงานกันเงียบๆ ในความเงียบนั้น ดวงตาสองคู่กำลังแอบมองกันและกัน และหัวใจสองดวงกำลังทักทายกับและกัน..อยู่เงียบๆ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:34 pm

บุญก่อขี่จักรยานพาหมิงซ้อนท้ายมาเรื่อยๆ ตามทาง ขี่จักรยานไปอิมโพรไวส์เสียงไปด้วย ท่าทางเพลิดเพลิน แต่ขี่มานานก็ยังไม่ถึงตลาดซักที


"พี่ก่อๆ" หมิงที่นั่งซ้อนท้ายอยู่สะกิดหลัง บุญก่อหันมามอง "มีอะไรหรอ"


"นี่พี่ก่อทำไมมาทางนี้ล่ะ ทางนี้มันอ้อมนี่"


บุญก่อหัวเราะหึหึ "ก็เพราะมันอ้อมน่ะสิ ถึงมา" พูดแค่นั้นก็หยุดคิดอะไรนิดหนึ่ง แล้วพูดต่อ "ทำไมล่ะ หมิงอยากถึงตลาดเร็วๆ หรอ"


"ก็ ไม่หรอกค่ะ" ไม่เลยสักนิด หมิงคิดในใจ


"งั้นก็ไม่ต้องถามเหตุผล เพราะในคำตอบหมิงมันก็มีคำตอบของพี่อยู่..." บุญก่อพูดแล้วยิ้มนิดๆ แบบติสแตกตามเคย


ขี่จักรยานมาถึงรถเข็นขายไอติมที่จอดพักร้อนที่ใต้ร่มต้นก้ามปูข้างทาง บุญก่อก็จอดรถ หันมาถามหมิง "หมิงกินไอติมไหม"


"กินค่ะ" หมิงตอบทันทีแทบจะไม่ต้องคิด 55555 บุญก่อมองแล้วแอบขำ แต่ไม่พูดอะไร จอดรถเสร็จก็หันมาถามหมิง


"หมิงจะกินอะไร"


หมิงยิ้ม รีบบอกว่า "เดี๋ยวหมิงสั่งเองค่ะ.."หันไปหาพ่อค้า "เอาขนมปัง ใส่ข้าวเหนียว ลูกชิด มันเชื่อม ถั่วลิสง ถั่งเหลือง เอาเป็นว่าใส่ทุกอย่าง ราดนมผสมช็อกโกแล็ตแล้วโรยไอ้เกล็ดๆ สีเหลืองๆแดงๆ ด้วย" สั่งพ่อค้าอย่างชำนาญ แล้วหันไปถามบุญก่อ


"แล้วพี่ก่อล่ะ กินอะไร"


"พี่เอา ไอติมล้วนๆ ใส่ถ้วยไม่ใส่อะไรเลย" บุญก่อว่า หมิงหันมามอง "ทำไมไม่ใส่เครื่องล่ะคะ ใส่เครื่องแล้วอร่อยนะ อร่อยทุกอย่างเลย"


"ความอร่อยของคนมันไม่เหมือนกัน สำหรับพี่ พี่ชอบกินไอติมที่เรียกว่าไอติมจริงๆ ไม่ใช่ไอติมที่ใส่เครื่อง เพราะพี่ไม่อยากสูญเสียรสชาติที่แท้จริงของมันไป"


บุญก่ออธิบายเรียบๆ "ไอติมที่เรียบหรูดูดีเพราะการตกแต่งประดับประดาน่ะนะ มันก็ดูสวยงามดี แต่จริงๆ แล้วมันก็คือไอติมธรรมดานี่แหละ เพียงแต่มันมีเปลือกที่ดูดีสวมอยู่เท่านั้นเอง พอไอติมละลาย ตัวตนทั้งหมดของไอติมก็หายไปเหมือนๆ กัน"


หมิงกินไอติมไปด้วย ฟังบุญก่ออธิบายไปด้วย ในใจนึกทึ่งในตัวเขาจริงๆ กระเป๋ารถทำไมพูดอะไรได้ลึกซึ้งมีปรัชญาอย่างนี้นะ


ขณะที่ทั้งสองกำลังลิ้มรสชาติไอติมอยู่นั่นเอง รถมอเตอร์ไซค์ของหมวดเด่นก็แล่นเข้ามาจอด บุญก่อหันไปมองแล้วก็ร้องทัก


"อ้าว หมวด มากินไอติมหรอครับ"


"ใช่ครับ ร้อนๆ แบบนี้ก็ต้องกินไอติม หน้าหนาวก็ต้องกินบัวลอยน้ำขิง มันเป็นไปตามกฏเกณฑ์น่ะครับ" หมวดเด่นตอบขรึม หันไปสั่งไอติมพ่อค้า


"แล้วนี่หมวดไปไหนมาคะ ไม่เห็นที่ตลาดเลย" หมิงถาม


"ผมไปโคกสารินมาครับเมื่อเช้า ไปทำธุระน่ะ" หมวดเด่นตอบแล้วนึกไปถึงถุงคุ้กกี้ที่แอบซื้อเอาไว้ใส่ในกระเป๋าเป้ด้านหลัง ไม่ให้ใครเห็น ถ้าคนรู้ว่าหมวดเด่นมาดเข้มอย่างเขาซื้อคุ้กกี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน


"อ้าว พี่ก่อก็ไปเมื่อเช้าเหมือนกัน เจอกันหรือเปล่าคะ" บุญก่อกับหมวดเด่นหันมามองหน้ากัน แล้วต่างคนต่างรีบปฏิเสธ


"ไม่เจอนี่ แหม ตลาดโคกสารินใหญ่กว่าตลาดบ้านเราอีก จะไปเจอกันได้ยังไง" หมวดเด่นให้เหตุผล หันไปมองคุกกี้ที่อยู่ในมือหมิงแล้วยิ้มนิดๆ


"อ๊ะ คุ้กกี้แม่เนิกมาอยู่ที่นี่ได้ไง หรือว่า บุญก่อ..." หมวดเด่นแซวทันที ในใจคิดขำๆ ดีนะที่ไม่มีใครรู้ว่าเราก็ซื้อมาเหมือนกัน


"บุญก่อซื้อมาฝากหมิงหรอ" หมวดเด่นถามอีก หมิงหันไปมองบุญก่อ ก็เห็นเขายิ้มนิดๆ


"หมวดแซวผมใช่ไหม แล้วทีหมวดล่ะ ก็ซื้อคุ้กกี้ใส่ไว้ในเป้หลังเหมือนกันไม่ใช่หรอ อย่านึกว่าไม่รู้นะ ความจริงผมเห็นหมวดแว้บๆ ที่หน้าร้านคุ้กกี้แม่เนิกเหมือนกันแหละ" แป่วว หมวดเด่นจ๋อยไป แต่รีบรักษามาดที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดเอาไว้เท่าที่จะทำได้


"อะไรกัน บุญก่อ สงสัยจะจำคนผิดละมั้ง อย่างผมเนี่ยหรอจะไปอยู่หน้าร้านคุ้กกี้ อย่ามาตลกน่า" หมวดเด่นรีบพูดกลบเกลื่อนทันที ก่อนจะรีบรับไอติมมาจากพ่อค้า


"ผมไปก่อนดีกว่า ต้องรีบไปปฏิบัติงานต่อ" หมวดเด่นว่า


"รีบไปปฏิบัติงานหรือว่าจะรีบเอาคุ้กกี้ไปให้ลูกสาวบ้านไหนล่ะครับ" บุญก่อถามยิ้มๆ


"ก็บ้านเฮียบวบ ร้านขายข้าวสารนั่นแหละ เอ้ย..."หมวดเด่นเผลอหลุดปากไป หยุดแทบไม่ทัน "อะไรกัน ก็ผมบอกแล้วว่าไม่มีคุ้กกี้ มีที่ไหนกันเล่า ผมไปปฏิบัติงานดีกว่า"


ว่าแล้วก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปทันที บุญก่อกับหมิงมองตามแล้วหันมายิ้มให้กัน


"กลับบ้านกันดีกว่า เดี๋ยวอาโกจะบ่น" บุญก่อหันมาชวน หมิงพยักหน้า รีบขึ้นมานั่งซ้อนท้ายจักรยานทันที พลางนึกในใจ ไม่อยากให้ช่วงเวลาตอนนี้ผ่านไปเลย


บุญก่อเองก็ถอนหายใจ เมื่อถึงอะไรบางอย่าง หันไปแอบมองหมิงแวบหนึ่งแล้วก็หน้าขรึมลงไปอย่างใช้ความคิด
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:35 pm

คุณนายแจ่มมองลูกสาวตัวเองนิ่งๆ ในดวงตาของคุณนายนั้นประหวั่นพรั่นพรึงเหลือเกิน


ยิ่งเห็นปฏิกิริยาแบบนั้น ....เพชรชี่เป็นคนใจแข็งเหมือนแม่ ไม่เคยแสดงความรู้สึกง่ายๆ ถ้าถึงกับแสดงความรู้สึกแบบนั้นออกไป นั่นย่อมหมายความว่า ความรู้สึกนั้นมันแน่ชัดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด


โกรธน่ะโกรธ แต่ไม่แน่ใจ ว่าโกรธใครกันแน่ ระหว่างลูกสาว พ่อทุย หรือว่าตัวเอง


"ว่าไงเพชรชี่ ที่ทำยังงี้ หมายความว่ายังไง" ถามลูกออกไปด้วยเสียงเข้ม เต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก เราต้องเอาความโกรธมาข่มความเศร้าเอาไว้


"หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะคุณแม่" พัชราตอบเสียงเรียบ แต่ในความเรียบนั้น คุณนายรู้ดี ว่ามันมีประแสต่อต้านปะปนอยู่ด้วย


"พูดออกมาได้ยังไงว่าไม่ได้ทำอะไร แล้วปล่อยให้พ่อทุยปืนระเบียงขึ้นมาหาไม่รู้กี่ครั้งเนี่ย ยังงี้เรียกว่าไม่ทำอะไรอีกหรอ"


"หนูไม่ได้ให้เขามา..."พัชราเสียงอ่อนลง ไม่อยากจะยอมรับกับใจตัวเอง ว่าอยากให้เขามาหรือไม่


"มันมีวิธีอีกมาก ที่จะแสดงให้รู้ว่าไม่อยากให้เขามา แต่นี่ลูกไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง ลูกคิดอะไรกับพ่อทุย คิดอะไรกับเขาอยู่หรอ" คุณนายแจ่มสวนทันที ประโยคท้ายนั้นตัดสินใจพูดออกไปให้รู้เรื่อง เรื่องมันควรจะจบลงไปโดยเร็ว อย่างน้อย ควรจะต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม


พัชราอึ้งไปทันทีกับคำถามของแม่ แม้ตัวเองจะรู้สึกเช่นไร แต่ปากกลับตอบไปอีกอย่าง "หนูไม่ได้คิดอะไรกับเขา.."


คุณนายแจ่มเขม้นมองลูกสาวเขม็ง เห็นแววตาที่ปิดบังซ่อนเร้นนั่นก็พอจะรู้ "แน่ใจนะว่าไม่ได้คิดอะไรกับเขา.."


พัชราพยักหน้า แม้จะเป็นการพยักหน้าที่ฝืนอยู่ไม่น้อย แต่คุณนายก็พอใจขึ้นมานิดหนึ่ง "งั้นก็ดี ถ้าลูกไม่ได้คิดอะไรกับเขาก็ดี เพราะคนอย่างพ่อทุยน่ะ เขาไม่คู่ควรกับลูกหรอก เขาไม่เหมาะกับลูกเลยสักนิด และแม่ก็เชื่อนะ ว่าพ่อทุยเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับลูกเหมือนกัน"


พัชราฟังแม่พูดแล้วออกจะใจหาย โดยเฉพาะประโยคหลัง...เขาคงไม่ได้คิดอะไรกับเรา ที่เขาทำมาทั้งหมด ก็แค่แกล้งเราเล่นเท่านั้น...คิดแล้วดวงตาของพัชราก็หม่นแสงลง คุณนายเห็นดังนั้นก็สำทับขึ้นมาอีก


"ลูกต้องเลิกคบ เลิกติดต่อกับเขานะ เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้ดีอย่างที่แม่วางใจซะแล้ว แม่ไม่อยากให้ลูกต้องเสียใจเพราะคนหลอกลวงอย่างเขา เขาโกรธแม่ที่ยึดที่นาของเขาไป เขาก็เลยมาแก้แค้นเอากับลูก ลูกรู้ตัวไหม ว่ากำลังเป็นเครื่องมือแก้แค้นของเขาน่ะ.."


พัชรานิ่งอึ้งไปทันที พูดอะไรไม่ออก คุณนายแจ่มเดินเข้ามาหา แล้วลูบผมลูกสาวเบาๆ "แม่รักลูก แม่อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกนะ ต่อไปลูกจะเข้าใจเองว่าแม่ทำเพื่อลูกจริงๆ แต่ถ้าลูกไม่เชื่อแม่ ลูกจะต้องเสียใจมากๆ จะต้องเสียใจแน่ๆ" คุณนายแจ่มหยุดนิดหนึ่งก่อนจะรำพึงขึ้นมาเบาๆ "และแม่เองก็คงจะต้องเป็นคนที่เสียใจที่สุด"


"หมายความว่ายังไงคะ" พัชราเงยหน้ามาถาม ความรู้สึกเศร้าประดังประเดเข้ามาอย่างไม่รู้ทิศทาง


"ต่อไปลูกจะเข้าใจเอง..." คุณนายแจ่มตอบสั้นๆ ดวงตานั้นเหม่อลอยออกไปไกล ไกลเกินกว่าที่ใครๆ จะนึกถึง
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:35 pm

คุณนายแจ่มออกจากห้องไปแล้ว พัชรานั่งอยู่บนเตียงคนเดียว


ในใจนั้นนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา กับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยคิดต่อต้านเขามาตลอด...แต่แล้วในที่สุด...ในที่สุดเขาก็ดึงดั
นเข้ามาในหัวใจจนได้...เขามาตอนไหนก็ไม่รู้ รู้อีกที เขาก็เป็นคนเดียวที่หัวใจไม่อาจปฏิเสธเสียแล้ว


เขาเข้ามา เพียงเพื่อจะทำให้หัวใจเจ็บช้ำ แล้วก็เดินจากไป...อย่างที่แม่บอกหรือเปล่า นี่เขาทำไปทั้งหมดเพื่อแก้แค้นเรา แกล้งเรา อย่างนั้นใช่ไหม


ในใจพัชราสับสนวุ่นวาย ยิ่งคิดก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเอง


ในระหว่างนั้น ใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง เข้าเดินเข้ามานั่งข้างๆ พัชราหันมามอง "แมน มาได้ยังไงเนี่ย"


แมนยิ้ม เขาเห็นแววตาหม่นแสงของพัชราอย่างชัดเจน แววตาที่แสดงความเจ็บปวด มันทำให้แมนรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย แต่เขาจะทำอะไรได้เล่า คนอย่างเขาจะทำอะไรได้เล่า แมนคิดในใจเศร้าๆ แต่ฝืนยิ้ม


"เมื่อเช้าไปทำธุระที่โคกสารินมาครับ เลยซื้อคุ้กกี้มาฝากพัชราด้วย คุ้กกี้แม่เนิกเจ้าดังไง" พูดแล้วยื่นถึงคุ้กกี้ให้ พัชราหันมามอง แล้วยื่นมือออกไปรับ


"ขอบคุณมากนะ แมนดีกับเราเสมอ"


"เรื่องแค่นี้เอง.." แมนยิ้ม แต่ดูเป็นยิ้มเศร้าๆ มองพัชราแล้วตัดสินใจถาม "พัชราเป็นอะไร บอกผมได้ไหม"


พัชราหันมามองแมน ส่ายหน้า พยายามยิ้ม แต่ก็ยิ้มไม่ออก ที่ออกนั้นคือน้ำตา...หยาดน้ำตาใสๆ ไหลซึมออกมา...พัชราส่ายหน้าทั้งที่น้ำตาซึม


แมนมองแล้วสะท้อนใจ เขาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เบาๆ พัชราพยายามยิ้มบอกแมนเศร้าๆว่า


"แมนเป็นคนแรกที่เห็นน้ำตาเรา..."


แมนฟังแล้วอึ้งไป ก่อนที่จะว่าขรึมๆ


"ร้องออกมาซะบ้างเถอะพัชรา การเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องใจแข็งและฝืนใจตัวเองขนาดนั้น ชีวิตคนเราน่ะนะ อ่อนแอบ้างก็ได้ ไม่มีใครว่าหรอก"


"ไม่ เราไม่อยากอ่อนแอ เพราะเราไม่อยากให้ใครเข้ามาทำลายหัวใจเราอีกแล้ว เราพลาดไปแล้ว เราจะไม่มีวันยอมให้มันพลาดอีก" พัชราเงยหน้ามาบอกทั้งน้ำตา "แมนเป็นคนแรกที่เห็นน้ำตาเรา และคงจะเป็นคนสุดท้ายเช่นกัน" พร้อมๆ กับที่พูด น้ำตาก็ร่วงลงมาอีก คราวนี้หลั่งไหลออกมาเป็นสาย แมนเอื้อมมือไปกอดไว้หลวมๆ และลูบหลังเบาๆ อย่างปลอบโยน สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง หวังว่าพัชราคงจะดีขึ้นบ้าง...เพราะเขาเอง...ก็คงทำได้แค่นี้


ไกลออกไปที่ประตู บริทนีย์ยืนมองภาพนั้นอยู่ด้วยความรู้สึกบางอย่าง จากหัวใจที่เคยแห้งแล้งอยู่แล้ว มาบัดนี้มันเท่าทบทวีคูณ ท่าทางแมนคงจะมีความสุขที่ได้ดูแลคนที่อยากจะดูแล


เราก็ต้องมีความสุขด้วยสิ ....ก็ความรักคือการเสียสละไม่ใช่หรอ....เห็นเขามีความสุขเราก็ควรจะมีความสุข......



น้ำตาซึมออกมา มันไหลออกมาเงียบๆ อย่างเจียมตัว มันไหลออกมาและเหือดแห้งไปเอง โดยปราศจากมือใครสักคนที่จะมาเช็ดให้ ปราศจากคำพูดปลอบโยน ให้คลายเศร้า มันไม่มีอะไรเลย เพราะเรามันคนไม่มีใครอยู่แล้ว


เธอได้เห็นน้ำตาของพัชราเป็นคนแรก ...และเมื่อหลุดจากความทรงจำเก่าๆ อันเจ็บปวดที่ผ่านมา เธอก็เป็นคนทำให้ชั้นเสียน้ำตาเป็นคนแรกเช่นกัน...
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:36 pm

บุญก่อขี่จักรยานมาถึงหน้าตลาด หมิงก็สะกิดอีกครั้ง


"พี่ก่อๆ"


บุญก่อหันมามอง "หือ มีอะไร..."


"พี่ก่อส่งหมิงแค่นี้นะ เดี๋ยวหมิงขี่รถไปเอง" หมิงรีบบอก บุญก่อหยุดรถทันที หันมามองหน้าหมิงนิ่งๆ "ทำไมหรอ ทำไมต้องทำอย่างนั้น หรือหมิงอายที่มาซ้อนท้ายพี่"


"ไม่ใช่นะพี่ก่อ..." หมิงรีบพูดทันที "คือว่าหมิงเห็นว่าพี่ก่อกับป๊าไม่ถูกกัน ถ้าป๊าเห็นพี่มาส่งหมิง ป๊าต้องโกรธมากแน่ๆ เลย"


"แล้วยังไงล่ะ" บุญก่อถาม ทำหน้าตีสแตก "ก็พี่บอกแล้วว่าจะมาส่งหมิงก็ต้องมาส่งให้ถึงที่"


"แต่ว่าป๊า..."


"ไม่เป็นไรหรอก เกิดอะไรขึ้น พี่จะรับผิดชอบเอง...ขอเพียงแต่...." บุญก่อพูดแล้วสบตากับหมิง "...เชื่อใจกันก็พอ.."


หมิงมองผ่านแววตาที่ไม่เคยอ่านออกของบุญก่อ แต่ตอนนี้หมิงกลับเห็นความจริงใจฉายชัดอยู่ในดวงตาคู่นั้น มันทำให้หมิงพยักหน้ารับ แล้วขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายรถบุญก่อเหมือนเดิม


จนมาถึงหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว หมิงลงจากรถ บุญก่อเองก็จูงจักรยานเอาไปเก็บให้ เสร็จเรียบร้อยทั้งสองก็เดินเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวมาด้วยกัน..


และต่างชะงัก เมื่อเห็นว่า อาโกกำลังนั่งมองทั้งคู่อยู่และเอ่ยเสียงดังออกมาทันที


"ลื้อไปไหนมาอาหมิง..." เสียงนั้นกราดเกรี้ยว ทำเอาหมิงเสียวสันหลังวาบ


"ก็...หมิงไม่ได้ไปไหน แค่ไปขี่จักรยานเล่นเท่านั้นเองจ้ะป๊า" หมิงตอบแบบตะกุกตะกัก พยายามปิดเรื่องเซร่าเอาไว้


"ขี่จักรยานเล่น...กับไอ้หมอนี่หรอ" อาโกแผดเสียงมากขึ้น เมื่อหันไปมองบุญก่อ


"ใช่ครับ ผมมาชวนหมิงไปขี่จักรยานเล่นเอง อาโกจะว่าอะไรก็ว่าผม เพราะหมิงไม่เกี่ยว หมิงไม่ผิด" บุญก่อรีบตอบแทนทันที อาโกหันมามองบุญก่อตั้งแต่หัวจรดเท้า แสยะยิ้ม


"นี่ลื้อมาคิดอะไรกับลูกสาวอั๊ว ถึงได้ออกรับแทนกันขนาดนี้ จะแอบมาจีบลูกสาวอั๊วหรือไง"


หมิงสะดุ้งเล็กน้อย หันไปมองบุญก่อทันที แต่บุญก่อก็ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ก็ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะอาโก"


อาโกวิดตาลุกวาวด้วยความโมโหเมื่อได้ฟังถ้อยคำนั้น "หนอย ว่าไงนะ นี่ลื้อมันไม่ได้เจียมตัว ไม่ได้ดูกะลาหัวตัวเองเลยหรอ ลูกสาวอั๊วมันคงไม่ตาต่ำอย่างนั้นหรอก ใช่ไหมอาหมิง" ประโยคท้ายหันไปหาลูกสาว แต่คำตอบที่ได้รับกลับมา ทำให้อาโกวิดแทบผงะ


"แต่หมิงไม่ได้คิดรังเกียจพี่ก่อเลยนะป๊า" หมิงตอบออกมาทันที หันไปมองบุญก่อแวบหนึ่งแล้วรีบหันกลับมา เพราะความเขินเล็กน้อย "เราไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีเลยนะป๊า หมิงคิดว่ามันคงจะไม่ผิด..."


" ทำไมจะไม่ผิด ผิดมหันต์เลยแหละ ที่มาคบคนอย่างมัน" อาโกสวนทันที ใจหายเหลือเกินเมื่อได้ยินลูกสาวพูดคล้ายกับว่าจะตกหลุมรักไอ้เจ้าบุญก่อเข้าให้แล้ว
เราจะยอมได้ยังไง เรายอมไม่ได้ ก็ไอ้เจ้าบุญก่อมัน...อาโกคิดอย่างหวาดหวั่น หันไปมองบุญก่อแล้วหันมามองหมิง "ลื้อไม่รู้หรอกว่า มันไม่ใช่คนดีอย่างที่ลื้อคิด"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:36 pm

บุญก่อหันมามองหน้าอาโกวิดทันที ในแววตาเขามีร่อยรอยของความระแวงผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วก็จางหายไป ขยับจะพูดอะไรแล้วก็ไม่ได้พูด


"ป๊าหมายความยังไง" หมิงอดถามไม่ได้


"ลื้อก็ลองถามมันดูสิ ลองถามมันดู" พูดแล้วหันไปมองบุญก่อ หมิงเองก็หันไปมองเช่นกัน สายตานั้นเต็มไปด้วยคำถาม แต่บุญก่อก็ยังนิ่งเฉย ได้แต่ถามอาโกเรียบๆ แต่เสียงเข้มขึ้น


"อาโกหมายความว่ายังไง พูดมาเลยดีกว่า อย่ามากล่าวหากันลอยๆ แบบนี้"


"อั๊วไม่กล่าวหาลื้อลอยๆ หรอก อั้วเห็นมากับตา ไม่งั้นอั๊วคงไม่กล้าพูด" อาโกก็ขึ้นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ทั้งสองคนจ้องตากันอย่างหยั่งเชิง มีแต่หมิงเท่านั้นที่มองทั้งสองอย่างงุนงง


"อั๊วไม่จับลื้อส่งตำรวจก็บุญเท่าไหร่แล้ว เพราะว่าอั๊วเห็นแก่ลุงต้อยของลื้อ จนป่านนี้ลื้อยังไม่รู้สำนึกอีกหรอ" อาโกวิดคำราม ส่วนบุญก่ออึ้งไปอย่างพูดอะไรไม่ออก


"ลื้อเป็นอย่างนี้ แล้วจะให้ลูกสาวอั๊วมาคบกับคนอย่างลื้อได้ยังไง อั๊วจะยอมได้ยังไง" อาโพูดแล้วหันมามองหมิง สั่งน้ำเสียงเฉียบขาด


"อาหมิง ลื้อต้องเลิกคบกับมัน ไม่ต้องเสวนากับมันอีก ได้ยินที่ป๊าบอกไหม"


"ไม่นะป๊า ทำไมป๊าต้องมาบังคับหมิงด้วย" หมิงส่ายหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ คราวนี้อาโกวิดหันมามองลูกสาวคนเดียวเต็มตา ลูกสาวที่เลี้ยงมาอย่างทนุถนอม ลูกสาวที่น่ารักไม่เคยมีปากเสียง บอกอะไรก็เชื่อฟัง แต่ดูตอนนี้สิ ลูกสาวคนนี้กำลังจะเถียงป๊า เถียงเพื่อใครคนหนึ่งที่มันไม่ได้มีอะไรคู่ควรกับลูกสาวป๊าเลย แถมมันยังมีชนักติดหลังอีก อาโกวิดคิดอย่างปวดร้าว


"นี่หมิงไม่เชื่อป๊าไช่ไหม ป๊าบอกอะไรไม่เชื่อป๊าแล้วใช่ไหม"


"หมิงเชื่อป๊ามาตลอด แต่ว่าครั้งนี้ หมิงอยากให้ป๊าฟังเหตุผลหมิงบ้าง" หมิงรีบพูดขึ้นโดยเร็ว "หมิงไม่อยากให้ป๊ามาบังคับหมิง"


"แล้วเหตุผลอะไรล่ะที่หมิงอยากจะบอกป๊า เหตุผลอะไรที่ป๊าจะบังคับหมิงไม่ได้" อาโกก็รีบถามขึ้นโดยเร็ว นึกหวั่นในใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งเห็นสายตาของลูกสาวที่มองบุญก่อแล้วอาโกไม่อยากจะคิดถึงเลย ไม่อยากจะคิดเลย


"ก็หมิง..หมิง...." หมิงพูดแล้วหันไปหาบุญก่อ สบดวงตาที่อ่านไม่ออกของเขาแล้วขยับจะพูด


แต่อาโกวิดไม่ปล่อยให้ลูกสาวได้พูด รีบขัดขึ้นมาเสียทันควัน "อย่ามาพูดอะไรเหลวไหลได้ไหมอาหมิง ลืมตาดูซะบ้างสิ ว่าไอ้ผู้ชายคนนี้มันเป็นยังไง อย่าให้ป๊าต้องพูดเลย ว่าป๊าไปเห็นมันทำอะไรมาบ้าง ถ้าป๊าจะจับมันส่งตำรวจ โทษของมันก็ถึงประหารชีวิตนั่นแหละ แล้วอย่างนี้ลื้อยังจะคิดอะไรกับมันอีกหรอ"


หมิงใจหายวาบเมื่อได้ยินป๊าพูดแบบนี้ พี่ก่อน่ะหรอจะไปทำผิดอะไรร้ายแรงขนาดนั้น มันจะเป็นไปได้ยังไง แต่เมื่อหันไปมองสบตาที่เรียบเฉยอ่านไม่ออกของบุญก่อแล้ว หมิงก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันทีเหมือนกัน


"ป๊าพูดอะไร หมิงไม่..." แต่หมิงยังแข็งใจตอบไป


"ลื้อไม่เชื่อใช่ไหม ไม่เชื่อก็ถามมันดูสิ ถามมันเลย ถามมัน ว่ามันยังจำคืนนั้นได้ไหม ดูสิว่ามันยังจะกล้าปฏิเสธไหม" อาโกแววตาเหี้ยมเกรียมเมื่อนึกไปถึงคืนนั้น


หมิงหันมาหาบุญก่อทันที "พี่ก่อ ไม่จริงใช่ไหมคะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันใช่ไหมคะ"


บุญก่อมองหมิงนิ่งๆ สายตานั้นนอกจากอ่านไม่ออกแล้ว มันยังเหมือนมีเงาอะไรบางอย่างที่เจ้าตัวพยายามเก็บกดเอาไว้อีกด้วย บุญก่อไม่ตอบอะไรหมิงสักคำ นั่นทำให้อาโกวิดยิ้มเย้ย


"เห็นไหมล่ะ ดูสิ มันกล้าปฏิเสธไหม ลื้อเห็นหรือยังอาหมิง"


หมิงหันไปมองอาโกวิดและหันไปหาบุญก่ออีกครั้งอย่างสับสน ถามอีกครั้ง "พี่ก่อบอกหมิงสิ ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ป๊าพูด ทำอะไรก็ได้ให้หมิงรู้ว่า พี่ก่อไม่ใช่คนแบบนั้น" หมิงเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน


แต่บุญก่อกลับดูสงบนิ่ง สงบนิ่งเกินไปด้วยซ้ำ เขาพูดออกมาเรียบๆ "พี่คงพูดแบบนั้นไม่ได้หรอกหมิง พี่ขอโทษนะ" พูดจบแล้วสบตาหมิงนิ่งๆ เมฆหมอกอะไรไม่รู้ปกคลุมแววตาของบุญก่อจนทำให้หมิงไม่สามารถอ่านมันออก


แล้วบุญก่อก็หันหลังเดินออกจากร้านไป ทิ้งให้หมิงมองตามด้วยความใจหาย อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:37 pm

เมื่องานรีดผ้าชิ้นสุดท้ายสิ้นสุดลง ตรัยและเซเรน่าต่างก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ก็การรีดผ้าหลายๆ ชิ้นมันทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย ทั้งร้อนอย่าบอกไม่ถูก


เซเรน่าทรุดตัวลงนั่งทันทีด้วยความเหนื่อย ตรัยเองก็เหนื่อยเช่นกัน แต่เขายังมีแก่ใจหาน้ำมาให้เซเรน่าดื่ม


"อ๊ะ ดื่มน้ำซะก่อนนะ" ส่งแก้วน้ำให้แล้วว่า "ขอบคุณคุณมาก ที่มาช่วยรีดผ้าให้ผม"


"ไม่ต้องมาขอบคุณหรอก ก็ชั้นเป็นคนทำให้มันยับทั้งหมดนี่" เซเรน่าทำพูดเมิน ไม่ใช่ไร รู้สึกเขินที่เขามาพูดดีด้วย "แถมยังมาบุกรุกสถานที่ส่วนตัวของนายอีก" เซเรน่าว่าแล้วอดนึกไปถึงตอนก่อนที่ตรัยจะเปิดประตูไม่ได้ คิดแล้วหน้าก็แดงขึ้นมา แต่เมื่อนึกถึงว่าตรัยพาผู้หญิงสาวสวยเข้าบ้าน แถมมาแตะเนื้อต้องตัวกันอีก ก็ทำให้เซเรน่าเปลี่ยนสีหน้าเป็นหน้าบึ้งขึ้นมาทันที


"บุกรุกสถานที่ส่วนตัวกับเวลาส่วนตัวของนายด้วย ชั้นขอโทษแล้วกัน" ขอโทษที่แอบดูนายพลอดรักกับผู้หญิงคนนั้น


ตรัยมองคนตรงหน้า เมื่อกี้ยังหน้าแดงสดใสอยู่ดีๆ แต่ตอนนี้หน้าบูดซะแล้ว อารมณ์ช่างเปลี่ยนแปลงง่ายเหลือเกิน


"แล้วคุณเป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าบึ้ง ผมยังไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย"


"ชั้นไม่ได้เป็นอะไรนี่" เซเรน่าพูดแล้วเผลอค้อนให้ ตรัยมองอย่างงงๆ


"ผมคงจะเชื่อคุณหรอกนะ หน้าบึ้งขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก"


"ไม่เชื่อก็ตามใจไม่ง้อ" เซเรน่าสะบัดหน้าแล้วลุกขึ้น เตรียมจะเดินออกไปนอกห้อง แต่ตรัยรีบคว้ามือเอาไว้ "นั่นคุณจะไปไหน"


"ชั้นก็กลับบ้านน่ะสิ จะอยู่รบกวนเวลาส่วนตัวของนายทำไมล่ะ" เซเรน่ายกมืออีกมือหนึ่งมาแกะมือที่ตรัยจับเอาไว้ แต่ตรัยไม่ยอมปล่อย


"จะกลับแล้วหรอ งั้น..." เอื้อมมือไปหยิบถุงคุ้กกี้ที่วางอยู่บนโต๊ะมาส่งให้ "คุ้กกี้แม่เนิกของมีชื่อจากโคกสาริน รับไปสิครับ"


เซเรน่ามองเฉย ไม่ยอมรับ เชอะ คุ้กกี้ของผู้หญิงคนนั้น ตรัยมองแล้วส่ายหน้า หยิบถุงคุ้กกี้ยัดใส่มือเซเรน่าจนได้ ทำเอาเซเรน่าโวยวาย


"เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่เอาๆ ไม่อยากกิน"


"แล้วทำไมจะไม่เอาล่ะ ก็คนเขาอุตส่าห์ซื้อมาให้...."ตรัยรีบพูดสวนขึ้นมาทันทีอย่างลืมตัว แต่เหมือนจะได้สติก็รีบหยุดเมื่อนึกได้ว่าเผลอพูดอะไรออกไป


เซเรน่าหันมามองหน้า ถุงคุ้กกี้ยังค้างอยู่ในมือ "เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ นายตั้งใจซื้อมาให้ใคร.." ทั้งๆ ที่ก็ได้ยินเต็มสองหูไปแล้วล่ะเมื่อกี้นี้ แต่ก็อยากได้ยินอีกครั้ง ดูสิว่าเขาจะกล้าพูดไหม


"เอ่อ...ก็ไม่มีอะไรนี่ แถวนี้ไม่มีเด็ก ผมเลยไม่รู้จะเอาคุ้กกี้ไปให้ใคร" ตรัยตอบเก๊กหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "ก็เลยให้คุณเอาไปช่วยทานหน่อย เดี๋ยวมันจะเสีย"


"งั้นหรอ" เมื่อคำตอบไม่เป็นดังหวัง เซเรน่าก็ตอบเบาๆ อย่างผิดหวังนิดๆ "งั้นชั้นไปก่อนละนะ" พูดแล้วจะหันหลังกลับ แต่เหมือนนึกอะไรได้ก็หันมาอีกครั้ง


"อ้อ ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณแทนเด็กๆสำหรับคุ้กกี้" พูดแล้วทำเมินไป ไม่ทันเห็นแววตาของคนที่ได้ยินประโยคนั้นว่ามันสดชื่นแค่ไหน ตรัยมองคนตรงหน้า ในหัวใจนั้นสดชื่นเหมือนแววตา รีบบอก "งั้นผมไปส่งนะ"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:37 pm

"ไปส่งยังไง หมอต่ายมีรถแล้วหรอ" เซเรน่าชะงัก หันมาถาม


"มีแล้วสิครับ ก็วันนี้ไปซื้อมาที่ตลาดโคกสาริน" ตรัยเดินเข้ามาหา แล้วพาเดินออกนอกบ้าน เซเรน่ามองคนที่เดินมาข้างๆ แล้วว่า


"ชั้นว่าแล้วว่าคนอย่างนายน่ะ คงไม่ยอมลำบากนั่งรถโดยสารหรอก นายคงจะต้องเอารถยนต์ดีๆ แอร์เย็นมาขับจนได้แหละ"


ตรัยมองคนข้างๆ แล้วส่ายหน้ากับวาจาค่อนขอดนั้น ได้แต่พาเดินออกมานอกบ้าน และชี้ให้เซเรน่าดูรถที่จอดอยู่หน้าบ้านเพียงคันเดียว มันจะเป็นคันอื่นไปไม่ได้เลย


เซเรน่ามองแล้วต้องขยี้ตาซ้ำ แล้วหันมามองตรัยอักทีอย่างไม่เชื่อสายตา "นี่นายซื้อรถคันนี้มาหรอ.."


ตรัยพยักหน้ายิ้มๆ เซเรน่ามองอย่างผิดคาด เดินเข้าไปดูใกล้ๆ


มันคือรถช็อบเปอร์แบบเก่า เครื่องยนต์สี่สูบ ดูสภาพแล้วน่าจะเก๋าไม่น้อย เซเรน่าตรงเข้าไปลูบคลำตัวรถอย่างประหลาดใจ "นายไปเอารถคันนี้มาจากไหน"


"รถคันนี้น่ะหรอ...มันเป็นรถของผู้ใหญ่พิษณุ บ้านโคกสารินน่ะ พอดีผู้ใหญ่เขามีรถหลายคัน เขาก็เลยขายรถคันนี้ มีคนติดต่อให้ผมน่ะ" ก็คนวงในอย่างพัดชานี่แหละ ที่เป็นคนติดต่อให้


"ผู้ใหญ่พิษณุหรอ ชั้นเคยได้ยินคนบ้านทุ่งพูดถึงอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่หนุ่มที่สุดและหล่อที่สุดในประเทศไทย อย่างนั้นใช่หรือเปล่า"


"อย่างนั้นแหละ ใครๆ เขาก็ว่าอย่างนั้น" ตรัยพยักหน้ารับ ก่อนจะชวน "ไป กลับบ้านกันเถอะ ผมไปส่ง"


ว่าแล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถ สตาร์ทรถเสียงดัง เซเรน่าขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย เรียบร้อย ตรัยก็บิดรถออกไปทันที


แต่ยังไม่ทันจะพ้นสถานีอนามัยเลย ตรัยซึ่งเป็นคนขับนั้นก็ต้องตาเบิกกว้างเมื่อเจอกับรั้วของสถานีอนามัย และตรัยก็หลบไม่ทัน


"เฮ้ยยยยยยย..." ร้องพร้อมๆ กับเซเรน่า "อร้ายยยยยยยย"


ช็อปเปอร์คันนั้นพุ่งเข้าชนรั้วอย่างจังเสียงดัง "โครมมมมมมมม..."


ทั้งตรัยและเซเรน่าเสียหลักล้มไปกับรถ แข้งขาเขียวไปตามๆ กัน ตรัยหันมามองเซเรน่าที่ล้มอยู่ใกล้ๆ กัน "คุณเป็นยังไงบ้าง"


"โอ้ยยยย เจ็บอ่ะ นี่นายขับรถภาษาอะไรเนี่ย ทางเข้าก็ตั้งกว้างใหญ่ ดันขับชนรั้วได้" เซเรน่าบ่นไปด้วย ร้องโอยไปด้วย


"ผมขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว...คือว่า...คือว่าผม" ตรัยตะกุกตะกัก "ผมมีอะไรจะบอก..."


เซเรน่าหันมามองหน้า เตรียมฟัง ตรัยจึงว่าเบาๆ ลืมมาดเก๊ก"ผมเพิ่งขับรถนี่เป็นครั้งแรก..."


"ว่าไงนะ ขับเป็นครั้งแรก..."เซเรน่าทำหน้ากลุ้มใจ "แล้วทำไมไม่บอกเล่า โธ่..."


"ก็ผมอยากจะขับรถไปส่งคุณนี่" ตรัยพูดขึ้นมาทันทีอย่างลืมตัว หันมามองหน้าเซเรน่าก็เห็นชะงักไป ต่างคนต่างชะงัก มองหน้าและสบตากัน ท่ามกลางซากรั้วที่เว้าแหว่ง มอเตอร์ไซค์ที่ล้มกลิ้ง และขี้ฝุ่นขี้ดินที่คลุกตัวทั้งคู่ไว้ แต่ทั้งสองดูเหมือนไม่เดือดร้อน ไม่เดือดร้อนเลยสักนิด...
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 5 EmptyWed Jul 04, 2007 2:37 pm

หมวดเด่นเดินเต้นเสต็ปมาดเข้มเข้าไปในตลาด ในกระเป๋าเป้มีถุงคุ้กกี้นอนนิ่งอยู่ในนั้น


สายตามุ่งตรงไปที่ร้านเฮียบวบ ร้านขายข้าวสาร บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมต้องมาที่นี่


และทำไมต้องคิดอยากซื้อคุ้กกี้ไปฝากใครบางคนที่นี่ก็ไม่รู้...กิริยาท่าทาง คำพูดคำจา มันน่าจะซื้อไปฝากจังเลยนะเนี่ย หมวดเด่นคิดอย่างปลงๆ แต่ยังไงเขาก็ตกลงมาแล้วนี่...


แต่ยังไม่ทันจะถึงร้านข้าวสารของเฮียบวบ หมวดเด่นก็เจอสองแฝดนั่งกินขนมจีนอยู่ในร้านขายขนมจีนข้างร้านก๋วยเตี๋ยว


หมวดเด่นจึงรีบเดินเข้าไปหาทันที


"เอ่อ...." เข้าไปยืนตะกุกตะกัก ไม่รู้จะเรียกยังไง อะไรกัน มาดเข้มอย่างเขาเกิดทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาซะอย่างนั้น


"หยุดนะ.." อ้าว ไม่รู้จะพูดยังไงก็ออกคำสั่งซะเลย -*- สองแฝดชะงักช้อนที่กำลังจะตักขนมจีน หันมามองทันที เมื่อเห็นว่าใครมายืนอยู่ที่โต๊ะก็ทำหน้าแปลกใจ


"อ้าว หมวด มาได้ยังไงคะเนี่ย" มะยมร้องทัก


"ก็ คือ ผมมารถมอเตอร์ไซค์ของผมไงครับ" หมวดเด่นตอบแบบกำปั้นทุบดิน พุทรามอง แอบยิ้มขำเล็กน้อย "แล้วมาแถวนี้มีอะไรไม่ทราบ มีใครทำอะไรผิดกฏหมายอีกหรอคะ"


"ก็....." หมวดเด่นมองไปรอบๆ "คงไม่มีอะไรผิดกฏหมายหรอกครับ"


"ถ้างั้น หมวดจะมาทำอะไร อย่าบอกนะว่าจะมากินขนมจีน" พุทราดักคอ หมวดเด่นตอบอะไรไม่ถูก นิ่งไปพักหนึ่ง มะยมสะกิดพุทรา


"หมวดเด่นท่าทางแปลกๆ นะ ชั้นว่า เขาไม่ได้มาจับคนทำผิดกฏหมายหรอก..."มะยมหยุดพูด มองพุทรายิ้มๆ "แต่ชั้นว่าเขามาหาเธอมากกว่า"


"เฮ้ย จะบ้าหรอ" พุทรารีบโวยกลบเกลื่อนทันที ไม่เคยเลยนะที่จะคิดเขินผู้ชายมาดเข้มคนนั้น แต่ตอนนี้ทำไมเกิดเขินขึ้นมาได้ไม่รู้ "เขาจะมาหาชั้นทำไม หาเรื่องมาจับชั้นละสิไม่ว่า"


"ก็คงหาเรื่องจับจริงๆ แหละ ขนาดวันนั้นยังจับเธอไปคนเดียวเลย ห้ามชั้นตามไปด้วยนะ" มะยมพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองหมวดเด่น


"หมวดทานขนมจีนไหมคะ"


หมวดเด่นส่ายหน้าทันที "ไม่ละครับ นี่มันก็จะเย็นแล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณ ขนมจีนเขาต้องกินกันตอนเช้าครับ กินตอนนี้มันผิดกฏเกณฑ์"


"แต่กินแล้วมันก็ไม่ตายนี่หมวด แล้วมันก็ไม่ผิดกฏหมายตรงไหนด้วย" พุทราพูดสวนทันที หมวดเด่นหันมามองหน้า จ้องตาเขม็ง แต่ยิ่งจ้องตาเล็กๆ นั่น หมวดเด่นก็เริ่มจะเคลิ้ม เฮ้ย นี่เขาเป็นอะไรไปนะ


ฝ่ายพุทราก็เช่นกัน ต่อปากต่อคำกับเขามากๆ ก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ แล้วดูสิ หมวดมาจ้องหน้าอยู่ได้


ดวงตาเล็กๆ สองคู่จึงมองกันและกันด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ทวีมากขึ้นทุกที มีดวงตาเล็กๆ อีกคู่หนึ่ง คอยแอบสังเกตอยู่พลางนึกสงสัย


"อะแฮ่ม" มะยมกระแอมขัดจังหวะ ทำเอาดวงตาเล็กๆ สองคู่นั้น ละสายตาจากกันและกัน


"มีอะไรมะยม" พุทราหันมาถามเบาๆ ในใจเต้นตึกตักแปลกๆ


"เปล่า ไม่มีอะไร แต่เป็นห่วงว่าขนมจีนน้ำยาจะเย็นซะหมด เห็นนั่งจ้อง เอ้ย เห็นไม่กินสักที" มะยมตอบ หันไปมองหมวดเด่นก็เห็นยังยืนเก้กังอยู่


"ตกลง หมวดมีธุระอะไรหรือเปล่าคะเนี่ย ต้องมีแน่ๆ เลยใช่ไหม" มะยมถามยิ้มๆ


หมวดเด่นมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเขา ก็หยิบถุงคุ้กกี้ออกมาจากระเป๋าเป้ ไม่รู้จะพูดอะไรก็ยื่นให้มันดื้อๆ อย่างนั้นแหละ ตามประสาคนตรงอย่างเขา


"ผมซื้อคุกกี้มาฝากครับคุณ...." หมวดเด่นยังพูดไม่ทันจบ มะยมก็แทรกขึ้นมาว่า


"ซื้อมาฝากเราสองคนหรือคะ"


"เอ่อ คือ ผม..." หมวดเด่นตะกุกตะกักเป็นครั้งแรกในชีวิต คนอย่างเขาทำอะไรต้องเด็ดขาดเสมอสิ ทำไมแค่นี้ถึงพูดไม่ได้ หมวดเด่นคิดอย่างกลุ้มใจตัวเอง


ในระหว่างที่หมวดเด่นกำลังคิดหาคำตอบอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้น เมื่อหันไปดูก็เห็นว่า พี่ตุ่นชุมพลกำลังเดินเข้ามาในตลาดด้วยมาดพระเอก


มะยมกับพุทราผุดลุกขึ้น แล้ววิ่งออกไปหาพี่ตุ่นทันที แต่.....มีมะยมคนเดียวที่วิ่งไปหาพี่ตุ่นได้


เพราะพุทรานั้น....โดนหมวดเด่นจับข้อมือเอาไว้ก่อน....


พุทราหันมามองทันที หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นมาแบบแปลกๆ มองมือตัวเองที่หมวดเด่นจับอยู่ "นี่หมวดจะทำอะไรอ่ะ"


หมวดเด่นเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน ร้อยวันพันปีเขาเคยทำแบบนี้ที่ไหนกันเล่า นี่น่าจะเป็นครั้งแรก มองพุทรา มองมือที่จับไว้ หัวใจก็เต้นแรง


"ผมไม่ได้จะทำอะไร เพียวแต่จะบอกว่า..." หมวดเด่นรีบหยิบคุ้กกี้มาใส่มือพุทรา "ผมซื้อคุ้กกี้มาฝากคุณ..."


พูดได้เท่านั้น ก็รีบปล่อยมือ แล้วเต้นสเต็ปออกไปทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้พุทราได้โต้แย้งหรือพูดอะไรสักนิด แค่นี้เขาก็เขินจะแย่อยู่แล้ว


พุทรามองตามเสต็ปของหมวดเด่นไปด้วยความงง มองคุ้กกี้แล้วรู้สึกแปลกๆ แต่ก็อดยิ้มออกมานิดๆ ไม่ได้
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
 
มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 5 เธˆเธฒเธ 6เน„เธ›เธ—เธตเนˆเธซเธ™เน‰เธฒ : Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6  Next
 Similar topics
-
» ???? ??? @ ??าน????????

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
 :: :: Talk Of The Twin :: :: :: Fan Fiction ::-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: