Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.



 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  PortalliPortalli  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย

Go down 
3 posters
เน„เธ›เธ—เธตเนˆเธซเธ™เน‰เธฒ : Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6  Next
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptySat May 05, 2007 11:28 am

เวลาผ่านไปจนดึกดื่น ค่อนคืน.....ที่ต้นมะม่วงต้นนั้น....


คนสองคนที่นั่งอยู่บนกิ่งมะม่วงต่างนั่งหลับกันอย่างอ่อนเพลีย....มือทั้งสองยังจับก
ันไว้แน่น เหมือนจะกลัวตก.....


แต่แล้วแมนก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมดแดงตัวเล็กๆ รุมเข้ามากัดเขา แทบจะยกรังกันมาเลยทีเดียว


"เฮ้ยยย..."แมนร้องอุทาน ใช้อีกมือหนึ่งปัดมดแดงออกจากตัว แล้วเขาก็เห็นมดสองสามตัวกำลังไต่ขึ้นไปบนตัวบริทนีย์....ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ


จนขึ้นไปถึงบนหน้า แต่คนหลับก็ยังหลับไม่รู้ตัวเลย....เออ หลับลึกจริงนะ


หลังจากมดกลุ่มแรกขึ้นไปไต่บนใบหน้าบริทนีย์แล้ว มดกลุ่มที่สองก็กำลังจะขึ้นตามไป แมนมองอย่างลังเล ถ้าเกิดโดนมดกัดขึ้นมาเวลานี้ละก็ เจ้าตัวคนกัดต้องส่งเสียงร้องลั่นป่าแน่ๆ


แมนจึงเอื้อมมือมาจะปัดมดที่หน้าให้ แต่ปัดไปปัดมาก็ไม่ยอมหมด มดวิ่งหนีไปรวมอยู่ที่แก้มข้างหนึ่ง แมนจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปบรรจงปัดที่แก้มข้างนั้นเบาๆ


มือบังเอิญไปลูบไล้แก้มเนียนข้างนั้น.....เพียงสัมผัสก็เกิดใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่
รู้สาเหตุ บ้าน่า แมนด่าตัวเอง แค่ปัดมดเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ว่า....แก้มนุ่มจัง....


หันไปมองคนที่กำลังหลับก็ไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัว แมนจึงเอื้อมมือไปปัดอีก ปัดไปเรื่อยๆ ปัดเบาๆ มดไม่ออกก็ปัดใหม่....


จนมดมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของคนที่นอนหลับ....แมนมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ เอื้อมมือไปปัดมดที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา


เพียงมือที่สัมผัสริมฝีปากนั้น ทำให้แมนสะดุ้ง หัวใจแทบจะเต้นออกมานอกอก พร้อมๆ กับคนที่หลับอยู่ก็สะดุ้งทันที


บริทนีย์ลืมตาตื่นขึ้นมาเพียงเพื่อจะพบว่า แมนกำลัง....กำลังเอามือมาสัมผัสริมฝีปากของตัวเอง.....


"นี่ นายแมนนนนนนน" บริทนีย์ร้องทันที รีบโวยวายกลบเกลื่อนหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม "นายทำอะไร ไอ้คนลามกกกก"


แมนชะงักมือ รีบหดมือลงทันที ในใจเสียดายหน่อยๆ รีบอ้อมแอ้มตอบไปว่า "ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลย เธอจะร้องทำไมเนี่ย"


"ไม่ได้ทำหรอ หนอย ยังมีหน้ามาบอกไม่ได้ทำอีก แล้วมือนายมาอยู่บนปากชั้นได้ไง" บริทนีย์ว่า แล้วหน้าแดงขึ้นมาหน่อยๆ ดีนะที่ไม่ค่อยมีแสงสว่างให้มองเห็นได้


"ก็มดมันไต่ขึ้นไปบนหน้าเธออ่ะ ชั้นก็ปัดออกให้ นี่ชั้นหวังดีไม่อยากให้มดมันกัดเธอนะ" แมนรีบพูด ก่อนจะว่า "ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ"


"ไหนล่ะ มด ไหน ไม่เห็นจะมีสักตัว อย่ามาอ้างดีกว่า" บริทนีย์ขัดทันที


"ป่านนี้มันคงตกใจเสียงเธอจนขาดใจตายไปหมดแล้วมั้ง เมื่อกี้มันขึ้นหน้าเธอเป็นฝูง ถ้าชั้นไม่ปัดออกให้ ป่านนี้หน้าเธอบวมปูดเป็นลูกมะนาวแน่" แมนว่ายืดยาว เห็นบริทนีย์ทำหน้าไม่เชื่อถือก็ขัดใจ


"นี่หมายความว่าไง นายจะบอกว่านายนั่งปัดมดออกจากหน้าชั้นมาตั้งนานแล้วหรอ"


"ไม่รู้ ไม่อยากพูดแล้ว" แมนทำเมินไป แกล้งเปรยเบาๆ "ตัวเป็นทองหรือไงไม่รู้ แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้ (ประโยคคุ้นนะ) อยากจะแตะแย่ละ"


บริทนีย์ฟังแล้วหันมาค้อนให้ ขยับจะต่อว่าอะไร ก็พอดีมดตัวหนึ่งที่ยังมีความสามารถหลงเหลืออยู่บนหน้าของบริทนีย์ ตรงเข้าจู่โจมที่แก้มทันควัน จนบริทนีย์ร้องออกมา


"โอ้ยยยย"


แมนหันมามองทันที "เป็นอะไร...." ถามด้วยความเป็นห่วง บริทนีย์ยกมือกุมแก้ม ร้องว่า "มดกัดอ่ะ..."


แมนเห็นแล้วไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี "เห็นไหมล่ะ บอกแล้วว่ามีจริงๆ ทีนี้เชื่อหรือยังล่ะ"


บริทนีย์ไม่ตอบแต่ทำหน้าม่อย กุมแก้มตัวเอง แมนเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแกะมือที่กุมแก้มของบริทนีย์ออก "ไหนดูสิ.."


บริทนีย์ยอมเอามือที่กุมออกโดยดี แมนลูบที่แก้มเบาๆ ก็เห็นเป็นตุ่มนูนขึ้นมา "เห็นไหม เป็นตุ่มเลย ไม่น่าร้องเลยนะเธอ"


บริทนีย์เงียบเสียงไปทันที ก่อนจะพูดอ่อยๆ "เจ็บอ่ะ...แล้วก็เมื่อยด้วย เราลงจากต้นไม้นี่ได้หรือยัง"


แมนมองคนพูดด้วยความสงสาร ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว แทนที่จะได้นอนหลับอย่างสบาย ดันต้องมาผจญภัยอยู่ในป่าอย่างนี้


"เดี๋ยวก็หายน่า มดกัดนิดเดียวไม่ตายหรอก เดี๋ยวไปหายาหม่องทาก็หาย ไป เราคงลงได้แล้วมั้ง ยายเป๋อไม่น่าจะมาแล้วล่ะ หรือถ้ามา ก็จะสวดมนต์ไล่" แมนว่าแล้วช่วยพยุงบริทนีย์ลงจากต้นมะม่วง ตัวเองลงตามไปทีหลัง


เมื่อลงมาถึงพื้นดิน ทั้งคู่ตัวเซเล็กน้อยด้วยว่าอยู่บนต้นมะม่วงมานาน เมื่อปรับการทรงตัวได้แล้ว แมนก็หันมาบอกคนข้างๆ

"ไป รีบเดินออกจากป่าช้ากันเถอะ" บริทนีย์พยักหน้า ทั้งสองจึงเริ่มต้นเดินเพื่อหาทางออกจากป่าช้าให้ได้
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptySat May 05, 2007 11:29 am

หมิงนั่งหลับอย่างอ่อนเพลียอยู่ใต้ต้นไทรหลังศาลเจ้าพ่อ มีบุญก่อนั่งมองอย่างระแวดระวังไปรอบๆ


มองไปมองมา ก็หันไปมองคนที่หลับอยู่ใกล้ๆ บุญก่อมองแล้วยิ้มนิดๆ ดวงตาที่มักจะอ่านไม่ออกเสมอของเขานั้น ตอนนี้มันฉายแววให้อ่านออกได้แล้ว


แต่มันก็มักจะฉายแววในยามที่ไม่มีใครเห็นอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ใครหลายคนจะค่อนว่าเขาเป็นที่เข้าใจยาก


ซึ่งเขาก็ไม่เคยแคร์ ก็เขาไม่ได้ต้องการให้คนเหล่านั้นมาเข้าใจเขานี่ คนพิเศษของเขานั้น ไม่ต้องเข้าใจเขาหรอก เพราะคนๆ นั้นน่ะ อาศัยอยู่ในใจเขามานานแล้ว


บุญก่อคิดแล้วหัวเราะหึหึ มองไปที่คนข้างๆ


ก็เห็นว่าหมิงนั้นค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา บุญก่อสะดุ้ง ดวงตาของเขากำลังฉายแววอยู่พอดี และนั่นทำให้คนที่กำลังลืมตาตื่นขึ้นนั้นต้องมองซ้ำอีกครั้งคล้ายไม่แน่ใจ


ในดวงตาของพี่ก่อเมื่อกี้นั้น มันมีความหมายอะไรบางอย่างซ่อนอยู่นะ มันไม่ใช่ดวงตาที่อ่านไม่ออกเหมือนเคย แต่เพียงพริบตาเดียว เขาก็รีบซ่อนแววตานั้นเสียโดยพลัน


"พี่ก่อ นี่หมิงหลับไปหรอ" หมิงถามเบาๆ


"อือ ไม่ได้หลับหรอก คงล้างจานอยู่มั้ง" บุญก่อว่าเสียงเรียบ หมิงชะงัก ก่อนจะทำท่าไม่ถือสา


"แล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้วคะ"


บุญก่อมองท้องฟ้า สังเกตแสงจันทร์แล้วหันมาบอก "คงเลยเที่ยงคืนมาแล้วล่ะ"


"เลยเที่ยงคืน" หมิงอุทานมาทันที "ตายแน่เลยพี่ก่อ"


"ทำไมต้องตาย กลัวรถฟักทองมารับไม่ทันหรอ" บุญก่อพูดหน้าตาเฉย ตามองไปที่รองเท้าแตะสีชมพูของหมิง "แต่ไม่ต้องรีบร้อนทิ้งรองเท้าข้างเดียวไว้ให้หรอกนะ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร"


หมิงอึ้งไป มองบุญก่อเห็นเขาทำหน้าเฉย ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ "พี่ก่อชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย"


"อ้าว ก็พูดจริงๆ ผู้หญิงทุกคนก็อยากเป็นซินเดอเรล่ากันทั้งนั้นไม่ใช่หรอ"


"งั้นเมื่อกี้ พี่ก่อก็เป็นเจ้าชายน่ะสิ" หมิงพูดขึ้นมาลอย แล้วแอบมองสีหน้าของบุญก่อ เห็นคนข้างๆ มีสีหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปรับลงให้กลายเป็นปกติ


"อ้าว ก็อยากเป็นเจ้าชายบ้างไม่ได้หรอ" พูดทีเล่นทีจริง แต่หน้าตาเฉย มองสบตาคนข้างๆ แต่หมิงหลบสายตา รีบเปลี่ยนเรื่องทันที


"หมิงบอกป๊าเอาไว้ว่าจะกลับไม่เกินเที่ยงคืน"


"ก็มันเหตุสุดวิสัยนี่นา ถ้าบอกเหตุผลกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว"บุญก่อว่าแล้วลุกขึ้นยืน "เราไปกันตอนนี้เลยก็ได้ ยิ่งช้าเดี๋ยวจะยิ่งดึก"


หมิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ขยับจะลุกแต่ก็ต้องนิ่วหน้า บุญก่อเห็นอาการนั้นแล้วคุกเข่าลงมาหาทันที


"เป็นอะไร ตะคริวยังไม่หายอีกหรอ"


"ตะคริวก่อนหน้านี้มันหายแล้วค่ะ แต่เมื่อกี้นั่งนานๆ ก็เลยเป็นตะคริวขึ้นมาอีก"


"งั้นนวดเท้าสักแป๊บหนึ่งค่อยไปก็ได้ แต่คราวนี้จะช่วยพยุงไปนะ แบกไปไม่ไหว หมดแรงแล้ว" บุญก่อพูดหน้าตาเฉย หมิงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเหมือนมุมปากเขาจะยิ้มนิด ก็ว่าเสียงอ่อย


"หมิงเกรงใจ ไม่ให้พี่ก่อแบกอีกหรอก"


"ถ้ามีแรงอยู่ก็แบกได้ เราก็อย่ากินให้มากนักสิ" บุญก่อว่าแล้วนวดเท้าเบาๆ สักพักอาการตะคริวก็หายดี เขาจึงช่วยพยุงหมิงเดินไปด้วยกัน


"เราต้องออกจากป่าช้านี้ไปให้ได้ซะก่อน" บุญก่อหันมาบอก "ส่วนเรื่องอาโก ถ้ามีปัญหาอะไร เดี๋ยวจะจัดการเอง"


หมิงมองหน้า บุญก่อสบตาแล้วบอกเบาๆ "ต่อจากนี้ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ....พี่..." เขาทอดเสียงคำหลังเต็มปากเต็มคำ

"พี่สัญญา ยังไงก็จะไม่ทิ้งกัน สัญญาต่อหน้าศาลเจ้าพ่อไทร..."
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptySat May 05, 2007 11:30 am

คืนนี้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า....


ภายในตุ่มแคบๆ นั้น ตรัยเหลือบตาไปมองคนในอ้อมอก แม้จะมืดก็รู้สึกได้ว่าเซเรน่ากำลังหลับ...คิดแล้วก็ยิ้มนิดๆ เผลอหลับในตุ่มเนี่ยนะ


แล้วไม่เมื่อยแย่หรอเนี่ย....กี่โมงกี่ยามแล้วก็ไม่รู้ คิดมาถึงตรงนี้ ตรัยก็เขย่าตัวเซเรน่าเบาๆ


"ตื่นได้แล้ว" บอกเบาๆ


เซเรน่างัวเงียอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ หาวออกมาแล้วซุกหัวเข้ามาที่อกตรัยมากขึ้น หลับตาลง รอยยิ้มยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก ท่าทางกำลังนอนสบาย


ตรัยมองแล้วส่ายหน้า ไม่รู้เป็นอะไร ใจเต้นวูบวาบ แปลกๆ ยิ่งคนในอ้อมอกซุกเข้ามามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีอาการแปลกๆ


จึงต้องห้ามอาการแปลกๆนั้น ด้วยการปลุกคนที่นอนหลับสบายอยู่ในอ้อมอกอีกครั้ง


"เซเรน่า ตื่นได้แล้ว" เขย่าตัวเบาๆ อีกครั้ง คราวนี้เซเรน่าลืมตาตื่นขึ้นมางงๆ


"นี่ ชั้นอยู่ที่ไหนเนี่ย"


ตรัยมองแล้วส่ายหน้า หลับไม่รู้เรื่องเลยหรอเนี่ย " อยู่ที่ไหน ก็อยู่ในตุ่มน่ะสิ"


เซเรน่าอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามามองตรัยเต็มตา "มิน่าล่ะ ทำไมตอนนอนรู้สึกเมื่อยๆ ที่แท้ยังนอนอยู่ในตุ่มนี่เอง"


"ไม่ต้องมาพูดดีเลย เห็นนอนหลับสนิท เมื่อยด้วยหรอ คนที่เมื่อยน่าจะเป็นผมมากกว่านะ" ตรัยว่าแล้วมองเซเรน่าที่อยู่ในอ้อมอก ก็พื้นที่มันแคบ ขยับไปไหนไม่ได้นี่นา


"ก็ที่มันแคบนี่นา นายจะให้ขยับไปไหนล่ะ" เซเรน่ารีบขัด


"ก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นบ่นว่าเมื่อย แต่ถ้าผมไม่ปลุกก็คงนอนสบายจนถึงเช้าแหละมั้ง"


"ใครว่าชั้นตื่นเพราะนายปลุก" เซเรน่าแย้ง


"อ้าว เธอจะบอกว่าเธอตื่นเองหรอ น่าเชื่อตายล่ะ"


"ชั้นไม่ได้ตื่นเพราะนายปลุก แต่ชั้นได้ยินเสียงหัวใจใครก็ไม่รู้ เต้นโครมครามๆ เต้นแรงจนชั้นต้องตื่นเลย" เซเรน่าว่าแล้วเหลือบตามองตรัย ชายหนุ่มชะงักไป นี่หัวใจเราเต้นแรงขนาดนั้นเลยหรอ


"คือ ผมกลัวว่ายายเป๋อจะตามมาน่ะ ก็เลยอาจจะใจเต้นแรงไปหน่อย" รีบแก้ตัวทันควัน ก่อนจะเปลี่ยนแรื่อง "แต่ยายเป๋อคงไม่ตามมาแล้วละมั้ง เราขึ้นจากตุ่มกันไหม"


"อืมๆ ก็ดี ชั้นเมื่อยแล้ว" พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ตรัยจึงค่อยๆ โผล่หัวขึ้นมาจากตุ่ม ปรับสายตามองบรรยากาศโดยรอบ เห็นว่าปลอดภัยแล้วก็ก้าวออกจากตุ่ม มีเซเรน่าก้าวตามมา


แต่พอเซเรน่าได้มองไปรอบๆ เท่นนั้นเอง ก็ร้องออกมาทันทีเสียงดัง


"ลูกโป่ง ลูกโป่งชั้น" ร้องแล้วดึงสายที่ผูกข้อมือ ไล่ไปจนถึงปลายสายก็เห็นว่าด้วนด้วยแรงระเบิด เศษลูกโป่งกระจายร่วงอยู่แถวนั้น


เห็นเศษลูกโป่งแล้วเซเรน่าก็น้ำตาซึม "ฮือๆ ลูกโป่งของชั้นมันแตกไปแล้วอ่ะ แตกไปแล้ว"


ตรัยหันมามองด้วยความตกใจ ลืมตัวดึงคนที่ยืนน้ำตาซึมนั้นมากอดปลอบเบาๆ


"โอ๋ๆ อย่าร้องนะ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้ นะ อย่าร้อง"


"ไม่เอาอันใหม่ จะเอาอันนี้อ่ะ จะเอาอันนี้" เซเรน่าขัดขึ้นทันที เช็ดน้ำตากับเสื้อของตรัยแล้วว่า "ก็เคยบอกแล้วไม่ใช่หรอ ของบางอย่างใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แต่เรากลับต้องการมัน เพราะมันมีความหมายกับเรา"


ตรัยฟังแล้วเงียบไป ลูบหลังเซเรน่าเบาๆ "ในชีวิตคนเรา ต้องเจอการสูญเสียมากกว่านี้อีกเยอะ เราเลือกไม่ได้หรอก ว่าเราจะเสียของที่สำคัญหรือไม่สำคัญ"


"ลูกโป่งนี้มันสำคัญกับชั้น" เซเรน่าหยุดร้องไห้แล้ว เงยหน้าขึ้นมาบอก


"สำคัญยังไง" ตรัยถาม เซเรน่าเงียบไปไม่ตอบ เพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าลูกโป่งใบนี้มันมีความหมายเพราะอะไร รู้แต่ว่า เห็นสายผูกข้อมือที่ไม่มีลูกโป่งแล้วก็อยากจะร้องไห้


"อ้าว ถามแล้วไม่ตอบ" ตรัยมองคนตรงหน้า ปล่อยมือจากอ้อมกอดแล้วว่า "เลิกขี้แยเป็นเด็กได้แล้ว ไป กลับบ้านไปนอน"


พูดแล้วมองไปรอบๆ "นี่มันเหมือนสวนสมุนไพร แสดงว่าเราวิ่งออกจากป่าช้ามาแล้ว งั้นก็กลับบ้านได้"


"กลับไม่ได้อ่ะ" เซเรน่าเสียงอ่อย ตรัยหันมามอง ทำหน้าสงสัย


"ทำไมล่ะ"


"ชั้นจำทางกลับบ้านไม่ได้ หมิงก็ไม่อยู่ ชั้นจะกลับบ้านยังไงอ่ะ" เซเรน่าหันมามองตรัย ตรัยมองแล้วถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptySat May 05, 2007 11:31 am

ทุยนั่งมองคนที่ขดตัวอยู่บนแคร่ด้วยความหนาวสั่นนั้น ในใจรู้สึกเป็นห่วงนิดๆ ก็นอนทั้งเปียกๆ อย่างนั้นจะไม่หนาวได้ยังไง


หนักเข้าทุยก็เดินมานั่งอยู่ริมแคร่ มองพัชราที่หน้าซีดแล้วกำลังจะเอื้อมมือไปจัดผ้าห่มให้กระชับเหมือนเดิม ก็ได้ยินเสียงคนนอนอยู่ร้องออกมาเบาๆ


"คุณแม่ๆ....." ทุยชะงัก นี่พัชราละเมอหรือไร


"ทำไมหนูทำอะไร คุณแม่ไม่เคยปลื้มหนูสักที....."พัชราพูดต่อ ประโยคท้ายๆ มีสะอื้นน้อยๆ "มัวแต่ไปปลื้มคนอื่น....เขาสำคัญกับคุณแม่มากหรอ..เขาสำคัญมากหรอ...."


ทุยฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ พัชราหมายถึงใครกันนะ


"คุณแม่เห็นเขาสำคัญกว่าหนูใช่ไหม....เขาน่ะเป็นคนไม่ดีนะคุณแม่....เขา......หน
ูอ่ะ คุณแม่รู้ไหม " พอถึงตรงนี้พัชราส่งเสียงเบาๆ ในลำคอฟังไม่ออก


ทุยเงี่ยหูฟังเต็มที่แต่ก็ยังไม่ได้ยินว่าช่วงท้ายๆนั้น พัชราพูดว่าอะไร


"หนูรักคุณแม่นะ หนูรักคุณแม่" พัชราเริ่มยกไม้ยกมือไขว่คว้าอากาศ ทุยเริ่มแน่ใจว่าพัชราคงจะเพ้อ...เพ้อเพราะพิษไข้


แล้วมือพัชราก็ไปสะเปะสะปะคว้ามือทุยไว้ จึงยกขึ้นมาแนบแก้มทันที ทุยสะดุ้ง ใจเต้นแรง แต่เมื่อสัมผัสมือพัชราก็เห็นว่าร้อนจัดทีเดียว


พัชราต้องเพ้อเพราะพิษไข้แน่ๆ แล้วเราจะทำยังไงดี จะปล่อยให้นอนเพ้ออย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ทุยหันรีหันขวาง แต่พัชรากลับกระชับมือทุยแน่นขึ้นอีก แล้วพูดเบาๆ


"หนูรักคุณแม่ แล้วคุณแม่ล่ะ รักหนูบ้างไหม"


ทุยก้มลงมองคนที่นอนเพ้ออยู่ทันที มือหนึ่งเอื้อมไปลูบผมเบาๆ ก้มลงไปบอกว่า "เอ่อ...รักสิ...รักสิครับ"


พัชราฟังแล้วยิ้ม "รักหรอคะ รักมากกว่าคนนั้นหรือเปล่า"


ทุยยิ้มตอบ ก้มลงไปตอบ "รักมากกว่า รักมากที่สุดเลย" พัชราได้ฟังแล้ว ดูเหมือนจะพอใจ ยิ้มแล้วเงียบไป ทุยเอื้อมมือไปอังหน้าผากก็เห็นว่าร้อนจี๋เลยทีเดียว


รีบลุกจากแคร่แล้วมองไปรอบๆ เห็นย่ามของสับปะเหร่อก็รีบเอาออกมาเปิดดู เห็นยาสมุนไพรฟ้าทลายโจรอยู่ห่อหนึ่ง มองหายาเม็ดอย่างอื่นก็ไม่มี


หันไปมองพัชราแล้วก็จำต้องใช้ยาฟ้าทลายโจรนี่แหละ ทุยตกลงกับตัวเอง แล้วรีบเอาสมุนไพรไปต้มทันที


สักพักก็ได้ยาสมุนไพรฟ้าทลายโจรมาถ้วยหนึ่ง รีบเอามาให้พัชราดื่ม


"คุณพัชรา มากินยาก่อนนะ กินประทังไปก่อนจะได้ค่อยยังชั่วนะ" ทุยบอกเบาๆ ตอนแรกพัชราเหมือนไม่รู้สึกตัว แต่พอลิ้นสัมผัสกับยารสขม ถึงกับสำลักออกมาทันที ตาสว่างขึ้นโดยพลัน


"โอ๊ยๆ ขม ชั้นไม่กิน" สติเริ่มกลับมาทีละนิด


"กินหน่อยเถอะคุณ มันเป็นยาก็ต้องขมอย่างนี้แหละ" ทุยพยายามกล่อม แต่พัชราส่ายหน้า


"ให้ชั้นกินยานี่ ชั้นตายดีกว่า" พัชราเริ่มเสียงดัง แสดงว่าสติเริ่มกลับมาแล้ว ทุยมองแล้วส่ายหน้า เมื่อกี้ยังน่ารักอยู่เลย


"ก็มันไม่มียาอื่นแล้ว มีแต่ยาอันนี้ ทำไมหรอครับ กินไม่ได้หรอยาสมุนไพรไทย กินแล้วมันจะเสาะท้องหรือไง"


"ก็มันขมขนาดนี้ใครจะกินเข้าไปลง ชั้นกินไม่ได้" พัชราไม่ยอม แต่ทุยก็ไม่ยอมเหมือนกัน คว้าถ้วยยาขึ้นมาถีอไว้ อีกมือหนึ่งจับตัวพัชราไว้


"แต่ผมจะต้องให้คุณกินให้ได้ จะกินเองดีๆ หรือต้องให้กรอกปาก เลือกเอาแล้วกัน" ทุยว่าสีหน้าจริงจัง พัชรามองแล้วเริ่มกลัวนิดๆ ท่าทางเขาจะเอาจริง แล้วตอนนี้เราก็ไม่มีแรงสู้ด้วย อ่อนเพลียไปหมด


คิดได้ดังนั้น พัชราก็คว้าถ้วยยามาด้วยอาการกระแทกกระทั้น หลับหูหลับตากลืนยาเข้าไป ขมแทบแย่ แต่ก็ต้องทน


ทุยมองอย่างพอใจ พยักหน้าให้ "พูดให้รู้เรื่องอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ดีหรอก"


พัชราหันมามองค้อน ทำท่าจะเถียงแต่ทุยรีบขัด "เอ้า ไม่ต้องเถียงแล้ว นอนลงไปเลย เดี๋ยวจะได้หาย" สั่งแล้วยืนมอง พัชราจึงจำต้องต้องล้มตัวลงนอนบนแคร่อีกครั้ง ห่มผ้าห่มให้กระชับตัวแล้วหลับตาลง


หลังจากพัชราหลับตาลงแล้ว สายตาแข็งกร้าวของทุยก็อ่อนโยนขึ้น เขาเดินไปนั่งริมแคร่ไม้ไผ่ แล้วมองคนที่นอนอยู่ นึกถึงคำถามเมื่อกี้ ที่บอกว่า รักหรือเปล่า....เขาไม่แน่ใจว่า ที่ตอบไปนั้น เป็นเป็นการตอบไปตามน้ำ หรือตอบมาจากใจเขากันแน่....
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptySat May 05, 2007 11:32 am

"หมายความว่าไง จำทางกลับบ้านไม่ได้เนี่ยนะ"


"ก็ใช่น่ะสิ ก็ชั้นเพิ่งมาถึงบ้านทุ่งไม่กี่วัน วัดนี่ก็เพิ่งมาเป็นครั้งแรก หมิงเป็นคนพามา แล้วชั้นจะไปรู้ทางกลับบ้านได้ยังไง" เซเรน่าตอบทันควัน


ตรัยฟังแล้วกลุ้ม มองไปทางลานหน้าศาลาวัดก็เห็นว่างเปล่า ท่าทางลิเกจะเลิกเล่นแล้ว ผู้คนก็กลับบ้านกันไปหมด ก็เวลามันล่วงเลยมาค่อนคืนแล้ว จะไปตามหาหมิงที่ไหนกัน


"แล้วเราจะไปตามหาคุณหมิงที่ไหน" ตรัยเปรยออกมา


"ตามที่ไหนหรอ ก็คงต้องไปตามที่เมืองจีนละมั้ง" เซเรน่าตอบหน้าตาเฉย ตรัยอึ้งไปอีกครั้ง หันมามองแล้วส่ายหน้า


"ยังจะมาเล่นลิ้นอยู่อีก กลับบ้านไม่ได้แล้วยังจะมาพูดเล่น" ตรัยดุ เซเรน่าหน้าม่อยลง แต่เพียงพริบเดียวก็เชิดหน้าขึ้นมาเถียง


"ก็ทำไมอ่ะ กลับบ้านไม่ได้ก็ไม่กลับ นายอยากกลับบ้านนายก็กลับไปเลย ทิ้งชั้นไว้ที่นี่ก็ได้"


"นี่พูดอะไรของเธอ พูดไม่เข้าเรื่องเลย" ตรัยยังไม่วายดุ


"ก็ใช่สิ ชั้นมันไม่เข้าเรื่อง พูดอะไรก็ไม่เข้าหู ไม่ต้องมาสนใจชั้นหรอก" ไม่รู้อะไรทำให้เซเรน่าโพล่งออกมาแบบนั้น แล้วดูนะ พูดออกมาแล้ว น้ำตาก็ดันมาซึมที่หัวตาอีก


"นายอยากกลับบ้านก็กลับไปเลย ทิ้งชั้นไว้ที่นี่แหละ ถ้าชั้นไม่มีที่นอน ชั้นกลับไปนอนในตุ่มก็ได้" พูดแล้วแอบปาดน้ำตาที่เตรียมจะหยดลงมาแล้วก็นึกโมโหตัวเอง ไม่รู้จะร้องไห้ทำไม


"ไหนว่านอนในตุ่มมันเมื่อยไง ทีนี้อยากกลับไปนอนใหม่หรือไง" ตรัยว่า


"ถึงมันจะเมื่อยแต่มันก็อบอุ่น..." เซเรน่าสวนทันที ก่อนจะรีบหยุดคำพูดเสียทันควัน พูดอะไรออกไปเนี่ย ก็ความอบอุ่นนั้นมันมาจากใครล่ะ


ตรัยฟังแล้วนิ่งไป ก่อนจะมองคนตรงหน้านิ่งๆ เห็นแอบปาดน้ำตาก็พูดเบาๆ แววตาเปลี่ยนไปไม่มีความดุเหมือนเมื่อกี้


"ทำไมถึงอบอุ่นล่ะ" ถามทั้งที่เหมือนจะรู้คำตอบ มองคนตรงหน้าก็เห็นเงียบไป ไม่ตอบ ก็พูดเหมือนปลอบ"แต่ยังไงก็อย่าไปนอนเลยในตุ่มนั่นน่ะ เชื่อผมนะ เช็ดน้ำตาซะ"


"ใครบอกว่าชั้นร้องไห้..." เซเรน่าขัดทันที ทั้งที่มือก็เช็ดน้ำตาป้อยๆ


"ไม่ร้องไห้แล้วทำไมน้ำตาไหล อย่าบอกนะว่าผงเข้าตา" ตรัยว่าแล้วยิ้มมุมปากนิดๆ เซเรน่ามองเมินไป


"ก็ผงเข้าตาอ่ะ จะทำไม" ยังอุตส่าห์จะเถียงออกมา ตรัยหัวเราะหึหึ


"ไม่ทำไมหรอก ผงเข้าตาก็ได้ แต่ตอนนี้ เราไปกันได้แล้ว" พูดแล้วหันมาชวน


"ไปไหนอ่ะ ก็บอกแล้วไงว่าจำทางไม่ได้ ถ้านายอยากไปก็ไปคนเดียวสิ"


"ใครว่าจะไปบ้านเธอ ผมจะให้ไปนอนบ้านผมต่างหาก บ้านพักอนามัยกับวัดอยู่ใกล้กัน เดินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว นอนสักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับ" ตรัยว่า เซเรน่ามองอย่างลังเล ตรัยจึงสำทับ


"ทำไมต้องลังเลด้วยล่ะ ไม่กล้าไปหรอ หรือว่ากลัวผม"


เท่านั้นแหละ เซเรน่ารีบสวนทันที "โอ๊ย ใครจะไปกลัวนาย ชั้นไม่เคยกลัวเลยจะบอกให้ ไปเลย จะไปไหนก็ไปได้เลย"


ตรัยแอบยิ้มก่อนจะว่า "งั้นก็ไปบ้านพักผมแล้วกัน...."


แล้วทั้งสองก็พากันออกเดินไปบ้านพักของตรัยที่สถานีอนามัยที่อยู่ไม่ไกลจากวัดนัก
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:26 pm

พระจันทร์เคลื่อนคล้อยลงต่ำ เวลาผ่านไปค่อนคืน...


พัชราค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ตอนแรกที่สายตากระทบแสงสว่างนั้น พัชราต้องหลับตาลงไปอีกครั้ง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาใหม่ เพียงเพื่อจะพบว่า ตัวเองนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ในกระท่อม


อาการหนาวเย็นอย่างเมื่อหัวค่ำค่อยคลายลงไป รู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นมาก เสื้อผ้าก็แห้งไปมากโข


หรือจะเป็นเพราะยาสมุนไพรของนายคนนั้น.....นายคนนั้น พัชราสะดุด ก่อนจะหันมามองข้างๆ


แล้วก็เห็นทุยนั่งอยู่กับพื้น หัวซบลงบนแคร่ใกล้ๆ ตัวพัชรานั่นเอง


แล้วทำไมเขาต้องมานอนทรมานอย่างนี้ด้วย หรือว่าเขาจะมาเฝ้าเรา ในใจแอบคิด แต่ก็ต้องรีบห้ามความคิดตัวเอง บ้าน่า เราไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาขนาดนั้นนี่ เฮ้อ คิดแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ


ขยับตัวจะลุกขึ้นนั่ง คนที่ซบหัวอยู่ก็ค่อยรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง ทุยผงกหัวขึ้นมาทันที


ตอนแรกงัวเงียเล้กน้อย แต่พอเห็นพัชราลุกขึ้นนั่งได้แล้ว เขาก็ถาม "คุณค่อยยังชั่วแล้วหรอ"


พัชรามองแล้วตอบเบาๆ "ก็...ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วล่ะ"


"เห็นไหมล่ะ ก็ผมบอกแล้วให้กินยา ถ้าผมไม่บังคับให้คุณกิน ป่านนี้ไม่ได้ลุกขึ้นนั่งง่ายๆ อย่างนี้หรอก"


"ชั้นรู้แล้วล่ะ ว่านายน่ะมีบุญคุณท่วมหัว" พัชราทำเสียง ฮึ ในลำคอ "เดี๋ยวกลับไป ชั้นจะไปบอกแม่ให้ ดีไหมล่ะ"


ทุยมองพัชรา แล้วบอกสั้นๆ "ดี ไปบอกแม่คุณด้วยแล้วกัน"


ถ้อยคำนั้นทำเอาพัชราหันมามองหน้าทุยเต็มตา "นี่นาย....นายจะมายุ่งอะไรกับแม่ชั้น" รีบพูดด้วยความร้อนรน


"ก็ทำไมล่ะ ก็คุณชอบยัดเยียดให้ผมนักไม่ใช่หรอ ผมปฏิเสธคุณก็ไม่เชื่อ คอยแต่จะกล่าวหาผมอยู่ตลอดเวลา งั้นตอนนี้ผมยอมรับเลยเป็นไง คุณให้ผมไปหาแม่คุณ ผมก็จะไปหา ดีไหม" ทุยพูดแล้วสบตาคนตรงหน้า


พัชราอึ้งไป มองหน้าตาที่จริงจังของเขาแล้วรู้สึกใจหายแปลกๆ แต่ก็แข็งใจร้องห้าม


"อย่ามายุ่งกับแม่ชั้นนะ"


"แล้วทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วย" ทุยสวนแล้วยิ้ม "นี่ผมทำตามที่คุณพูดเองนะ คุณจะเอายังไงแน่ ผมไม่ยุ่งคุณก็บอกให้ยุ่ง ทีผมจะยุ่งขึ้นมา คุณก็มาห้ามผมอีก คุณจะเอายังไง"


"ไม่ต้องมายุ่งกับแม่ชั้นเลย" พัชราทวนคำ ทุยหัวเราะหึหึ "รับฟัง แต่อาจจะไม่ทำตามก็ได้นะ"


พัชราจ้องทุยเขม็ง แต่ทุยทำท่าไม่สนใจ บอกคนที่นั่งบนแคร่ว่า "ผมจะกลับบ้านแล้ว ถ้าอยากจะกลับก็ตามมา หรือถ้าเจ้ายศเจ้าอย่างนัก ก็อยู่รอเจอสับปะเหร่อแล้วกัน"


พูดแล้วเอาผ้าขาวม้าไปแขวนไว้ ถอดเสื้อสับปะเหร่อที่ใส่อยู่แล้วหยิบเสื้อตัวเองที่ผึ่งจนแห้งดีแล้วมาใส่


พัชราแอบมองแต่ยังไม่ขยับตัว ทุยจึงหันมาว่า "เอ้า ตกลงจะอยู่รอสับปะเหร่อใช่ไหม ผมจะได้ไป" พูดแล้วทำท่าจะเดินออกไปจากกระท่อม พัชราเพิ่งรู้สึกตัวรีบลงจากแคร่ไม้ไผ่ เดินตามมาทันที


ทุยหันมามองยิ้มนิดๆ แต่ไม่พูดอะไร เดินไปเรื่อยๆ พัชราก็เดินตามโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน


จนมาถึงรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่โดดเดี่ยวตรงโบสถ์พระประธาน ทุยก็ขึ้นไปนั่งบนรถ หันมามองพัชราที่เดินตามมาหยุดมอง


"เอ้า ลดเกียรติลงมาซ้อนมอเตอร์ไซค์สักหน่อยคงไม่เป็นไรนะ" พูดจาค่อนแคะจนพัชราทนไม่ได้ ต้องรีบก้าวขึ้นมานั่งซ้อนท้าย ทุยแอบยิ้มนิดๆ ก่อนจะบิดรถด้วยความเร็วสูงออกไปทันที


จนรถมาหยุดอยู่หน้าบ้านคุณนายแจ่ม พัชราก็ลงจากรถ พูดโดยไม่มองหน้าว่า "ขอบใจที่มาส่ง และขอบใจสำหรับยาสมุนไพร"


พูดแล้วก็ทำท่าจะเดินเข้าบ้านโดยไม่อยู่รอคำตอบ แต่ทุยรีบพูดขึ้นมาก่อน


"เดี๋ยว คุณ.." พัราหันมามอง


"ที่ไม่ให้ยุ่งกับแม่เนี่ย...แล้วยุ่งกับลูกได้ไหม" ทุยเปรยขึ้นมาลอยๆ พัชราชะงัก ใบหน้ามีสีเข้มขึ้นทันที รีบสะบัดหน้าหนีแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:27 pm

แมนกับบริทนีย์ช่วยกันเดินคลำทางจนออกมาจากป่าช้าจนได้...


ระหว่างที่เดินกันมา ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกัน เพราะต่างตกอยู่ในความคิดของตัวเอง คิดอะไรไม่รู้วุ่นวายไปหมด


จนเดินออกมาจากป่าช้าเพิ่งรู้ตัว แมนเองรู้สึกตัวก่อน รีบร้องออกมาว่า


"นี่มันลานลั่นทมนี่ เราออกจากป่าช้ามาได้แล้ว" หันมาหาบริทนีย์ ยิ้มอย่างดีใจ


"จริงด้วย" บริทนีย์ยิ้มตอบ "งั้นเราก็รอดตายจากยายเป๋อแล้วสิ"


แมนพยักหน้าแล้วคว้ามือบริทนีย์มากุมไว้อย่างลืมตัว "เราทำสำเร็จแล้ว บริทนีย์" บริทนีย์ก็กุมมือตอบอย่างลืมตัวเช่นกัน


จนไออุ่นของมือทั้งสองมือส่งผ่านถึงกันเท่านั้นแหละ ทั้งสองถึงเพิ่งรู้ตัว ต่างรีบชักมือออกทันที แล้วเมินไปอีกทางอย่างเก้อๆ


"งั้นเราก็กลับบ้านกันได้แล้วสิ" แมนว่าแก้เก้อ


"อืม ก็กลับสิ จะอยู่ให้ยายเป๋อกลับมาหาอีกรอบหรือไง" บริทนีย์ก็ว่าแก้เก้อเช่นกัน


"งั้น เดี๋ยวชั้นจะไปส่งเธอ" แมนบอกก่อนจะเดินนำไปที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้โดดเดี่ยวที่ลานลั่นทม ขึ้นนั่งบนรถ บริทนีย์ก็ตามมาซ้อนท้ายโดยไม่พูดอะไร


จนเกือบจะถึงหน้าบ้านคุณนายแจ่ม อยู่ๆ แมนก็เบารถก่อนจะจอดรถอยู่ริมรั้วห่างจากประตูรั้วหน้าบ้านคุณนายประมาณ 100 เมตร


"นายจอดทำไมอ่ะ ยังไม่ถึงเลยนี่" บริทนีย์ถามด้วยความแปลกใจ แต่แมนไม่ตอบ ได้แต่พยักเพยิดให้ดูภาพตรงหน้า


บริทนีย์จึงหันไปดู ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆ "นั่น พัชรานี่ ทำไมเพิ่งกลับมาล่ะ"


"นั่นไม่สำคัญหรอก แต่ดูสิ ว่าใครมาส่ง" แมนพยายามเขม้นมอง แต่ก็มองไม่เห็น เนื่องว่าเห็นแต่เพียงแผ่นหลังของชายคนนั้น แถมโคมไฟตรงนั้นก็ไม่ค่อยสว่าง


"ผู้ชายแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าใคร" บริทนีย์ก็มองไม่ออกเช่นกันว่าเป็นใคร เห็นชายคนนั้นพูดอะไรกับพัชราไม่รู้ แต่พัชราเมินหน้าหนีแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วเข้าบ้านไป ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่ยอมกลับ กลับนั่งนิ่งมองคนที่เข้าบ้านไปแล้ว จนสักพักหนึ่งนั่นแหละ จึงสตาร์ทรถ แล้วบิดออกไปทันทีโดยไม่ได้ผ่านที่ๆ ทั้งสองซุ่มอยู่


"ผู้ชายคนนั้นเท่ห์น่าดูเลยอ่ะ แฟนพัชราหรอ" บริทนีย์หันมาถาม แมนนิ่งไปเหมือนคิดอะไรอยู่ บริทนีย์จึงเอาข้อศอกกระทุ้งสีข้างทีหนึ่ง แมนสะดุ้ง


"โอ้ยยยย" หันมามองคนที่นั่งซ้อนหลัง "เธอมาตีศอกใส่ชั้นทำไมอีกเนี่ย"


"ก็ชั้นถามแล้วทำไมไม่ตอบล่ะ ทำไม เฮิร์ตหรอ" ประโยคหลังบริทนีย์ถามเอง ตัวเองก็ใจหายเอง


"หมายความว่าไง"


"ก็หมายความว่านายแอบชอบพัชราอยู่ใช่ไหมล่ะ พอเห็นเขามีแฟนแล้ว ก็เลยเฮิร์ต" บริทนีย์พยายามพูดประโยคนี้ด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แต่เสียงกลับแห้งเหี่ยวชอบกล


"พูดอะไรของเธอ คนนั้นอาจจะไม่ใช่แฟนคุณพัชราก็ได้" แมนว่าหน้าตาเรียบเฉยจนบริทนีย์หาความผิดปกติไม่ได้


"นี่นายคงจะชอบพัชรามากสินะ ถึงไม่ยอมรับความจริงสักที" บริทนีย์มองแมนแล้วขัดใจ จะตอบรับก็ไม่ตอบรับ จะปฏิเสธก็ไม่ปฏิเสธ ทำให้ต้องค้างคาใจอยู่อย่างนี้


"อย่าพูดจาเพ้อเจ้อน่า" แมนได้แต่พูดออกมาเบาๆ


"ชั้นไม่ได้เพ้อเจ้อสักหน่อย นายนั่นแหละเพ้อเจ้อ ชอบเขาแล้วก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้สิ เอางี้ไหมล่ะ"บริทนีย์ แล้วทำหน้าตามีเลศนัย "ในฐานะที่ชั้นเป็นเพื่อนนาย ชั้นจะช่วยนายเอง เรื่องพัชรา เอามะ"


พูดประโยคนี้ไปแล้วบริทนีย์ก็แอบถอนหายใจ แมนหันมามอง ดวงตาเหมือนมีแววโกรธหรือไม่เข้าใจอะไรแฝงอยู่ ขยับจะพูดอะไรออกไปก็ชะงัก หันกลับมาพูดเรียบๆ "เรื่องของหัวใจ ไม่มีใครช่วยใครได้หรอก"


"ถ้าช่วยไม่ได้จริง แล้วเขาจะมีพ่อสื่อแม่สื่อกันไปทำไม" บริทนีย์ยังเถียง


"มีก็เท่านั้นแหละ สุดท้ายมันก็อยู่ที่ตัวเราเอง พูดไปเธอก็ไม่เข้าใจหรอก"


"แต่ในฐานะที่ชั้นเป็นเพื่อน...."บริทนีย์พูดยังไม่ทันจบ แมนก็ขัดขึ้นทันที "พอเลย ไม่ต้องยกคำว่าเพื่อนอีกได้ไหม"


"ทำไมอ่ะ ก็เราเป็น...." บริทนีย์ถามอย่างไม่เข้าใจ แต่แมนหันมามองหน้า ดวงตาวาววับ "บางครั้งชั้นก็ไม่อยากมีเพื่อนหรอก..."


บริทนีย์ฟังแล้วอึ้งไปทันที มองแมนด้วยสายตาที่เป็นคำถาม แต่แมนมองตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะบอกว่า


"รีบเข้าบ้านไปเถอะ ดึกมากแล้ว"


บริทนีย์จึงค่อยๆ เดินอย่างหงอยๆ เข้าบ้านไป ในใจนึกสงสัยว่าแมนจะโกรธ แต่โกรธเรื่องอะไรนี่สิ ที่เราไม่รู้
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:27 pm

บุญก่อค่อยๆ พยุงหมิงเดินหาทางออกจากป่าช้ามาอย่างไม่รีบร้อน เพราะหมิงเป็นตะคริว เดินเร็วไม่ได้


จนในที่สุดก็มาถึงที่ลานลั่นทม ปากทางป่าช้าจนได้ ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างดีใจ


บุญก่อรีบพาหมิงเดินออกมาที่รถสองแถวที่จอดอยู่คันหนึ่ง บนรถไม่มีใครอยู่เลย


"แล้วพี่อั้นไม่มาหรอพี่ก่อ" หมิงหันมาถาม


"วันนี้พี่อั้นเขาไม่ได้มา เขาไปเที่ยวบ้านแฟนเขาที่โคกสารินโน่น" บุญก่อหันมาตอบ พลางจัดแจงให้หมิงขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ ตัวเองประจำที่นั่งคนขับแล้วสตาร์ทรถขับเคลื่อนออกไปทันที


จนมาถึงตลาดบ้านทุ่ง บุญก่อเอารถมาจอดที่วินรถสองแถวตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวอาโกวิดของหมิง


เดินพยุงหมิงมาถึงหน้าร้าน หันมามองแล้วบอกเรียบๆ "พี่ไปก่อนนะ..."


หมิงพยักหน้า "ขอบคุณนะคะที่มาส่ง แล้วก็..." หมิงหยุดไป ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ "ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้หมิง"


"ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะเต็มใจทำ" บุญก่อว่าแล้วยักไหล่แบบติสแตก ยิ้มให้นิดๆ ก่อนจะเดินออกไป


หมิงมองแล้วอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะหันมาที่หน้าร้าน เอื้อมมือไปเคาะประตูพร้อมกับร้องเรียก


"ป๊าๆ เปิดประตูหน่อย หมิงมาแล้ว ป๊าๆ" หมิงร้องเรียก ได้ยินเสียงแว่วๆ จากในร้านว่าให้รอเดี๋ยว


สักพักประตูก็เปิดออก อาโกยืนอยู่ตรงประตู สีหน้าท่าทางเป็นห่วง


"อาหมิง ลื้อไปไหนมา ดึกดื่น ลิเกเลิกตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งมา"


"คือหมิง..." หมิงตะกุกตะกัก ก่อนจะหาคำตอบได้ "หมิงนั่งคุยกับเพื่อนต่อจนเพลินน่ะจ้ะ กว่าจะรู้ตัวก็ดึกมากแล้ว เพื่อนเลยมาส่งน่ะจ้ะป๊า ท่าทางป๊าง่วงนะ กลับไปนอนเถอะ"


อาโกหาวหวอด ก่อนจะพยักหน้า "อืม ป๊าง่วงก็จริง แต่ป๊าว่ามันแปลกๆ นะ แต่เอาเถอะ ไว้พรุ่งนี้ป๊าจะซักฟอกลื้อให้ละเอียดเลย" อาโกว่า "รีบเข้าบ้านมานอนได้แล้ว ป๊าจะได้นอนซะที" ว่าแล้วหันหลังกลับ "อ้อ ปิดประตูให้ด้วยนะ"


หมิงรับคำ มองป๊าก็เห็นเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว จึงเอื้อมมือมาปิดประตูร้าน แต่มีมือๆหนึ่งเอื้อมมาขวางไว้ก่อน


"อ้าว พี่ก่อ ทำไมยังไม่กลับอีก" หมิงทักอย่างแปลกใจ ในใจนั้นอดดีใจไม่ได้


"อยู่รอให้เข้าบ้านเรียบร้อยก่อน.....เป็นห่วง" บุญก่อพูดสั้นๆ ใบหน้าเรียบเฉย ถ้อยคำนั้นสั้น แต่มีความหมายยิ่งนัก


หมิงยิ้มเขินๆ มองคนตรงหน้า ก่อนจะปิดประตูร้าน ขวางกั้นคนภายในและภายนอกเอาไว้ ประตูมันขวางกั้นได้ก็จริงนะ แต่คงได้เพียงร่างกายเท่านั้นแหละ...
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:28 pm

และเมื่องานวัดเมื่อคืนนี้สิ้นสุดลง....ในเวลาเช้าของวันใหม่....ทุกชีวิตก็ได้เริ่มต้นอีกครั้ง


บริทนีย์มาเดินเล่นออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนเคย หลังจากเดินแวะไปเยี่ยมน้องโง้งที่คอกแล้ว ก็เดินไปส่งน้องโง้งและผองเพื่อนไปกินหญ้าอ่อนที่ทุ่งนา โดยมีเจ้าฟู่ และเจ้าฟี่ทำหน้าที่คุมไป


อากาศตอนเช้าแจ่มใส แต่ในใจบริทนีย์นั้นกลับไม่แจ่มใสเท่าที่ควร


มันรู้สึกเหมือนมีอะไรค้างคาใจ สลัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุด...คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้


พลันเสียงกริ่งที่ประตูรั้วก็ดังขึ้น บริทนีย์รีบหันไปมองทันที พอเห็นว่าใครมาก็รีบเดินไปหา


เปิดประตูรั้วออกมา ก็เห็นแมนยืนมองบ้านคุณนายแจ่มอยู่นิ่งๆ เหมือนเดิม บริทนีย์มองแล้วแอบถอนหายใจ ก่อนจะปรีบสีหน้าให้สดใสขึ้น


"อะแฮ่มมมมม" แกล้งกระแอมเสียงดังเหมือนเคย แมนหันมามอง บริทนีย์จึงยิ้มให้


"ว่าไง ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านก็ยังดีหรอ"


แมนส่ายหน้า "ยุ่งน่า..."


"ไม่ได้ยุ่งสักหน่อย แต่จะช่วยต่างหากล่ะ ไม่ดีหรอ" บริทนีย์พยายามยิ้ม แม้ว่าจะเป็นยิ้มที่ฝืนเต็มทน


"คงไม่ดีมั้ง...." แมนว่าเสียงเรียบ ก่อนจะยื่นจดหมายที่ถืออยู่มาส่งให้ "อ่ะ จดหมายจากอิตาลี ของเธอ"


บริทนีย์ดวงตากระจ่างขึ้นมาทันที รีบหยิบจดหมายนั้นมาดูจ่าหน้าซอง แล้วก็อดยิ้มด้วยความดีใจไม่ได้ แมนจับตามองภาพนั้นอย่างครุ่นคิด อดไม่ได้ก็ถามออกไป


"ว่าไง ท่าทางดีใจมากเลยนะ"


"แน่นอน..."บริทนีย์หันมายิ้ม "จดหมายของคนที่มีความหมาย มันก็ต้องสำคัญเป็นธรรมดา ชั้นอุตส่าห์รอจดหมายเขาตั้งหลายวัน"


"งั้นหรอ..."แมนมองท่าทางของบริทนีย์แล้ว อดหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วนไม่ได้


"ท่าทางจะคิดถึงมากล่ะสิ"


"ก็ใช่ ชั้นก็คิดถึงเขาตลอดแหละ" บริทนีย์ตอบรับ หน้าตารื่นเริง


"คิดถึงเขามากแล้วจากเขามาทำไมล่ะ" น้ำเสียงหมั่นไส้ขึ้นเรื่อยๆ จนบริทนีย์จับน้ำเสียงนั้นได้


"แล้วเกี่ยวอะไรกับนายด้วยล่ะ" ทำหน้าตากวนตอบ


"อ้อ ถามแค่นี้ไม่ได้หรอ" แมนเริ่มฉุนนิดๆ


"ไม่ได้สิ ทีชั้นถามนายไม่รู้กี่ร้อยรอบ ไม่เห็นนายจะตอบสักที แล้วทำไมชั้นต้องตอบนายด้วยล่ะ" บริทนีย์หันมาใส่เป็นชุด แมนฟังแล้วขยับปากเตรียมจะโต้ ก็พอดีเสียงแตรรถดังขึ้นมาซะก่อน


ทั้งสองหันไปมอง ก็เห็นคุณนายแจ่มนั่งอยู่บนรถยุโรปคันใหญ่ที่นายปุ่นเป็นคนขับ เคลื่อนตัวช้าๆ มาจอด


แมนรีบทำความเคารพคุณนายทันที คุณนายรับไหว้ แต่สีหน้าไม่ดีนัก รีบหันมาบอกบริทนีย์


"บริทนีย์ เมื่อคืนหนูกลับพร้อมเพชรชี่ใช่ไหม พอดีเมื่อคืนชั้นหลับไปก่อน"


บริทนีย์หันไปมองแมนทันที ก่อนจะหันมาตอบ "เอ่อ ใช่ค่ะ เมื่อคืนบริทนีย์กลับกับพัชราค่ะ"


"แล้วรู้ไหมว่าเพชรชี่เขาไปทำอะไรมา นี่ตัวร้อนนอนซมอยู่บนห้องแน่ะ" คุณนายแจ่มว่าสีหน้าไม่ค่อยดี บริทนีย์หันไปมองแมนอีกครั้งอย่างตกใจ


"คุณพัชราไม่สบายหรอครับ" แมนโพล่งขึ้นมาทันทีอย่างลืมตัว บริทนีย์เหล่มอง


"ใช่จ้ะ นี่ชั้นก็กำลังจะไปรับหมอน้ำมนต์มาดูอาการหน่อย แต่ว่าวันนี้มีนัดทำธุรกรรมเรื่องโฉนดพันแปดร้อยล้านน่ะสิ ไม่รู้จะทำยังไงดี"


บริทนีย์นิ่งคิดอยู่ครู่ก่อนจะรีบพูดว่า "งั้นเอางี้ไหมคะ เดี๋ยวบริทนีย์กับแมน..." แอบกระทุ้งศอกใส่คนข้างๆ "จะไปตามหมอมาให้ ใช่ไหมแมน"


หันไปมองแมน ก็เห็นกำลังมองคุณนายอยู่ จึงกระทุ้งศอกอีกครั้ง แมนสะดุ้งรีบตอบรับ "ครับ เดี๋ยวผมไปตามหมอให้นะครับ ช้ากว่านี้ เดี๋ยวคุณพัชราจะเป็นอะไรไป"


บริทนีย์แอบเหล่มอง แหม ทีอย่างนี้ละพูดคล่องเชียวนะ


"เอาอย่างนั้นหรอจ๊ะ" คุณนายถามอีกครั้ง บริทนีย์กับแมนรีบพยักหน้ารับ "แจมมี่ไปทำธุระเถอะค่ะ เดี๋ยวบริทนีย์ กับ.....แมน" คำสุดท้ายลากเสียงหันไปมองแมน


"จะดูแลพัชราเอง..."


"งั้นก็ต้องขอบใจมากเลยนะ" คุณนายสีหน้าดีขึ้น หันไปยิ้มกับบริทนีย์และเผื่อแผ่รอยยิ้มไปให้แมนด้วย แมนรีบยิ้มตอบอย่างสุภาพ


"ไม่เป็นไรมิได้ครับ ผมเต็มใจช่วย"


คุณนายยิ้มให้แมนอย่างใจดี ก่อนจะสั่งให้นายปุ่นขับรถออกไป


บริทนีย์หันมามองแมนที่มองตามรถคุณนายไปแล้วก็รีบพูดอย่างหมั่นไส้ "สมใจแล้วใช่ไหมล่ะ ที่ชั้นจัดการให้นายทำคะแนนกับคุณนายได้ เข้าทางแม่ เดี๋ยวก็ถึงลูกเองแหละ"


แมนหันมามอง ไม่พูดอะไร แต่รีบเดินไปขึ้นรถ ก่อนจะหันมาเรียก "ไม่ต้องพูดมากเลย รีบมาขึ้นรถ จะได้ไปตามหมอมารักษาคุณพัชรา"


บริทนีย์ฟังแล้วแอบค้อนให้ ในใจรู้สึกแห้งๆ ก่อนจะพยายามฮึดอีกครั้ง แล้วเดินไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของแมน ขับออกไปสถานีอนามัยทันที
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:28 pm

เช้าวันนี้ที่บ้านพักของตรัยข้างสถานีอนามัยนั้น วันนี้แปลกไปกว่าเดิม


ตรัยนอนอยู่นอกห้องนอนของตัวเอง โดยยึดเอาพื้นที่หน้าประตูห้องนอนนั้นเป็นที่นอน มีหมอนกับผ้าห่มกองอยู่ข้างๆ


อดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ เมื่อเขาพาเซเรน่าขึ้นมาที่ห้องพัก เซเรน่าก็เกิดอาการหวาดระแวงทันที เมื่อเห็นว่ามีห้องนอนอยู่เพียงห้องเดียว


"บ้านนายมีห้องนอนห้องเดียวหรอ"


"บ้านพักอนามัยจะมีห้องนอนสักกี่ห้องกันล่ะ ผมก็อยู่คนเดียวด้วย" ตรัยตอบ เซเรน่าหันมามองหน้าอย่างไม่ค่อยไว้ใจ เดินไปเปิดประตูห้องนอนแต่ยังไม่ยอมก้าวเท้าเข้าไป


ตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านพักของตรัย เซเรน่าก็สังเกตเห็นว่า ข้าวของทุกอย่างจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แถมยังสะอาดเอี่ยมอีกด้วย ยิ่งมองเข้าไปห้องนอนเขา ก็ยิ่งเห็นว่า เขาพิถีพิถันกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเพียงใด


"ไปๆ เข้าไปนอนได้แล้ว ดึกมากแล้ว" ตรัยว่าพลางชวนเซเรน่าเดินเข้าห้อง แต่เซเรน่าเกาะขอบประตูแน่น แถมกั้นตรัยไว้


"นี่นายจะเข้ามาทำไมอ่ะ"


"อ้าว ก็ห้องนอนผมอ่ะ ทำไมผมจะเข้าไม่ได้" ตรัยตอบหน้าตาเฉย แต่เซเรน่ามองอย่างระแวง "ถ้านายจะนอนห้องนี้แล้วชั้นจะนอนห้องไหนล่ะ"


"ก็นอนห้องนี้แหละ นอนห้องเดียวกัน" ตรัยว่าทำหน้าตาเรียบๆ เฉยๆ แต่ในใจแอบยิ้ม


"บ้าหรอ จะมานอนห้องเดียวกันได้ไง" เซเรน่าขัดทันที รีบเอามือกั้นตรัยออกห่างจากประตูห้องนอน "ชั้นเป็นผู้หญิง นายก็ต้องยกห้องนี้ให้ชั้นสิ"


"แล้วผมจะนอนไหนล่ะ" ตรัยถาม แกล้งทำหน้าจริงจัง


"ก็เรื่องของนายสิ จะนอนไหนก็นอน แต่อย่ามานอนห้องเดียวกับชั้น" เซเรน่าพูดเร็วปรื๋อ แล้วทำท่าจะปิดประตู แต่ตรัยรีบเอามือกั้นไว้


"เดี๋ยวก่อน แล้วคุณมีสิทธิอะไรมาห้ามไม่ให้ผมนอนในห้องนอนของผมล่ะ" พูดแล้วแแกล้งออกแรงดันกระตูให้เปิดออก เซเรน่าสู้แรงไม่ไหว ก็รีบร้องโวยวาย


"นี่นายจะบ้าหรือไง บอกว่าอย่าเข้ามา ถ้านายจะเข้ามานอน ชั้นจะไปนอนข้างนอกจริงๆ ด้วย" เซเรน่าว่าทำหน้ามุ่ย ตรัยเห็นแล้วกลั้นหัวเราะไม่ไหว ต้องหัวเราะออกมา


"นายหัวเราะอะไร ดีใจใช่ไหมที่แย่งที่นอนชั้นได้" เซเรน่ากล่าวหา ทำเอาตรัยต้องนิ่งคิด เอ ที่นอนของใครกันแน่หว่า


"ใครว่าผมจะมาแย่งที่นอนคุณ ผมไม่ได้จะเข้ามานอนสักหน่อย" ตรัยว่า


"อ้าว แล้วนายจะเข้ามาทำไม" เซเรน่าถามอย่างงงๆ


"ผมจะมาเอาเสื้อผ้าเปลี่ยนอาบน้ำต่างหาก เอ้อ คิดมากไปได้" ตรัยว่า ทำเอาเซเรน่ายืนอึ้งไป ตรัยหัวเราะหึหึ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหยิบเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวที่พับไว้เรียบร้อยออกมา หันมาบอกคนที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตูว่า


"ผมจะไปอาบน้ำล่ะ ถ้าคุณจะอาบก็เอาเสื้อผ้าผมไปใส่ได้นะ ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ส่วนผมจะใช้ห้องน้ำข้างนอก" พูดแล้วก็เดินออกไปทันที เซเรน่ามองตาม บ้า แล้วก็ไม่บอกแต่แรก ปล่อยให้เราห้ามตั้งนาน


ตรัยอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เดินมาถึงหน้าประตูห้องนอน เซเรน่าก็เปิดประตูออกมาพอดี เห็นหน้าคนเปิดประตูแล้ว ตรัยต้องแอบยิ้ม


เซเรน่ากำลังใส่ชุดนอนของเขา ซึ่งตัวคงใหญ่ไปหน่อย ใส่แล้วดูหลวมโคร่งเคร่ง หน้าตาสะอาดสะอ้าน ประแป้งมาขาวเต็มหน้าทีเดียว ในมือถือหมอนกับผ้าห่ม พอเห็นตรัยก็รีบพูด


"เอ้า เอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ นายนอนข้างนอกใช่ไหมล่ะ"


ตรัยรับไปแล้วยิ้มหน่อยๆ "เจ้าของบ้านคนใหม่เขาให้นอนไหน ก็นอนนั่นแหละ" ว่าแล้วจัดการวางหมอนกับผ้าห่มไว้ที่หน้าห้องนอน


"นี่นายจะนอนตรงนี้หรอ"


"อ้าว ทำไมล่ะ มีปัญหาอะไรอีกหรอ" ตรัยหันมามอง เซเรน่าเห็นสายตานั้นแล้วรู้ดีว่า ไม่ควรเรื่องมากอีก


"เปล่า อยากนอนตรงไหนก็นอนไป อย่ามานอนในห้องแล้วกัน" พูดเสร็จก็หาวออกมา "ชั้นง่วงแล้ว ไปนอนก่อนนะ" พูดแล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่เหมือนนึกอะไรได้ก็หันมาบอก


"เสื้อผ้ามันเปื้อนผุ่นดินที่ป่าช้าเต็มเลย ชั้นกลัวผีมาหาเลยอาบน้ำ ขอยืมเสื้อนายใส่หน่อยนะ" พูดโดยไม่รอคำตอบ รีบเดินกลับไปห้องนอนของตัวเองทันที


ตรัยนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วยิ้ม แต่เขายิ้มได้ครู่เดียวก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินเสียงร้องดังลั่นมาจากในห้องนอน


"ว้ายยยยยยย กรี๊ดดดดดดด จิ้งจก ตุ๊กแกกกกกกก" เสียงเซเรน่าดังออกมาจนทำให้ตรัยต้องรีบผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ


แต่ตรัยยังไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน ร่างของเซเรน่าก็ก้าวสวนออกมาจากห้องทันที ด้วยอารามรีบร้อนตกใจ เท้าจึงไปขัดขาตรัยเข้า แล้วสะดุดกองผ้าห่มที่ขยุกขยุยอยู่รอบๆ ตัวตรัย...


"เฮ้ยยยยยย" เซเรน่ากับตรัยร้องออกมาประสานเสียงกัน


ผลก็คือ เซเรน่าเสียหลักหกล้ม หัวคะมำ ตรัยเห็นดังนั้นก็รีบรับตัวเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน....เซเรน่าหกล้มลงมาบนกองผ้าห่ม....และซบลงมาบนอกตรัย.....


ภายในเสี้ยววินาทีที่ทั้งสองชุลมุนชุลเกอยู่ในกองผ้าห่มนั้น ภายนอกบ้านพัก บริทนีย์กับแมนกำลังเดินเข้ามาที่หน้าประตูพอดี ยังไม่ทันจะเคาะประตู แต่สายตาเหลือบไปมองหน้าต่างที่เปิดไว้ และเห็นตรัยกับเซเรน่าบนกองผ้าห่มซะก่อน....


บริทนีย์ชะงักอึ้งกับภาพตรงหน้า แล้วรีบหันไปสบตากับแมนทันที....
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:28 pm

ทุยขับรถมอเตอร์ไซค์มาตามถนน อากาศยามเช้าสดใส และลมเย็นชายทุ่งก็พัดระเรื่อยๆ สดชื่นยิ่งนัก


ขับไปเรื่อยๆ จนผ่านฝูงควายของบ้านคุณนายแจ่ม มีเจ้าฟู่กับเจ้าฟี่กำลังคุมฝูงควายกินหญ้าอยู่ ทุยจึงจอดรถทันที


เดินเข้าไปหาน้องโง้งที่กำลังกินหญ้าแล้วลูบหัวมันเบาๆ


"เป็นไงบ้างน้องโง้ง กินเยอะๆ นะ จะได้แข็งแรง"


เจ้าโง้งเงยหน้าขึ้น เอาหัวไถหน้าอกทุยเหมือนจะอ้อน ทุยยิ้มให้มันด้วยความรักและผูกพันธ์ หันไปถามเจ้าฟู่


"น้องโง้งมันกินหญ้าเยอะหรือเปล่า"


"โอ้ย เจ้าโงังน่ะ มันกินเก่งพี่ทุย กินเก่งกว่าตัวอื่นเลย" เจ้าฟู่ตอบ


"กินเก่งหรอ" ทุยมองเจ้าโง้ง "แล้วทำไมน้องโง้งดูไม่ค่อยร่าเริงเลยล่ะ นี่เจ้าของเขาดูแลเอาใจใส่บ้างหรือเปล่าเนี่ย" ทุยถามแล้วขมวดคิ้ว


"โอ้ย เขาจะไปมีเวลาดูอะไร ยิ่งคุณพัชรามาป่วยด้วยแล้ว คุณนายเขายิ่งวิ่งวุ่นใหญ่เลย" เจ้าฟี่ตอบ ทุยชะงักทันที ก่อนจะรีบถาม


"ว่าไงนะ คุณพัชราป่วยหรอ"


"ใช่ พี่ทุย" เจ้าฟู่ตอบ "ก็เมื่อคืนคุณพัชรากลับบ้านมาตั้งดึก เนอะ เจ้าฟี่" หันไปพยักหน้ากับคู่หู


"พอตอนเช้าก็ตัวร้อน ไข้ขึ้นเลย คุณนายเองก็ต้องไปธุระ ยุ่งวุ่นวายไปหมดเลย"


ทุยได้ฟังดังนั้น รู้สึกใจร้อนรนขึ้นมาทันที ก็อยู่ในชุดเปียกทั้งคืนแบบนั้น ยาก็ช่วยประทังไปได้แค่ช่วงเดียวเท่านั้นแหละ นี่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อเลยหรอเนี่ย คิดแล้วหันรีหันขวาง ก่อนจะคิดอะไรได้


"เออ ที่บ้านคุณนายประตูหลังเปิดหรือเปล่า" ทุยถามเจ้าฟู่


"เปิดฮะ ฟู่เปิดทิ้งไว้เองแหละ เผื่อจะต้อนควายกลับ แต่วันนี้สงสัยจะนาน หญ้าแถวนี้ไม่ค่อยอร่อย ต้องไปไกลอีกหน่อย" เจ้าฟู่ว่าราวกับผู้เชี่ยวชาญ (เอ็งไปชิมเมื่อไหร่ ถึงว่าไม่อร่อยนะ ฮึ -*-)


"งั้นเดี๋ยวพี่ไปปิดให้ไหม" ทุยอาสา เจ้าฟี่พยักหน้าหงึกหงัก "เออ ดีเหมือนกันพี่ ผ่านไปทางนั้นวานปิดให้หน่อยนะ"


ทุยพยักหน้า รีบเดินไปจูงมอเตอร์ไซค์มาจอดไว้ใต้ต้นมะขวิด แล้วค่อยๆ เดินเลียบไปทางหลังบ้านคุณนายแจ่ม


นั่นไง ที่ประตูรั้วหลังบ้าน เปิดออกจริงๆ เห็นดังนั้น ทุยก็รีบเดินเข้าไปทันที


ไม่รู้ตัวเองเลยว่าเดินเข้ามาได้ยังไง ในใจนั้นร้อนรน เป็นห่วงใครบางคนเหลือเกิน คิดแล้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองระเบียงบ้าน เขารู้ดี ว่าระเบียงห้องนี้เป็นห้องของพัชรา


ทุยเหลียวซ้ายแลขวา เห็นปลอดคนก็จัดการปืนขึ้นไปที่ระเบียงห้องของพัชราทันที ในใจนั้นร้อนรนไปก่อนหน้าแล้ว


เมื่อขึ้นไปถึง ก็ค่อยก้าวเดินเข้าไปในห้อง เห็นพัชรานอนซมอยู่บนเตียง ก็เข้าไปมองใกล้ๆ


ใบหน้าซีดเซียวนั้นหลับตาสนิท แต่ดูเหมือนว่าจะหลับไม่สบาย มองไปที่โต๊ะหัวเตียงก็เห็นมีน้ำกับแก้วยาอันเล็กวางอยู่ สงสัยกินยาประทังไปบ้างแล้ว


แต่ทำไมถึงยังดูไม่สบายเลยนะ อดใจไม่ไหวทุยก็เอื้อมมือไปอังหน้าผากของพัชราเบาๆ แล้วก็ต้องสะดุ้ง ตัวเริ่มร้อนขึ้นมาอีกแล้ว


จับคอแขนของพัชราก็ยังร้อนอยู่ ทุยเริ่มหันรีหันขวาง อยู่ไม่สุข เราจะทำยังไงดี


ท่าทางพัชราจะร้อน เพราะเหงื่อซึมออกมาที่หน้าทั้งที่ห้องก็เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ แล้วทำไมไม่มีคนรับใช้มาดูแลพัชราเลย ไปไหนกันหมดนะ ทุยลุกขึ้นไปดูที่ประตูห้อง ก็มองไม่เห็นใคร


หันไปเห็นอ่างน้ำใบเล็กกับผ้าสะอาดวางอยู่ เช็ดตัวสักหน่อยน่าจะดีขึ้น คิดได้ดังนั้นก็คว้าอ่างน้ำเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาพร้อมน้ำสะอาด


เดินมานั่งข้างเตียง คว้าผ้าขึ้นมาชุบน้ำ แล้วเริ่มลงมือเช็ดตัวอย่างทนุถนอม....


ท่าทางคนบนเตียงจะสบายขึ้น เห็นขยับตัวแล้วยิ้มนิดๆ ทุยมองแล้วพลอยยิ้มไปด้วย คว้ามือมาเช็ดแล้วจับมือนั้นไว้


แต่แล้ว อยู่ๆ พัชราก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา...และเห็นว่าใครกำลังจับมืออยู่ ก็เบิกตากว้าง


"นี่...นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" พัชราเอ่ยเสียงแห้ง ทุยเองก็ตกใจที่จู่ๆ พัชราก็ลืมตาขึ้นมา แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ เพียงแต่วางผ้าลงในอ่างแล้วหันมาตอบเรียบๆ


"มาได้ยังไงหรอ ก็ปืนระเบียงขึ้นมาน่ะสิ" ทุยตอบหน้าตาเฉย
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:29 pm

บริทนีย์แอบมองคนสองคนทางหน้าต่างอีกครั้ง แล้วหันไปมองแมนอย่างยังแแปลกใจไม่หาย


"แมน...นั่นเซร่ากับหมอต่าย" กระซิบเบาๆ


"หมอต่ายหรอ" แมนหันมาถาม รู้สึกงุนงงกับภาพตรงหน้าเช่นกัน


"คนนั้นน่ะ หมอต่าย เขาเป็นหมอคนใหม่ของอนามัย" บริทนีย์ตอบ "แต่ทำไม.....ทำไมเซร่าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วดูใส่ชุดนอนออกมาจากห้องหมอต่าย...เอ่อ...."


" เอ่อ เขาสองคนอาจจะ..."แมนพูดตะกุกตะกัก แล้วก็เงียบไป "แล้วเราจะทำยังไงกัน"


บริทนีย์เงียบไปอย่างใช้ความคิด


เมื่อเหคุการณ์ชุลมุนบนกองผ้าห่มสงบลง เซเรน่าก็เหลือบตาไปมองคนที่นอนอยู่ข้างล่าง ก็เห็นเขามองสบตามาในระยะใกล้


สายตาของเขาเริ่มจากตกใจ และค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นกระจ่างขึ้น กระจ่างขึ้นเรื่อยๆ จนคนที่มองสบนั้นเห็นรอยวิบวับอยู่ในดวงตาคู่นั้น และนั่นทำให้เซเรน่าไม่อาจทนมองอยู่ได้ จึงหลบสายตาเสียทันที


ความใกล้ชิดนั้นทำให้เซเรน่าได้ยินเสียงหัวใจของตรัยเต้นแรง เต้นแรงกว่าเมื่อตอนที่นั่งอยู่ในตุ่มเสียอีก อย่าว่าแต่ตรัยเลย เซเรน่าเองก็หัวใจเต้นแรงไม่แพ้กัน


และไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน ทั้งสองคนต่างนิ่งเฉย ทำอะไรไม่ถูก ไม่ขยับตัว ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น


เซเรน่าได้แต่บอกตรัยเบาๆ ว่า "ชั้นเจอจิ้งจกกับตุ๊กแกในห้องน้ำของนาย"


"อืมๆ มันอยู่ในห้องผมนานแล้ว ไล่มันก็ไม่ไป เลยให้มันอยู่ด้วย สงสารมัน" ตรัยตอบเบาๆ เช่นกัน "ผมลืมเตือนคุณ มันทำอะไรคุณบ้างหรือเปล่า"


เซเรน่าส่ายหน้า "ไม่ได้ทำอะไร เพราะชั้นวิ่งหนีมาซะก่อน"


"ป่านนี้มันคงตกใจเสียงคุณจนขวัญเสียแย่แล้ว ขนาดผมยังพลอยตกใจไปด้วยเลย" ตรัยว่าแล้วยิ้ม มองใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆ เต็มตายิ่งขึ้น "แล้วคุณก็ซุ่มซ่ามจัง ผมนอนอยู่ทั้งคนยังล้มลงมาได้"


"ก็เสื้อผ้านายมันหลวมโคร่งเคร่งอย่างนี้ ชั้นก็วิ่งไม่ถนัด ใครใช้ให้นายมานอนขวางประตูไว้ล่ะ" เซเรน่าตอบเมินๆ


"ก็กลัวจะไม่ปลอดภัย เลยนอนเฝ้าประตูไว้ให้ ยังไม่ดีอีก" ตรัยว่าแล้วหัวเราะ หึหึ ดวงตาระยิบระยับมากขึ้น เซเรน่ามองแล้วต้องเสหลบสายตานั้น


และก่อนที่ทั้งสองคนจะเก้อเขินมากไปกว่านี้ ก็ได้ยินเสียงจากนอกบ้านดังขึ้น


"เฮ้ย แมน ทำไมหมอน้ำมนต์ไม่อยู่ที่อนามัยอ่ะ ที่บ้านพักก็ไม่มี" เสียงพูดคล้ายตะโกน ทั้งสองต่างหยุดเงี่ยหูฟัง


"นั่นสิ นี่หมอคนอื่นอยู่ไหมเนี่ย" มีเสียงตะโกนตอบ


"เออ ลองเข้าไปถามบ้านพักหลังนี้ดีกว่า เผื่อจะมีหมออยู่" เสียงบริทนีย์ตะโกนดังขึ้น ตรัยกับเซเรน่ามองตากันด้วยความตกใจ เมื่อรู้ว่าจะมีคนมาที่บ้าน ตรัยรีบบอก


"คุณเข้าไปแอบในห้องผมก่อน เดี๋ยวใครเห็นเข้ามันจะไม่ดี"


เซเรน่าพยักหน้า แล้วลุกจากกองผ้าห่ม รีบเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ตรัยก็รีบเก็บหมอนและผ้าห่มตามเข้าไปในห้องด้วย


ภายนอกบ้าน แมนกับบริทนีย์จับตาการกระทำของทั้งสองคนอยู่ หันมามองกัน


"เซร่ากับหมอต่ายเข้าห้องนอนไปด้วยกันอ่ะ แมน" บริทนีย์ว่าอย่าลืมตัว "ชั้นจะต้องถามเซร่าให้ได้ ว่าทำไมถึงทำแบบนี้"


"อย่าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขาเลยน่า" แมนบอก "เรื่องของคนสองคน บางทีคนอื่นก็ไม่เข้าใจหรอก"


"ชั้นไม่เข้าใจแน่อยู่แล้ว ก็คู่นี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เจอทีไรทะเลาะกันแทบตาย แล้วจะมาอยู่ด้วยกันอย่างนี้ได้ไง"


"คนทะเลาะกัน ไม่ได้หมายความว่าเกลียดกันนี่" แมนว่าขรึมๆ ก่อนจะพูดต่อ "แต่ตอนนี้เราต้องตามหมอสักคนไปดูคุณพัชรา เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเถอะ"


บริทนีย์ฟังแล้วแอบหมั่นไส้ "ชั้นรู้แล้วล่ะน่า ว่าพัชราสำคัญที่สุด....สำหรับนาย"


แมนฟังแล้วนิ่งไป ก่อนจะหันไปตะโกน "หมอคร้าบ หมออยู่ไหมคร้าบบบบบ"


สักพักตรัยก็ออกมาจากห้อง แต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อย เขาปรีบสีหน้าจากตื่นเต้นเป็นนิ่งเฉย รีบเดินมาเปิดประตู


"สวัสดีครับ พวกคุณมาหาหมอน้ำมนต์หรอครับ พอดีหมอน้ำมนต์ไปประชุมในเมือง แล้วก็ค้างที่โน่น กว่าจะกลับวันนี้ก็คงประมาณบ่าย"


"มิน่าล่ะ ที่อนามัยถึงไม่มีใครเลย แล้วหมอต่ายอยู่กับใครละคะ" บริทนีย์ถามยิ้มๆ ตรัยสะดุ้งขึ้นมาทันที ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ


"อ๋อ ผมไม่ได้อยู่กับใครครับ ผมอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวจริงๆ ครับ" ตรัยย้ำ แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าจะย้ำทำไมหนักหนา


"งั้น หมอต่ายไปดูอาการคุณพัชราให้หน่อยได้ไหมครับ คุณพัชราไม่สบายมาก" แมนรีบบอก


"แต่ผมไม่ใช่หมอนะครับ ผมเป็นเภสัชกรเท่านั้น" ตรัยรีบแย้งทันที


"ไม่เป็นไรหรอกครับ หมอต่ายช่วยไปดูให้หน่อยเถอะ เผื่อว่าจะช่วยคุณพัชราได้"


ตรัยฟังแมนพูดแล้วก็พยักหน้าตกลง "เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเตรียมยาไป แล้วให้ยาตามอาการไปก่อน ดูว่าจะดีขึ้นหรือเปล่า แล้วตอนบ่ายจะให้หมอน้ำมนต์ไปดูอีกทีนะครับ"


"ดีค่ะ งั้นเราก็ไปกันเลยนะคะ" บริทนีย์ชวน


"งั้นรบกวนพวกคุณรอแป๊บนึงนะครับ ผมขอ...เอ่อ...ขอไปเตรียมอุปกรณ์ก่อน" แมนกับบริทนีย์จึงพยักหน้า พากันเดินออกมาจากบ้าน เหลืองมองที่หน้าต่างเห็นตรัยรีบร้อนเข้าห้องนอนไปก็หันมามองหน้ากันยิ้มๆ


ตรัยเดินเข้ามาเซเรน่าในห้อง "มีคนมาตามไปดูอาการคนไข้ตอนนี้น่ะ ผมต้องไปแล้ว คุณรอผมอยู่ที่นี่ก่อนได้ไหม"


"ไม่ได้หรอก ชั้นมานอนที่นี่ก็ไม่ได้บอกหมิงกับอาโก เดี๋ยวเขาจะตามหากันแย่" เซเรน่าว่า ก่อนจะบอกตรัย "นายไปเถอะ เดี๋ยวชั้นหารถไปตลาดเอง"


"คุณไปได้แน่นะ"


"ก็ไปได้สิ นี่เห็นชั้นเป็นเด็กอีกแล้วใช่ไหม" ประโยคหลังเริ่มขึ้นเสียงด้วยความไม่สบอารมณ์ ตรัยฟังแล้วส่ายหน้า "ก็เป็นซะอย่างนี้จะไม่ว่าเด็กได้ยังไง เฮ้อ" เซเรน่าฟังแล้วเชิดหน้า


"งั้นผมไปก่อนนะ แล้วกลับบ้าน อย่าไปเถลไถลที่ไหนนะ" ตรัยยังไม่วายเตือน ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปโดยไม่ปล่อยให้เซเรน่าได้ทันโวยวายอะไรทั้งสิ้น เซเรน่าจึงได้แต่มองตามหลังไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:29 pm

ที่ร้านอาโกวิดเช้านี่ดูวุ่นวาย


ความจริงหมิงร้อนรนกระวนกระวายตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เมื่อรู้ว่าเซเรน่าหายไปทั้งคืน....ตั้งแต่ที่คลาดกันตอนวิ่งหนีผียายแก่ หมิงก็ยังไม่เจอเซเรน่าเลย


เมื่อคืนก็นอนไม่หลับด้วยความเป็นห่วงจะไปตามก็ไม่รู้จะไปได้ยังไง ป่านนี้เซร่าจะเป็นยังไงบ้างไม่รู้


ผียายแก่นั่นจะทำอะไรเซร่าหรือเปล่านะ แต่เราเห็นว่าเซร่าวิ่งจูงมือหมอต่ายไป หมอต่ายอาจจะดูแลเซร่าได้ หวังว่ามันจะเป็นยังงั้น หมิงพยายามคิดในแง่ดี แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้


อาโกวิดมองลูกสาวอย่างจับผิด


"ว่าไง อาหมิงลิ้อไปเที่ยวงานวัดกันอีท่าไหน ถึงทิ้งอาร่าได้ แล้วนี่หลงกันยังไง อาร่าไม่ได้กลับบ้านกลับช่อง"


"ก็...คือ คนมันเยอะอ่ะป๊า เลยหลงกัน" หมิงตอบอ่อยๆ จะให้ตอบได้ยังไงว่าวิ่งหนีผียายแก่จนคลาดกัน


"แล้วลื้อทำไมไม่ดูแลเพื่อนดีๆ อาร่ามาอยู่ไม่กี่วัน จะไปรู้ทางได้ยังไง แล้วจะทำยังไงกันล่ะทีนี้ จะไปตามหาที่ไหน" อาโกว่าอย่างหัวเสีย


"หมิงจะลองไปตามที่วัดดูจ้ะป๊า บางทีเซร่าอาจจะอยู่ที่นั่น"


"เหอะ ป่านนี้มินั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วหรอ ลื้อนี่มันแย่จริงๆ อาหมิง ถ้าลูกเขาเป็นอะไรไปจะทำยังไง เขาจะมาว่าป๊าได้ ว่าดูแลลูกเขาไม่ดี"


"หมิงไม่ได้ตั้งใจ หมิงไม่ได้ทิ้งเซร่านะป๊า" หมิงก้มหน้า หน้าสลดลงเมื่อถูกดุ


"ไม่ได้ทิ้งมันก็ทิ้งไปแล้วล่ะ ขืนลื้อทำตัวแบบนี้นะ ต่อไปอย่าหวังจะได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย ป๊าไม่ให้ไปหรอก" อาโกว่าเสียงดังลั่นร้านก๋วยเตี๋ยว ขยับจะพูดต่อ ก็พอดีมีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาก่อน


"ก็เขาบอกแล้วว่ามันเป็นสุดวิสัย มันห้ามกันได้ที่ไหนเล่า" เสียงนุ่มๆ เสียงนั้นคือบุญก่อนั่นเอง ตอนนี้เขากำลังเดินมานั่งลงที่โต๊ะหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว หมิง เหลือบไปมอง ดวงตาสดใสขึ้นทันที บุญก่อมองหมิงแล้วหันไปมองอาโก


"พูดจาดุด่าลูกหลานให้คนอื่นเขาฟัง นึกว่าเท่ห์หรอ ไม่สงสารลูกจะอายบ้างหรอ"


อาโกฟังแล้วของขึ้นทันที ตะโกนดังกว่าเดิม "แล้วเรื่องของอั๊ว ลื้อมายุ่งอะไรด้วย ลื้อเกี่ยวอะไรด้วย"


"ก็ไม่เกี่ยวอะไรหรอก แต่อยากจะเตือนโก ให้คิดถึงหน้าลูกหลานบ้าง เขาก็บอกแล้วว่ามันผลัดหลงกันไปเอง แล้วจะไปเอาอะไรกับเขา" บุญก่อตอบโต้ เหลือบมองหมิงก็เห็นหมิงแอบยิ้มอย่างให้กำลังใจ แต่อาโกนั้นตอนนี้หน้าแดงไปหมดด้วยความโมโห


"ลื้อเป็นใคร ถือดียังไงมาเตือนอั้ว หนอยๆ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเอ้ย เรื่องตัวเองน่ะเอาให้รอดก่อนเหอะ ไม่มีจะกินจะอยู่แล้ว ยังมีหน้ามาเตือนคนอื่น"


"อ้าว โก พูดเรื่องนี้อยู่ดีๆ แล้วมาดูถูกผมทำไม" บุญก่อสวนทันที


"ทำไมอั้วจะดูถูกลื้อไม่ได้ น้ำหน้าอย่างลื้อน่ะ มันก็เป็นได้แค่กระเป๋ารถเท่านั้นแหละ ไม่มีทางจะเป็นอย่างอื่นได้หรอก ไปขอลูกสาวใครเขาก็ไม่อยากจะให้หรอก สองตาเขายังไม่แลเลยจะบอกให้" อาโกพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก จนบุญก่อเลือดขึ้นหน้า หมิงหันไปมองหน้าบุญก่อทันทีด้วยความเป็นห่วง


"ทำไมโก คนอย่างผมนี่มันเป็นยังไง มันเป็นแค่กระเป๋ารถแล้วมันจะมีความเป็นคนน้อยกว่าคนอื่นหรือไง ผมไม่มีเงิน มันหมายความว่าผมเป็นคนไม่ดีหรือไง"


"ก็ลื้อไม่มีเงิน แล้วจะเผยอหน้าไปสู้กับใครเขาได้" อาโกว่าเยาะๆ


"โกสบประมาทผมใช่ไหม คอยดูแล้วกัน ต่อไปโกจะต้องเปลี่ยนคำพูด"


"เออ อั๊วจะคอยดูวันนั้น ถ้าลื้อไม่มีอะไรที่อั๊วจะสบประมาทได้ อั้วก็จะเปลี่ยนคำพูด แต่วันนั้นคงไม่มีวันมาถึงหรอก" อาโกพูดแล้วแสยะยิ้ม หมิงหันไปมองบุญก่อก็เห็นเขากำลังสะกดอารมณ์โกรธที่กำลังพลุ่งพล่านขึ้นมา


หมิงทำอะไรไม่ถูก หันรีหันขวางก็เห็นหมวดเด่นเดินเสต็ปมาแต่ไกลด้วยความหัวเสีย


เดินเข้ามาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวก็เป่านกหวีดดัง "ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"


อาโกและบุญก่อชะงักกึก หันมามองที่มาของเสียงนกหวีดทันที


"ว่าไงคุณสองคน ผมได้รับแจ้งว่า คุณก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันที่ร้านนี้ อย่างนั้นใช่ไหม"


"เปล่าค่ะ หมวด ไม่ได้ทะเลาะวิวาทค่ะ แค่พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้นค่ะ" หมิงรีบบอกทันที แต่หมวดเด่นส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อถือ


"พูดคุยแสดงความคิดเห็นกันท่าไหน ได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน ชาวบ้านเขาไปแจ้งมาว่าไปสร้างความรำคาญให้กับเขาน่ะ พวกคุณรู้กันหรือเปล่า"


หมวดเด่นหน้าเข้ม มองทั้งอาโกและบุญก่อสลับไปมา
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:30 pm

พัชรามองมือที่ทุยจับไว้ หัวใจวูบไหวอย่างประหลาด แต่พยายามทำเสียงแข็งเข้าไว้ ทั้งๆที่ไม่มีแรง


"ปล่อยมือชั้นนะ"


ทุยมองสายตาเย็นชาของพัชรา แล้วอารมณ์โกรธก็คุกรุ่นขึ้นมา "ทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วย ผมไม่ปล่อยจะมีอะไรไหม"


"นายถือดียังไง บุกเข้ามาในบ้านชั้น แล้วยังจะมาทำพูดจาอวดดีในบ้านชั้นอีก" พัชราว่าอย่างรุนแรงเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกภายในใจ แต่ทุยไม่สะทกสะท้าน


"ก็ไม่ถือดีอะไรหรอก คุณอย่างผมมันก็ไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไร พอใจจะทำอะไรก็ทำ ไม่เหมือนคนบางคนหรอก" พูดแล้วจ้องมองคนบนเตียงนิ่งๆ พัชราเองต้องเป็นฝ่ายเมินไป


"ชั้นจะแจ้งตำรวจมาจับนายฐานบุกรุก"


"รู้ได้ยังไงว่าผมบุกรุก ถ้าผมบอกว่าผมมาหาแม่คุณล่ะ แม่คุณคงไม่ว่าผมบุกรุกหรอกนะ" ทุยว่ายิ้มๆ แต่พัชราทำตาโตขึ้นมาทันที


"นี่นาย ชั้นบอกแล้วไม่ให้มายุ่งกับแม่ชั้น"


ทุยฟังแล้วหัวเราะ หึหึ "แต่แม่คุณไม่ได้ห้ามนี่ ดีซะอีก ผมจะได้ที่นา ได้น้องโง้งคืนมา ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง"


พัชราอึ้งไป ก่อนจะว่า "อ๋อ นี่คิดจะเกาะแม่ชั้นใช่ไหม จะหลอกแม่ชั้นเพื่อเอาของๆ ตัวเองกลับคืนไปใช่ไหม นายนี่มัน..." พัชรายังพูดไม่ทันจบ ทุยก็ดึงพัชราเข้ามาชิดทันที ทั้งสองสบตากันในระยะใกล้ ดวงตาของทุยมีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ มองพัชราที่ดวงตาอ่อนแรงด้วยพิษไข้และแฝงแววหวาดระแวง


"คุณคิดว่าผมเป็นอย่างที่พูดไหมล่ะ ผมเลวอย่างที่พูดใช่ไหม และผมควรจะทำอะไรกับคุณ ให้สมกับความเลวที่คุณยัดเยียดให้ผม" ทุยพูดแล้วมองหน้าพัชรา


"นี่ นายอย่าทำบ้าๆ นะ" พัชราร้องเสียงหลง ใจเต้นโครมคราม


แต่ก่อนที่ทุยจะได้ทำอะไรลงไปอย่างที่พัชราคิดหวาดกลัว เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น


"พัชราๆ " เสียงบริทนีย์เองที่เรียกอยู่หน้าห้อง พัชราหันมามองทุยทันที ทุยทำสัญญานให้เงียบ ได้ยินเสียงคนหน้าห้องพูดคุยกัน


"สงสัยพัชราจะหลับค่ะ หมอเข้าไปดูอาการเลยดีกว่า ประตูไม่ได้ล็อก..."
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:30 pm

"สงสัยพัชราจะหลับค่ะ หมอเข้าไปดูอาการเลยดีกว่า ประตูไม่ได้ล็อก..."


จบคำพูดของบริทนีย์ ทุยก็รีบหล่อยมือพัชราทันที แล้วกระโดดออกไปยืนที่ระเบียงด้านนอก แล้วแฝงกายอยู่ในนั้น เพียงเสี้ยววินาทีที่บริทนีย์ แมนและตรัยเปิดประตูเข้ามาพอดี


พัชราเองก็ตื่นตกใจไม่แพ้กัน แอบเหลือบไปมองที่ระเบียง ภาวนาให้คนๆนั้นรีบหลบเสียให้ทันก่อนที่ใครๆ จะเข้ามา พร้อมกับบอกตัวเองว่า ไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงเขาสักนิด เพียงแต่กลัวว่าถ้ามีใครเห็นแล้วเราจะเสื่อมเสียต่างหาก


เมื่อเห็นว่าคนๆนั้นหลบที่ระเบียงเรียบร้อยแล้ว พัชราก็หันมามองคนที่เปิดประตูเดินเข้ามา


"คุณพัชราเป็นยังไงบ้างครับ ผมพาหมอมาแล้ว" แมนรีบพูดขึ้นทันที แล้วมองพัชราด้วยความเป็นห่วง บริทนีย์เหล่มองอย่างหมั่นไส้นิดๆ


"ผมเป็นเภสัชกรนะครับ คงยังรักษาอะไรไม่ได้ แต่จะจ่ายยาให้ตามอาการ" ตรัยรีบบอกก่อนจะถามพัชราว่า "ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ อาการเป็นยังไงลองเล่าให้ผมฟังหน่อยครับ"


"ก็...รู้สึกค่อยยังชั่วกว่าเมื่อคืนค่ะ แต่ก็ยังปวดหัวอยู่นิดหน่อย" พัชราตอบ บริทนีย์รีบเอามือมาอังหน้าผากพัชราแล้วร้องว่า


"อ้าว ตัวเธอไม่ค่อยร้อนแล้วนี่ สงสัยไข้จะลดแล้วละมั้งเนี่ย" พูดแล้วมองไปที่อ่างน้ำใบเล็กที่มีร่องรอยการเช็ดตัว "เธอเช็ดตัวแล้วหรอ"


พัชราแอบสะดุ้งขึ้นมาทันทีโดยอัตโนมัติ รีบพูด "อ้อ เช็ดตัวแล้ว เอ่อ...แม่บ้านเขามาเช็ดให้น่ะ"


ตรัยมองแล้วพยักหน้า "อืม งั้นอาการของคุณพัชราก็ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วนะครับ ไหนลองบอกอาการผมมาอย่างละเอียดอีกที ผมจะได้จัดยาให้เลย"


พัชราจึงบอกอาการอย่างละเอียดให้ตรัยฟังอีกครั้ง ตรัยจัดยาให้พัชราหลายชุด แล้วบอกว่า


"ถ้าตอนบ่าย หมอน้ำมนต์มา เดี๋ยวผมจะบอกให้มาดูคุณพัชราอีกครั้งนะครับ"


"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ" พัชราตอบ ตรัยมองนาฬิกา พลางนึกไปถึงคนที่อยู่ที่บ้านพักของตน ป่านนี้จะกลับบ้านไปหรือยัง แล้วจะกลับบ้านถูกไหมเนี่ย


ท่าทางของตรัยดูลุกลี้ลุกลนจนบริทนีย์สังเกตเห็น


"หมอต่าย มีอะไรหรือเปล่าคะ จะรีบไปไหนหรือเปล่า"


"รีบครับ เอ้ย เปล่าครับ ไม่ได้รีบอะไร" ตรัยพูดผิดพูดถูกอันเป็นการผิดวิสัยคนอย่างเขายิ่งนัก บริทนีย์หันไปมองแมนเป็นเชิงรู้กัน


"ถ้าหมอต่ายรีบเดี๋ยวจะให้แมนขับรถไปส่งนะคะ"


"รถที่บ้านมีตั้งหลายคัน เดี๋ยวให้ออกไปส่งหมอก็ได้ค่ะ รบกวนนายแมนเปล่าๆ" พัชราว่าแล้วหันไปยิ้มกับแมน แมนรีบยิ้มตอบทันที บริทนีย์มองแล้วเมินไป แกล้งพูด


"อืม ดีเหมือนกันค่ะ ให้คนรถที่บ้านไปส่งหมอต่ายดีกว่า คนบางคนเขาคงไม่อยากไป" บริทนีย์ว่าแล้วปรายตามามองแมน ก่อนจะหันไปชวนตรัย


"ไปค่ะ เดี๋ยวชั้นไปส่งที่รถ หมอรีบไม่ใช่หรอคะ" ประโยคหลังพูดยิ้มๆ


"ใช่ครับ เอ้ย ไม่ใช่ครับ" เอาอีกแล้วตรัยเผลอพูดอะไรออกไป รีบแก้คำพูดตัวเองทันที "คือ ผมคงต้องรีบกลับไปประจำที่อนามัยน่ะครับ"


"กลับไปอนามัยหรอคะ นึกว่ากลับไปบ้านพักซะอีก" บริทนีย์ยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้อง ตรัยฟังแล้วสะดุดหูเล็กน้อย แต่ก็ไม่คิดอะไร ได้แต่หันมาลาพัชรากับแมนและเดินตามบริทนีย์ไป
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:31 pm

แมนมองคนทั้งคู่ที่เดินออกไปแล้ว ก็หันมามองพัชรา ถามด้วยความเป็นห่วง "คุณพัชราเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ"


"ค่ะ ตอนนี้ค่อยยังชั่วมากแล้ว" พัชรายิ้มตอบ "แต่นายแมนไม่ต้องเรียกชั้นว่าคุณหรอกค่ะ เราลูกหลานบ้านทุ่งเหมือนกัน เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก เรียกพัชราเฉยๆ ก็ได้"


แมนยิ้มเมื่อได้ยินถ้อยคำที่เป็นกันเองนั่น "เห็นว่าพัชราไม่สบายมาตั้งแต่เมื่อคืน ไปเที่ยวงานวัดแล้วตากน้ำค้างมาหรอครับ"


พัชรานิ่งไปทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ได้แต่ตอบอ้อมแอ้ม "ก็..คงยังงั้นมั้งคะ"


"ทีหลังต้องระวังตัวหน่อยนะ อย่าปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอ" แมนว่า ขยับจะพูดอะไรมากกว่านี้แต่ก็ไม่พูด ได้แต่มองพัชราแล้วบอกลา


"พัชราคงอยากพักผ่อนแล้ว งั้นผมกลับก่อนนะ ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ นอนพักผ่อนเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ"


"ขอบคุณแมนมากเลยนะ" พัชรารีบตอบ แมนจึงยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป


พัชรามองตาม พลางนึกในใจ แต่ไหนแต่ไรที่เจอแมนมา เรามักจะได้รับคำพูดดีๆ และความปรารถนาดีของแมนเสมอมา เขาช่างเป็นคนดีจริงๆ


ขณะที่พัชรากำลังคิดเพลิน ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง


"ท่าทางแมนเขาเป็นห่วงคุณมากเลยนะ" ทุยนั้นเองที่ออกจากที่ซ่อนตรงระเบียงด้านนอกมายืนอยู่ข้างเตียงพัชราอีกครั้ง


"ก็ใช่น่ะสิ ก็แมนเขาเป็นคนดีนี่" พัชราหันมาตอบทันที "ไม่เหมือนคนบางคน"


ทุยตาวาววับขึ้นทันที "จะพูดว่าไม่เหมือนผมก็พูดมาเถอะ เพราะคุณก็ไม่เคยเห็นผมดีอยู่แล้ว"


"ก็แล้วนายทำอะไรให้ชั้นเห็นว่าดีบ้างล่ะ" พัชราสวนทันที ทุยฟังแล้วเงียบไป มองพัชรานิ่งๆ ก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ


"บางสิ่งบางอย่างอย่างที่เราตั้งใจทำให้ใครน่ะนะ แม้เราจะเห็นว่ามันดีนักหนา แต่ถ้าเขาคนนั้นไม่เห็นค่าการกระทำของเรา มันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีความหมายอะไรเลยจริงๆ"


พัชราฟังแล้วนิ่งอึ้งไป มองตาทุยก็เห็นดวงตาคู่นั้นเศร้า ขยับจะพูดอะไรก็ตัดสินใจไม่พูด ได้แต่เงียบมองสบตากับเขา


ทุยหัวเราะหึหึ ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปที่ระเบียงแล้วปืนลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว พัชราได้แต่มองตาม แล้วถอนหายใจออกมา
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:31 pm

หมวดเด่นมองอาโกกับบุญก่อสลับกันท่าทางหัวเสีย


"ทะเลาะวิวาทเอ็ดตะโรกันอย่างนี้ เดี๋ยวจับขังคุกซะเลยดีไหม"


หมิงได้ฟังก็ตกใจ รีบห้ามหมวดเด่น "โธ่ หมวดคะ อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลย"


"ผมก็แค่พูดคุยกับไอ้....เอ่อ...บุญก่อมันเท่านั้นเอง ไม่ได้ทะเลาะกันอย่างที่หมวดคิดหรอกครับ" อาโกเห็นหมวดเด่นจะเอาเรื่องจึงพยายามรอมชอม หันไปหาบุญก่อ "ใช่ไหม..ก่อ"


แต่บุญก่อไม่ได้มองอาโก ได้แต่เมินไปผิวปากอิมโพรไวท์เสียงเล่น เล่นเอาอาโกเลือดขึ้นหน้า หนอย จะช่วยกันเป็นไม่มี แต่อาโกก็จำต้องเงียบไว้


"ว่าไงก่อ ตกลงแค่พูดคุยกันหรอ" หมวดเด่นหันมาถาม บุญก่อยักไหล่แบบตีสแตก "เสียงดังสามบ้านแปดบ้าน หมวดคิดว่าพูดคุยหรอครับ พูดคุยกันประเทศไหนละครับ ถ้าหมวดมาช้าอีกนิด ผมอาจจะโดนกระสุนเจาะหัวไปแล้วก็ได้"


อาโกฟังแล้วโมโห "หนอย ไอ้....เอ่อ....แก พูดออกมาได้ อย่างนี้มันน่า....."


"อาโก..."หมวดเด่นปรามเสียงหนักๆ "ไหนบอกว่าพูดคุยกันไง"


อาโกจึงเงียบไป ได้แต่บ่นพึมพำ แถมมองมาที่บุญก่อด้วยสายตาอาฆาต แต่บุญก่อไม่สนใจ "ผมว่าหมวดอย่าเพิ่งมาสนใจเรื่องทะเลาะวิวาทเลยครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้งหมวด"


"หือ ว่าไงนะ คุณมีเรื่องอะไร" หมวดเด่นหันมาถาม


"เราจะแจ้งความคนหายครับ" บุญก่อพูดแล้วหันไปมองหมิง หมิงจึงรีบบอกทันที


"เซร่าหายไปค่ะ หมวด เรา เอ่อ เราคลาดกันเมื่อคืน" ประโยคท้ายหมิงตะกุกตะกักเล็กน้อย


หมวดเด่นฟังแล้วนิ่งไปอย่างใช้ความคิด "อืม หายไปเมื่อคืนหรอ หายไปที่ไหนครับ"


"ที่งานวัดค่ะ หมิงกับเซร่าไปเที่ยวงานวัด แล้วเกิดคลาดกัน เซร่าไม่ได้กลับมาบ้านค่ะ หมิงขอแจ้งความไว้ได้ไหมคะ แล้วอยากให้หมวดช่วยตามหาให้หน่อย"


"แจ้งความคนหายตอนนี้คงยังไม่ได้หรอกครับ เพราะว่ายังไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่คุณแน่ใจแล้วหรอ ว่าคุณเซร่าไม่ได้ไปค้างบ้านเพื่อนที่ไหน"


"บ้านเพื่อนหรอคะ...เอ หรือว่าเซร่าจะไปนอนบ้านบริทนีย์" หมิงว่าแล้วนึกในใจ ถ้าไปนอนบ้านบริทนีย์ก็ไม่เป็นห่วงหรอก แต่เมื่อคืนที่วิ่งหนีผีด้วยกันนี่สิ เซร่าจะรอดจากยายแก่หรือเปล่าก็ไม่รู้


"ผมว่าลองไปหาตามบ้านเพื่อนดูก่อนดีไหมครับ แล้วผมจะช่วยไปตามหาที่วัดให้" หมวดเด่นว่า บุญก่อฟังแล้วจึงบอกเรียบๆ


"งั้นเดี๋ยวผมจะไปตามที่บ้านคุณนายแจ่มให้แล้วกัน" หมิงหันมามองบุญก่อ ในใจอยากจะขอไปด้วย แต่เห็นอาโกมองอยู่จึงไม่กล้าพูด แต่หมวดเด่นดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรก็สั่ง


"เอ้า งั้นหมิงก็ไปกับบุญก่อแล้วกัน จะได้ไปถามคุณบริทนีย์ด้วย"


สิ้นคำหมวดเด่น หมิงแอบยิ้มออกมาทันที แต่อาโกร้องโวยวาย


"ว่าไงนะ จะให้อาหมิงไปกับ ไอ้...เอ่อ...ก่อหรอ อั้วไม่ยอม"


"อ้าว อาโกจะเอายังไงเนี่ย ก็จะตามหาคนหาย ก็ต้องไปช่วยกัน แค่นี้โกมีปัญหาหรอ" หมวดเด่นเสียงเข้ม เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีก แค่นี้ก็ทำให้อาโกเงียบเสียงลง ได้แต่พึมพำ


"อั๊วก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าอั๊วไม่ติดร้านก๋วยเตี๋ยวอั๊วก็ไปแล้ว"


"อาโกอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวก็ดีแล้ว เผื่อคุณเซร่ากลับมาจะได้รู้เรื่องกัน" หมวดเด่นว่าแล้วหันไปหาหมิงกับบุญก่อ "ตกลงเอาตามนี้นะ ผมจะไปหาที่วัด หมิงกับบุญก่อก็ไปหาบ้านคุณนายแจ่ม"


บุญก่อกับหมิงพยักหน้า ในใจแอบยิ้ม
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:31 pm

เซเรน่ายืนทำหน้างงอยู่หน้าสถานีอนามัยบ้านทุ่งแมกโนเลีย เมื่อกี้ทำปากเก่งบอกเขาไปว่ากลับบ้านได้ แต่จริงๆแล้วไม่รู้เลยสักนิดว่าจะกลับยังไง


ก็ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านทุ่งนี่ เพิ่งจะเคยไปวัดเมื่อคืนครั้งแรก และอนามัยนี่ก็เพิ่งมาครั้งแรกเหมือนกัน


มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นว่าอนามัยจะมีบ้านคนที่ไหน ก็เล่นตั้งอยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี จะไปถามควายที่กินหญ้าอยู่ในทุ่งก็ไม่ใช่เรื่อง


ยืนรออยู่นี่ละ เผื่อจะมีรถสองแถวผ่านมา หรือไม่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ยังดี


หนักเข้าก็เดินเอาก็ได้ เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงตลาดเองแหละ เซเรน่าคิดกับตัวเอง


แต่เซเรน่าไม่ทันได้คิดนาน เพราะขณะนั้นมีรถสปอร์ตเปิดประทุนสีแดงแปร๊ดสุดหรูแล่นปร๊าดมาจอดข้างๆ ทันที เล่นเอาฝุ่นฟุ้งเลยทีเดียว


เซเรน่าหันไปมอง


จึงเห็นว่าคนนั่งเท่ห์อยู่บนรถสปอร์ตคนนั้นคือพ่อพระเอกลิเกคนดัง ตุ่น ชุมพลนั่นเอง


เซเรน่ามองอย่างสงสัย ยังไม่ทันจะอ้าปากถามก็พอดีพ่อตุ่น ชุมพลเอ่ยออกมาเสียก่อนด้วยเสียงนุ่มๆ


"ว่าไงครับ คุณน้อง จะไปไหน ให้พี่ไปส่งนะครับ"


เซเรน่ายังคงงงอยู่ แต่ก็ตอบไป "พอดีจะไปตลาดน่ะค่ะ รบกวนพี่หรือเปล่า"


"อ้อ ตลาดแค่นี้เอง รบกวนหรือจ๊ะ ไม่เลยจ้ะ รบกวนไปส่งตลาด พี่ยินดี แต่ถ้า..รบกวนมารักกัน พี่ยิ่งยินดีใหญ่เลย..." -*- เอ่อ...


เซเรน่าฟังแล้วเกาหัว พยายามไม่ใส่ใจ เสียงพี่ตุ่น ชุมพลชวน "คุณน้องขึ้นมาเลยจ้ะ เดี๋ยวพี่ไปส่งให้อึดใจเดียวก็ถึง"


เซเรน่าจึงขึ้นมานั่งข้างๆ พี่ตุ่นหันมามองแล้วยิ้มหวานให้


"คุณน้องชื่ออะไรครับเนี่ย พี่ว่าพี่เคยเห็นที่ไหนนะ"


"ชื่อ เซเรน่าค่ะ เป็นเด็กเอเอฟเอสมาอยู่ที่บ้านหมิง เพิ่งมาได้ไม่กี่วันนี้เองค่ะ" เซเรน่าตอบ พลางนึกในใจ เอารถสปอร์ตเปิดประทุนมาขับที่บ้านทุ่งเนี่ยนะ แดดแรงซะขนาดนี้ ได้ผิวไหม้กันพอดี


"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ว่าแต่หน้าน้องคล้ายลูกครึ่งนะ"


"อ๋อ ค่ะ เป็นลูกครึ่งไทย -เยอรมันค่ะ" เซเรน่ารับคำ


"หรอจ๊ะ พี่นึกว่าครึ่งคนครึ่งนางฟ้าซะอีก" ฮิ้วววว -*- มุขเก่าโครตๆเลยพี่ตุ่น รู้ตัวป่ะเนี่ย


เซเรน่าทำสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะว่า " พี่เป็นพระเอกลิเกใช่เปล่า"


พี่ตุ่น ชุมพลพยักหน้าอย่างไว้มาด "ก็ใช่สิครับ ทำไมหรอ"


"แล้วทำไมพี่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเลยอ่ะ" แป่ว....


พี่ตุ่นหน้าเจื่อนไป ก่อนจะหัวเราะแล้วตัดบท "แหม น้องนี่เพิ่งมาอยู่ที่นี่คงไม่ค่อยทุนมุข ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วพี่จะสอนให้เอง"


"ไม่ต้องมั้งพี่ ภาษาไทยหนูก็รู้เรื่องดี"


"ไม่ใช่ภาษาไทยหรอกจ้ะที่จะสอนน่ะ แต่เป็น...ภาษาใจ...ต่างหาก" ฮิ้วววววว -*-


เซเรน่าฟังแล้วยิ่งเกาหัวหนัก พี่ตุ่น ชุมพลนี่หน้าตาก็ดี แต่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องจริงๆ ด้วยแฮะ แต่พี่ตุ่นกลับมองอาการของเซเรน่าว่ากำลังเคลิ้มกับคารมซะอย่างนั้น


"เอาล่ะ เราไปตลาดกันดีกว่านะครับ พอดีพี่จะไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านน้องหมิงพอดี" พี่ตุ่น ชุมพลหันมายิ้มให้คนข้างๆ แล้วสตาร์ทรถออกไปด้วยความเร็วจนฝุ่นฟุ้ง


พอฝุ่นจางหาย รถอีกคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าอนามัย รถบ้านคุณนายแจ่มนั่นเอง


ตรัยเดินลงมาจากรถคันนั้น หันไปขอบคุณคนขับรถแล้วหันไปมองรถสปอร์ตที่เพิ่งขับออกไปเมื่อครู่ เห็นว่าเซเรน่านั่งรถไปกับพ่อตุ่น ชุมพล พระเอกลิเกรูปหล่อคนนั้น ท่าทางสนิทสนมกันดี เพราะพ่อตุ่นยิ้มแย้มหัวเราะเรื่องอะไรกันไม่รู้


อืม แล้วเราจะรีบมาทำไมเนี่ย ไม่น่าเป็นห่วงว่าเขาจะกลับบ้านไม่ได้เลย เขามีรถสปอร์ตมารับด้วยซ้ำ ท่าทางน่าสบายจะตาย ตรัยคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างลืมตัว
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:32 pm

หลังจากหมวดเด่นขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปตามหาเซเรน่าที่วัดแล้ว บุญก่อก็หันไปหาหมิง พยักหน้าให้เแล้วว่า


"เราไปกันเถอะ"


หมิงจึงหันไปหาอาโกที่ยืนกัดฟันกรอดๆ อยู่ "หมิงไปก่อนนะป๊า"


"เออ รีบไปรีบมา แล้วไม่ต้องเถลไถลไปไหนล่ะ ไอ้คนที่ไปด้วยมันไม่ค่อยน่าไว้ใจ" อาโกว่า หันไปมองบุญก่อ "แล้วถ้ามีอะไรก็จัดการมันเลย อย่าที่ป๊าสอนไว้ นี่ถ้าไม่ติดร้านก๋วยเตี๋ยวนะ ป๊าจะไปกับลื้อแล้ว"


"โธ่ ป๊า ไม่ได้มีอันตรายอะไรสักหน่อย ป๊าอยู่เฝ้าร้านเถอะ เดี๋ยวเผื่อเซร่าจะมา" หมิงว่าแล้วหันไปหาบุญก่อ ก็เห็นเขาพยักหน้าให้จึงเดินตามไป


บุญก่อเดินมาที่วินรถสองแถว เจอบุญอั้นนั่งซดโอยั๊วะอยู่ก็เรียก


"พี่อั้น วันนี้ผมไม่ทำงานนะ"


"อ้าว" บุญอั้นเงยหน้าจากแก้วโอยั๊วะขึ้นมาร้องอย่างแปลกใจ "ทำไมล่ะ เอ็งจะไปไหนทำไมไม่ทำงาน" พูดแล้วมองไปที่หมิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำเป็นนึกอะไรได้ก็ยิ้ม


"อ๋อๆ..ข้ารู้แล้ว วันนี้ที่เอ็งไม่ทำงานนี่ จะแอบพาหญิงไปเที่ยวใช่ไหมล่ะ ก่อ ไม่เบานะเนี่ย" บุญอั้นแซวยิ้มๆ ทำเอาบุญก่อหันไปมองหน้าหมิงแล้วรีบหันกลับมาทันที ใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นหน่อยๆอย่างที่ไม่เคยเป็น รีบพูดทันที


"อะไรล่ะพี่อั้น พูดอะไรเหลวไหล"


"อ่ะแน่ะๆ พูดเหลวไหลตรงไหนว่ะ ถ้าข้าพูดเหลวไหลแล้วทำไมเอ็งต้องหน้าแดงด้วยว่ะ ฮ่าๆ" อั้นมองหน้าบุญก่อแล้วขำ แต่ไหนแต่ไรมามันเก็บอาการจะตาย ไม่เคยเสียฟอร์มแบบนี้มาก่อน แต่ดูวันนี้สิ ทำเป็นเขินเชียว


"เฮ้ย พี่ก่อพูดอะไรอ่ะ แดงเดิงอะไร ตาฝาดแล้วมั้ง" บุญก่อปฏิเสธเสียงแข็งแต่หน้ายังไม่ยอมเปลี่ยนสี บุญอั้นยิ้มๆ หันไปมองหมิงก็เห็นหน้าแดงไม่แพ้กัน


"เออ ข้าคงตาฝาดไปแหละ" พูดแล้วหัวเราะ ขำไอ้ก่อมัน ดูมัน มันเขินทำอะไรไม่ถูกไปเลย สมน้ำหน้าอยากทำฟอร์มดีนัก "ข้าตาฝาดเห็นเอ็งเขิน ข้าตาฝาดเห็นเอ็งหน้าแดง ข้าตาฝาดหมดเลย ฮ่าๆๆๆ"


"พอเลยพี่อั้น หยุดพูดได้แล้ว" บุญก่อเห็นลูกพี่แซวก็รีบทำขรึมกลบเกลื่อน


"นี่ผมจริงจังนะ พี่ทำเล่นไปได้"


"อ้าว นี่เอ็งจริงจังกันแล้วหรอ ทำไมเร็วจังล่ะ" บุญอั้นว่ายิ้มๆแล้วหันไปมองหมิงสลับกับบุญก่อ


"ไม่ใช่ พี่อั้น เฮ้อ" บุญก่อถอนหายใจ ไม่กล้าหันไปมองคนข้างๆ "นี่ผมจะไปตามเพื่อนหมิง ไม่รู้หายไปไหน ผมเลยทำงานไม่ได้วันนี้"


"อ้อๆ อย่างนั้นเองหรอ" บุญอั้นพยักหน้ารับรู้ "ภารกิจยิ่งใหญ่สำหรับเอ็งน่าดูเลย เอาๆ จะไปไหนก็ไปเหอะ ว่าแต่จะไปกันยังไง"


"เดี๋ยวเอารถมอเตอร์ไซค์ของผมไป" บุญก่อตอบ ก่อนจะพูดยิ้มๆ "แล้วถ้าพี่อั้นอยากจะมีกระเป๋ารถ ก็ไปขอแม่ค้าแถวๆ ตลาดโคกสารินมาเป็นกระเป๋าให้ไปพลางๆ ก่อนสิ"


"เฮ้ย บ้าน่า" บุญอั้นได้ฟังก็เขินขึ้นมาบ้าง "อย่าพูดอย่างนี้สิ เดี๋ยวเค้าเสียหาย เราแค่กำลังดูๆ กันเฉยๆ" แหม ตอบยังกะดาราเชียวตาอั้น


บุญก่อหัวเราะ หันไปมองหมิงก็เห็นกำลังเผลอมองหน้าตัวเองยิ้มๆ บุญก่อเลยหลบสายตาด้วยความเขิน ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วชวน


"ไปๆ เราไปตามหาเซร่ากัน เดี๋ยวเอารถพี่ไป" มองหน้าหมิงนิดหนึ่ง "ไปรถมอเตอร์ไซค์นะ นั่งได้ไหม"


หมิงพยักหน้า บุญก่อจึงเดินไปเอารถมอเตอร์ไซค์ช็อปเปอร์สี่สูบคันเบ้อเร่อของตัวเองออกมาขับพาหมิงไปบ้านคุณนายแจ่มทันที
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:32 pm

หมวดเด่นขับรถมาจอดแถวๆ วัดแล้วลงไปดูจนทั่วก็ไม่เจอร่องรอยหรือวี่แววอะไรเลย เดินไปที่ลานลั่นทม จนจะเดินเข้าป่าช้าไปแล้วก็เกิดชะงักขึ้นมา


เอ เซเรน่าจะมาทำอะไรที่ป่าช้า คงไม่ได้เข้าไปแอบในป่าช้าหรอกมั้ง คิดได้ดังนั้นก็เดินออกมาเพื่อไปขึ้นรถแล้วขับออกจากวัดไป


ขณะที่กำลังจะผ่านหลังวัดนั่นเอง ที่สายตาหมวดเด่นเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่บ้านหลังวัด...บ้านของยายเป๋อ


หมวดเด่นจอดรถทันที เมียงมองไปที่บ้านหลังนั้น เอ ก็ดูปกติดีนี่ แต่เมื่อกี้เราเห็นว่ามันไม่ปกตินี่นา หมวดเด่นพูดอย่างสับสนใจตัวเอง


แล้วพลันก็มีมือหนึ่งมาแตะหลัง ทำเอาหมวดเด่นสะดุ้งเฮือก หันไปมองทันที


"เฮ้ยยยย" หมวดเด่นร้องอย่างตกใจ แต่พอเพ่งพิศดูว่าเป็นใครแล้วก็ถอนหายใจ "อ้าว อาโกชา นี่มายังไงเนี่ย แล้วมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย"


"ผมก็มาแบบเทพบุตรพรายกระซิบน่ะสิ หมวด" อาโกชากล่าวขรึมๆ ก่อนจะหัวเราะ "ไม่ใช่ คือว่าผมมาหาอาโกวิดน่ะ เห็นอาโกวิดบอกมีเรื่องอยากจะคุยกับผม ผมก็เลยต้องบึ่งมาจากโคกสาริน แต่พอดีผ่านหลังวัดเห็นหมวดทำจดๆ จ้องๆ เลยแวะมาดูว่ามีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า" อาโกชาว่าแล้วหัวเราะหึหึ สบตาหมวดเด่นอย่างมีความหมาย


"ก็ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมคงตาฝาดไปเอง" หมวดเด่นตอบอย่างไว้เชิง "ถ้าโกจะรีบก็ไปได้เลยครับนะครับ ไม่ต้องห่วงผม"


"เรื่องนั้นน่ะผมรู้ดี" อาโกชายิ้มมีมาด ว่าแต่แกรู้เรื่องไหนหรอตาชา -*-


หมวดเด่นมองอาโกชาอย่างระแวงเล็กน้อย ดูท่าทางคำพูดมีเลศนัยชอบกล ขยับจะถามอะไรออกไปก็พอดีได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์สองคันแล่นมาจอดซะก่อน ทั้งสองหันไปมองพร้อมกันทันที


มอเตอร์ไซค์จุ๊บ จุ๊บของสองแฝดนั่นเอง


"อุ้ยตายแล้ว มะยม เรามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า" เสียงพุทราว่าแล้วมองยิ้มๆ ไปที่หมวดเด่นกับอาโกชา มะยมเห็นก็พลอยยิ้มไปด้วย แต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะเห็นแววตาหมวดเด่นดุๆ


"ขัดจังหวะอะไร คุณหมายความว่าอะไรคุณพุทรา" หมวดเด่นเสียงเข้มทันที


"อ้าว ก็หมายความว่าหมวดกับอาโกชา เอ่อ..." พุทรายิ้มอย่างมีความหมาย "อยากอยู่กันสองต่อสองหรือเปล่า แหม เข้าใจหาที่นะ มากันถึงหลังวัดเลยเชียว แถมมาแถวบ้านยายเป๋ออีก ท่าทางจะปลอดคนน่าดูเลยนะ"


"นี่คุณพูดเรื่องอะไร" หมวดเด่นรีบโวย


"นั่นสิ คุณพูดเรื่องอะไร" อาโกชาทำเท่ห์โวยวายมั่ง "ทีหลังจะพูดเรื่องอะไร ก็ตั้งชื่อเรื่องด้วยสิคุณ เอ้ย ไม่ใช่ ทีหลังจะพูดเรื่องอะไรหัดถามเขาซะก่อนสิ"


"ใช่ๆ ไม่ถามก่อนแล้วยังจะมาเข้าใจผิดอีก" หมวดเด่นรีบเสริม


"แหม เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยเนอะ มะยม" พุทราหันไปหัวเราะกับมะยม แต่มะยมกระตุกแขนเตือน "พุทรา หมวดเด่นโกรธแล้วนะ"


"ก็เห็นหมวดเด่นโกรธยังงี้ทุกที ไม่เห็นจะมีเวลาไหนไม่โกรธสักที" พุทราค่อน


"จะไม่ให้ผมโกรธได้ไง คุณมาล้อผมเล่นอย่างนี้ ไม่ให้เกียรติเครื่องแบบที่ผมแต่งเลย เพราะฉะนั้น ผมจะขอแจ้งจับคุณในฐานะที่คุณหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานอย่างผม คุณต้องไปโรงพักกับผมเดี๋ยวนี้" หมวดเด่นเสียงเข้ม


"เฮ้ย อะไรอ่ะ มาจับชั้นได้ไง" พุทราโวยวาย มะยมรีบช่วยพูดอีกแรง "โธ่ หมวด ใจเย็นๆ สิคะ"


"ผมไม่เย็นแล้ว ไปเลยคุณพุทรา จะไปดีๆหรือว่าต้องใช้กำลังบังคับ แล้วไม่ต้องให้คุณมะยมตามมาหรอก ถ้าเก่งจริงก็ต้องมาคนเดียว"


พุทราเห็นหมวดเด่นเอาจริงแถมประโยคท้ายยังมาเย้ยหยันกันอีก ก็เชิดหน้ารีบเดินไปขึ้นรถมอเตอรืไซค์จุ๊บจุ๊บขับตามหมวดเด่นที่ขับมอเตอร์ไซค์นำหน้าไปโรงพักทันที เหลือแต่อาโกชาที่มองเหตุการณ์อยู่อย่างขรึมๆ


หันไปมองที่บ้านยายเป๋ออีกที ดวงตาคู่นั้นครุ่นคิด ก่อนจะหันมามองมะยม ก็เห็นมะยมมองมาอยู่ก่อนแล้ว


"มีอะไรหรอครับ ไม่เคยเห็นคนหล่อหรอ" -*-


มะยมได้ยินแล้วแอบเบือนหน้าหนี แต่ก็ยังอุตส่าห์รักษามารยาท "เคยเห็นค่ะ แต่แน่ใจว่าไม่ได้เห็นแถวนี้"


"อ๋อครับ ผมเข้าใจว่าคุณอายที่จะพูดว่าผมหล่อ ผมเข้าใจ" อาโกชายังไม่สำนึก -*- มะยมเห็นท่าว่าจะพูดกับอาโกไม่รู้เรื่องจึงเดินไปที่รถ


"แล้วคุณจะไปไหนล่ะครับ"


"จะไปตลาดค่ะ" มะยมหันมาตอบเตรียมสตาร์ทรถ อาโกชาจึงเดินไปที่รถของตัวเอง "งั้นผมไปมั่ง จะไปร้านก๋วยเตี๋ยวอาโกวิดพอดี ว่าแต่ ขับมอเตอร์ไซค์ไปกับผม คงไม่เขินมากนะครับ"


มะยมฟังแล้วส่ายหน้า รีบบึ่งรถออกไปทันที ทิ้งฝุ่นคลุ้งตลบไว้เต็มหน้าอาโกชา อาโกถึงกับบ่นพึม "คนเรานี่ก็เขินกันแปลกๆ เนอะ"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:33 pm

แมนเดินลงมาจากบ้าน เห็นบริทนีย์เดินเตร็ดเตร่อยู่แถวสวนหน้าบ้าน จึงเดินเข้าไปหา


"มาทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่ไปดูแลพัชรา" แมนทัก บริทนีย์หันมามองทันที แอบเคืองเล็กน้อย "ไม่ต้องมาสั่ง ชั้นรู้แล้วล่ะ มาอาศัยบ้านเขาอยู่ก็ต้องทำอะไรให้เป็นประโยชน์อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหรอก"


แมนได้ยินเสียงน้ำเสียงของบริทนีย์แล้วสะดุดหู "นี่เธอเป็นอะไรหรือเปล่า พูดแปลกๆ นะ"


"ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ชั้นจะเป็นอะไรได้ล่ะ" บริทนีย์ว่าอย่างฉุนๆ แต่แมนยังมองอย่างสงสัย


"พูดยังงี้ยังว่าไม่เป็นอะไรอีก ทำไมหรอ เธอไม่เต็มใจจะดูแลพัชราหรอ เขาน่าสงสารออกนะ ไม่สบายนอนซมเลย"


บริทนีย์หันมามองหน้าแมน เห็นแมนทำหน้างงก็เบือนหน้าหนี "รู้สึกนายจะรู้ดีจังนะ ท่าทางอยากจะมาดูแลเองล่ะสิ"


แมนฟังแล้วชะงัก "เธอพูดอะไรของเธอ พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะว่ายังไง"


"ทำไม กลัวพัชราจะเสียหายหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก ชั้นจะระวังคำพูดดีๆ ไม่ให้พัชราต้องเสื่อมเสีย" บริทนีย์ว่าแล้วสะบัดหน้าหนี ก่อนจะนึกอะไรได้ หันมาพูดเชิดๆ


"แล้วไม่ต้องมาทำยืนมองหน้าประตูบ้านอีกนะ อยากมาเยี่ยมเขาก็เข้ามาเลย ชั้นรู้ ว่านายเป็นห่วงพัชรามาก" แล้วก็สะบัดหน้าหนีไป แมนมองตามอย่างงงเล็กน้อย บริทนีย์เป็นอะไร ทำท่าเหมือนโกรธ แล้วเราพูดอะไรผิดไปหรอ ก็แค่พูดเรื่องพัชรา...


พูดถึงพัชราแมนก็มีสายตาอ่อนโยนขึ้น คิดไว้ในใจว่า พรุ่งนี้ต้องมาเยี่ยมพัชราอีก ว่าแต่...พรุ่งนี้ไม่มีคนช่วยส่งจดหมายแน่ๆ เลย ท่าทางบริทนีย์จะโกรธเรา คิดแล้วก็รู้สึกใจหายชอบกล
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:34 pm

ลูกตุ้มขับรถแจ๊สสีขาวมาจอดที่หน้าตลาด แล้วลงมาจากรถ ทำเมียงมองไปที่วินรถมอเตอร์ไซค์เพื่อมองหาใครบางคน..แต่ก็ไม่เจอ


จึงเดินเตร็ดเตร่มานั่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของอาโกวิด เห็นอาโกวิดท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนกำลังรอใครอยู่ก็ถามด้วยความสงสัย


"โกเป็นอะไรคะ รอใครอยู่หรอ"


"ก็รออาหมิงกับอาร่าอยู่น่ะหนูลุกตุ้ม" อาโกตอบ ตามองไปที่นอกร้าน


"ทำไมละคะ สองคนนั้นเขาไปไหน"


"ก็...เอ่อ..." อาโกกระซิบกระซาบ "อาร่าหายไปเมื่อคืนนี้ที่งานวัด อาหมิงเลยไปตาม ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง"


"จริงหรอคะ แล้วนี่หมิงไปตามที่ไหนล่ะคะ"


"ก็เห็นว่าจะไปบ้านคุณนายแจ่มที่อาบริทนีย์เพื่อนอาร่าอยู่น่ะ เผื่ออาร่าจะไปอยู่ที่นั่น" อาโกวิดว่า ท่าทางเป็นห่วง ลูกตุ้มจึงปลอบ "อาโกอย่าเพิ่งคิดมากไปเลยค่ะ บางทีเซร่าอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้" ลูกตุ้มมองไปที่วินมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง ไม่เห็นวี่แววของคนที่อยากจะเจอก็แอบถอนใจ กำลังจะลุกออกจากโต๊ะก็ได้ยินเสียงรถสปอร์ตคันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดังเฟี้ยวววววววววว


รถจอดดังเอี๊ยดดดดดดดด แล้วหยุดกึก


อาโกวิดและลูกตุ้มหันไปมอง ก็เห็นพ่อตุ่น ชุมพลเจ้าของรถทำยิ้มเท่ห์เปิดประตูรถออกมา ทำท่าทางจะมาเปิดประตูให้คนนั่งข้างๆ แต่ไม่ทัน เพราะเซเรน่านั้นกระโดดลงตั้งแต่รถยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ


เซเรน่าลงจากรถได้ก็รีบวิ่งไปหาอาโกวิด ปากก็ร้องว่า "อาโกๆ หนูมาแล้วๆ"


อาโกวิดทิ้งกระบวยก๋วยเตี๋ยวรีบเข้าไปหา "อาร่าๆ ลื้อไปไหนมา รู้ไหมว่าโกกับอาหมิงเป็นห่วงมาก" อาโกวิดสำรวจใบหน้าเซเรน่าอย่างละเอียด


"เมื่อคืนไปนอนที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ ถ้าลื้อเป็นอะไรไปแล้วโกกับอาหมิงจะทำยังไง" อาโกอดตำหนิไม่ได้ แต่ในน้ำเสียงตำหนินั้นก็แฝงความรักและความเอ็นดูอย่างที่รู้สึกได้


เซเรน่ากอดอาโกไว้ ไม่อาจตอบได้ว่าเมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา ได้แต่บอกว่า "หนูรู้แล้วโก ต่อไปหนูจะระวังตัวมากกว่านี้ หนูขอโทษโกด้วยนะ"


อาโกพยักหน้าหงึกๆ กอดเซเรน่าแล้วพูดด้วยความปราณี "โกก็ต้องขอโทษลื้อด้วย ที่อาจจะดูแลลื้อไม่ดี แต่โกอยากจะบอกอาร่านะ ว่าโกรักและเป็นห่วงอาร่าเหมือนกับเป็นลูกสาวโกคนหนึ่ง โกไม่เคยเห็นลื้อเป็นคนอื่นเลย"


เซเรน่าฟังแล้วน้ำตาซึม กอดอาโกวิดแน่นเข้า ก่อนจะคลายออก ยิ้มให้อย่างร่าเริง "หนูโชคดีจริงๆ ที่ได้มาอยู่บ้านโกกับหมิง" พูดแล้วทำท่ามองหา


"แล้วหมิงไปไหนล่ะโก"


"อาหมิงไปตามลื้อที่บ้านคุณนายแจ่ม เพราะนึกว่าลื้อจะไปอยู่กับอาบริทนีย์" อาโกตอบ ก่อนจะทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ มองไปที่รถสปอร์ตของพ่อตุ่น ชุมพล และพระเอกลิเกผู้เดินเข้ามานั่งเท่ห์อยู่ที่โต๊ะเดียวกับลูกตุ้มนานแล้วก็ไม่มีทีท่าอาโกจะทักสักที


"อ้าว แล้วพ่อตุ่นชุมพลมาได้ยังไงล่ะเนี่ย ไปยังไงมายังไงถึงมาส่งอาร่าได้" อาโกจำต้องทักสักหน่อย เดี๋ยวพ่อตุ่นจะเสียเซลฟ์ ที่ไม่มีคนสนใจ เพราะลูกตุ้มที่นั่งโต๊ะเดียวกันนั้นทำเมินเหมือนมองไม่เห็นซะอย่างนั้น


"อ้อ ก็พอดีผมไปเจอคุณน้องเค้าที่......" พี่ตุ่น ชุมพลพูดไม่ทันจบ เซเรน่าก็รีบแทรกขึ้นมาทันที


"เฮ้ยยยย โกกกกก หนูหิวข้าวอ่ะ" รีบขัดเสียด้วยใจระทึก นี่ถ้าพี่ตุ่น ชุมพลบอกว่าจะไปเจอที่ไหนก็รู้หมดสิว่าเมื่อคืนเราไปนอนที่อนามัย บรื้อส์


"อ้าว หิวข้าวหรอ อาร่า" อาโกเองก็ไม่ทันฟัง ได้ยินเสียงร้องหิวข้าวจึงหันมาใส่ใจเซเรน่า "มาๆ งั้นเดี๋ยวโกพาไปกินนะ" พูดเสร็จแล้วชวนเซเรน่าเข้าไปกินข้าวในครัวหลังบ้าน ทิ้งพ่อตุ่น ชุมพลให้นั่งอ้าปากค้าง


"อะอ้าววววว" พูดได้แค่นั้น ก็กลับมาทำเก๊กหล่อเหมือนเดิม หันไปมองคนที่นั่งร่วมโต๊ะก็เห็นลูกตุ้มมองไปทางวินมอเตอรืไซค์ไม่ได้ใส่ใจตัวเองแม้แต่น้อย


พ่อตุ่นชุมพลรู้สึกขัดใจเล็กๆ พระเอกลิเกอย่างเขา เยื้องย่างไปไหนมีแต่สาวรุมกรี๊ด แต่นี่อะไร มาเบือนหน้าหนีซะอย่างนั้น


"เอ่อ สวัสดีครับ น้องลูกตุ้ม" พ่อตุ่นเอื้อนเอ่ยวจี ลุกตุ้มละสายตาจากวินมอเตอร์ไซค์มามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย


"ขอโทษนะคะ พอดีตุ้มเป็นลูกคนเดียวค่ะ ไม่มีพี่น้อง" แป่วว


พี่ตุ่น ชุมพลอึ้งไปเล้กน้อย ก่อนจะปรับท่าทีใหม่ "แหม พี่ล้อเล่นน่า น้องลูกตุ้มทำซีเรียสไปได้ ไม่เคยได้ยินหรือจ๊ะ ที่เขาว่า รักดอกจึงหยอกเล่นน่ะ"


"เคยได้ยินค่ะ" ลูกตุ้มตอบ เน้นเสียงประโยคหลัง "...แต่ไม่ชอบ" ลูกตุ้มว่าแล้วทำท่าจะลุกเดินหนี พ่อตุ่น ชุมพลเริ่มเสียเซลฟ์ขึ้นเรื่อยๆ รีบเรียกเอาไว้


"เดี๋ยวสิน้องลูกตุ้ม นี่มีอะไรไม่พอใจพี่หรือเปล่า บอกพี่ได้นะ"


"ไม่มีหรอกค่ะ พอดีไม่ได้สนใจอะไรมากมาย" ลูกตุ้มตอบแล้วเดินออกมาทันที เบื่อจริงๆ พระเอกลิเกคนนี้ ทำให้แม่เราต้องคอยเฝ้าตามเช้าตามเย็น วันๆ ก็มีแต่เรื่องผู้หญิง ไม่รู้แม่ไปชอบได้ไง ลูกตุ้มคิดก่อนส่ายหน้าน้อยๆ อดหันไปมองวินมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ เอ ทำไมพี่ทุยยังไม่มาทำงานอีก เป็นอะไรไปหรือเปล่านะ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:34 pm

บริทนีย์เดินขึ้นบ้านมาเงียบๆ เปิดประตูเข้ามาในห้องพัชรา เห็นเจ้าของห้องนอนมองเหม่อไปที่ระเบียงก็เข้ามานั่งข้างเตียง


"ชั้นเข้ามาได้ไหม พัชรา" บริทนีย์ถามเนือยๆ พัชราเองก็ตอบเนือยๆ เช่นกัน "ได้สิ เธอก็เข้ามาแล้วนี่"


"จริงสินะ ชั้นไม่น่าถามเลย" บริทนีย์ยิ้มกับตัวเองเศร้า มองพัชราแล้วว่า "เธอเป็นยังไงบ้าง หายดีหรือยัง"


พัชราส่ายหน้า ละสายตาจากระเบียงบ้านนั้น ไม่รู้ทำไมสิน่า ต้องคอยหวาดระแวงที่ระเบียงอยู่ตลอด ในใจนั้นปฏิเสธว่าไม่ได้แอบหวังว่าจะเห็นใครที่ระเบียงสักนิด


หันมามองบริทนีย์ก็รู้สึกแปลก "ชั้นก็เรื่อยๆ ดูเหมือนจะหาย แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ว่าแต่เธอเถอะ" พัชราหยุดมองหน้าบริทนีย์อย่างละเอียด


"เธอดูแปลกๆ นะ ไม่ร่าเริงสดใสเหมือนที่เคย"


บริทนีย์หันมามองพัชรา ขยับจะพูดอะไรก็เปลี่ยนใจไม่พูด ได้แต่นั่งเงียบ มองดูพัชราแล้วก็ถามขึ้นมาลอยๆ


"ความรักคืออะไร..." พัชราได้ฟังก็ชะงัก หันมามองหน้า บริทนีย์จึงย้ำ "หือ เธอว่าความรักคืออะไร"


"ทำไมอยู่ดีๆ ถึงถามล่ะ หรือว่า..." พัชรามองหน้าบริทนีย์ก็ได้เห็นแต่แววตาเศร้า ไม่ใช่แววตาของคนที่มีความสุขเพราะความรักอย่างที่คาดว่าจะเห็น


"หรือว่าเธอ..."พัชราพูดต่อไม่ออก


"ชั้นไม่มีหรอก.." บริทนีย์รีบปฏิเสธทันที "ก็แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าเธอมีความคิดเห็นยังไง"


"สำหรับชั้น ความรักคือความเข้าใจกัน" พัชราพูดแล้วถอนหายใจ "ถ้าเราเข้าใจกันซะอย่างเดียว ก็จะไม่มีอะไรมาทำลายความรักของเราได้ และความรัก คือการเสียสละ..." พัชรานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ "บางครั้งเราต้องเสียสละเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข"


"แม้ว่าเราจะต้องเจ็บปวดอย่างนั้นหรอ" บริทนีย์ถามขึ้นมาทันที พัชราพยักหน้า


"ก็คงจะใช่ เพราะถ้าเราเห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็น่าจะมีความสุขด้วย จริงไหม" ประโยคท้ายหันมาถามบริทนีย์ ทำเอาบริทนีย์อึ้งไป มองพัชราแล้วคว้ามือมากุมไว้


"อืมๆ ก็คงจะจริงอย่างที่เธอว่า บางครั้งการทำอะไรให้คนที่เรารัก มันก็เป็นความสุขนะ" หยุดพูดแล้วมองมือพัชราที่กุมไว้ พูดลอยๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจ


"เธอโชคดีจังเลย"


พัชราทำหน้าสงสัย หันมาถาม "โชคดีเรื่องอะไร..." แต่บริทนีย์กลับตอบยิ้มๆ "ไม่รู้สิ..."
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:35 pm

กว่าทุยจะขับรถมอเตอร์ไซค์มาถึงวินก็เป็นเวลาสายมากแล้ว เมื่อรถของเขาเข้ามาจอดก็เห็นใครคนหนึ่งกำลังรอเขาอยู่


ทุยจำต้องเดินเข้าไปหา พร้อมกับทักอย่างเสียไม่ได้


"สวัสดีครับ คุณนาย" ไหว้อย่างนอบน้อม คุณนายแจ่มหันมามองแล้วยิ้มให้อย่างที่เคย


"ไหว้พระเถอะจ้ะ พ่อทุย" พูดแล้วมองทุยยิ้มๆ จนทุยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย "คุณนายมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"


"แหม มันก็พอมีอยู่บ้างแหละจ้ะ" คุณนายยิ้มไม่ยอมหุบ "ชั้นมีเรื่องจะมาขอร้องพ่อทุย"


"คนอย่างผม สำคัญขนาดที่คุณนายต้องมาขอร้องเชียวหรอครับ" ทุยว่าแล้วยิ้มหยัน แต่คุณนายยังใจเย็น มองทุยด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก


"ใช่จ้ะ เรื่องนี้ชั้นต้องขอร้องพ่อทุยจริงๆ คือว่า เจ้าโง้งควายของพ่อทุยน่ะ มันท่าทางไม่ค่อยจะดีนะจ๊ะ" คุณนายพูดมาถึงตรงนี้ ทุยก็รีบขัดขึ้นทันทีด้วยความเป็นห่วง


"หมายความว่าไงครับ น้องโง้งเป็นอะไรไป"


"ยังไม่ทันได้เป็นอะไรหรอกจ้ะ แต่อาการไม่ค่อยจะดี มันซึมเศร้าไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาการของมันพลอยทำให้ควายตัวอื่นๆ ในฝูงน่ะเป็นไปด้วย ว่าไปแล้ว อาการมันเริ่มเป็นมาน้อยๆ ตั้งแต่มาอยู่บ้านชั้นแล้ว แต่เพิ่มจะมาเป็นหนักเอาตอนนี้"


"แล้วทำไมคุณนายไม่ดูแลน้องโง้งให้ดีล่ะครับ" ทุยว่า นึกไม่พอใจขึ้นมาทันที "ควายมันก็มีชีวิตจิตใจนะครับ มันไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่ตุ๊กตา ที่ใครจะเอาไปเลี้ยงทิ้งขว้างยังไงก็ได้ ผมเลี้ยงควายของผมมาอย่างดี แต่คุณนายกลับเอามันไปทิ้งขว้างจนมันไม่สบายอย่างนี้ ถ้ามันตายขึ้นมาจะทำยังไงครับ ใครจะรับผิดชอบ"


"เดี๋ยวสิจ๊ะ พ่อทุย ใจเย็นๆ" คุณนายรีบรอมชอม แต่ไม่ได้มีทีท่าจะโกรธทุยตอบสักนิด "ชั้นผิดเอง ชั้นยอมรับจ้ะ และก็ต้องขอโทษพ่อทุยด้วย ที่มาวันนี้ก็อยากจะมาขอร้องพ่อทุย" คุณนายว่าแล้วหยุดดูอาการของทุย เห็นกำลังนิ่งฟังอยู่ก็พูดต่อ


"ชั้นอยากจะให้พ่อทุยไปดูอาการเจ้าโง้งหน่อย เพราะชั้นไปปรึกษาสัตวแพทย์มาแล้ว โรคแบบนี้มันเกี่ยวเนื่องกับจิตใจ ใช้ยาอะไรมันก็ไม่หาย เจ้าโง้งตอนนี้ต้องการคนทนุถนอมดูแล รวมทั้งควายตัวอื่นๆ ด้วย และชั้นก็คิดว่าคงไม่มีใครดูแลเจ้าโง้งได้ดีเท่าพ่อทุย ยิ่งตอนนี้เจ้าฟู่กับเจ้าฟี่ก็เปิดเทอมแล้วด้วย ชั้นต้องให้คนงานคนอื่นพาควายไปกินหญ้า ควายมันก็ไม่มีค่อยคุ้น เลยพาลไม่สบายกันไปทั้งฝูง..."


"เดี๋ยวนะครับ..." คุณนายพูดยังไม่ทันจบทุยก็รีบแทรกขึ้นมาอย่างเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่


"นี่คุณนายจะให้ผมไปเลี้ยงน้องโง้งกับควายตัวอื่นด้วยหรอครับ แต่ผมต้องทำงาน..."


"ก็ไม่เชิงหรอกจ้ะ ชั้นรู้ว่าพ่อทุยต้องขับมอเตอร์ไซค์วิน แต่แค่อยากขอแรงพ่อทุยช่วยไปดูเจ้าโง้งกับพวกตอนเช้ากับตอนเย็นเท่านั้น ตอนเช้ามาให้มันเห็นหน้า พามันไปกินหญ้าแค่นั้นก็พอ เดี๋ยวจะมีคนงานคนอื่นมาช่วยดูให้ทั้งวัน แล้วตอนเย็น พ่อทุยก็ช่วยมาดูมันอีกครั้งหนึ่ง พอให้สภาพจิตใจมันดีขึ้นสักระยะหนึ่งเท่านั้นเองแหละจ้ะ แล้วชั้นจะจ่ายค่าแรงให้"


"เรื่องค่าแรงผมไม่รับหรอกครับ ผมทำให้น้องโง้งได้" ทุยรีบพูดทันที


"ได้ยังไง ทำงานก็ต้องมีค่าแรงสิจ๊ะ เอาเถอะ ทำงานเก็บเงินเอาไว้เถอะ ต่อไปพ่อทุยก็อาจจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา" คุณนายว่าแล้วยิ้มอารมณ์ดี ว่าไป คุณนายเจอทุยก็อารมณ์ดีทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนจะอารมณ์เสียสักที


"ชั้นอยากให้พ่อทุยจำเอาไว้นะว่า ประตูบ้านชั้นน่ะ เปิดรับพ่อทุยเสมอ"
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
kkat
เด็กยกไฟ



เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 124
Registration date : 25/12/2006

มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย   มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย - Page 4 EmptyThu May 31, 2007 3:35 pm

ตรัยนั่งทำงานอยู่ที่สถานีอนามัย ป่านนี้หมอน้ำมนต์คงไปตรวจพัชราที่บ้านแล้ว แล้วก็คงจะเลยไปตรวจชาวบ้านอีกหลายบ้าน กว่าจะกลับมาก็คงเย็น


นั่งทำงานแต่ใจลอยไปไหนก็ไม่รู้ เราไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนนี่


เฮ้อ รวบรวมกำลังใจทำงานต่อดีกว่า วันนี้ต้องจัดหมวดหมู่สารบบยาให้เข้าที่ ยังมีงานอีกมากรอเราอยู่ ไม่ควรจะมานั่งใจลอยกับเรื่องไร้สาระ...ไร้สาระหรอ คิดแล้วถอนหายใจอีกครั้ง


พลันก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าสถานีอนามัย ตรัยรีบลุกขึ้นมอง


ก็เห็นบุรุษไปรษณีย์แมนกำลังเดินตรงมาหาเขา ในมือถือจดหมายมาด้วยหลายฉบับ


"ผมเอาจดหมายมาส่งครับ" แมนบอกแล้วมองตรัยยิ้มๆ เล่นเอาตรัยงงเล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือออกไปรับ


"ขอบคุณมากนะครับ" ว่าแล้ววางจดหมายลงที่เคาน์เตอร์ หันมาอีกทีก็เห็นแมนมองอยู่ก่อนแล้ว ตรัยจึงถาม


"มีอะไรหรือเปล่าครับ คุณแมน" แมนสะดุ้ง รีบปฏิเสธ "เปล่าครับ ไม่มีอะไร"


ตรัยพยักหน้าอย่างไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรอีก ถามต่อว่า " แล้วคุณพัชราเป็นยังไงบ้างครับ ป่านนี้หมอน้ำมนต์คงตรวจเสร็จแล้ว"


"เมื่อกี้ผมเข้าไปดูอีกครั้ง เห็นหมอน้ำมนต์ตรวจเรียบร้อยแล้วครับ พัชราท่าทางดีขึ้น คงจะไม่เป็นอะไรมาก" แมนตอบ เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อถึงอาการที่ดีขึ้นของพัชรา


"ผมก็คิดว่าคุณพัชราคงไม่เป็นอะไร ยิ่งถึงมือหมอน้ำมนต์แล้ว ก็หายห่วงได้ครับ" ตรัยตอบ ก่อนจะทำท่าเก็บข้าวของ แมนมองอยู่จึงถาม


"แล้วนี่หมอต่ายจะไปไหนครับ"


"ผมจะไปทานข้าวกลางวันน่ะครับ จะออกไปรอรถไปตลาดน่ะครับ" ตรัยหันมาตอบ แมนได้ยินดังนั้นจึงอาสา


"งั้นหมอต่ายไปกับผมก็ได้ ผมก็จะต้องไปตลาดพอดีเหมือนกัน"


"งั้นก็ต้องขอบคุณมากนะครับ" ตรัยยิ้มแล้วเดินลงสถานีอนามัยมากับแมน


"ผมว่า หมอต่ายคงต้องหารถสักคันแล้วล่ะครับ ไปไหนจะได้สะดวก" แมนว่า ตรัยนิ่งไปนิด นึกไปถึงรถสปอร์ตสีแดงเพลิงคันเมื่อเช้าที่มารับใครคนหนึ่งไปทันที อืมๆ เราคงต้องหารถสักคัน
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
 
มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 4 เธˆเธฒเธ 6เน„เธ›เธ—เธตเนˆเธซเธ™เน‰เธฒ : Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6  Next
 Similar topics
-
» ???? ??? @ ??าน????????

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
 :: :: Talk Of The Twin :: :: :: Fan Fiction ::-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: